ข่าวหลุดล่าสุดของ vivo X200T ทำเอาคอเทคฯ หลายคนต้องกุมขมับ เพราะหลังจากที่มีข่าวลือถึงการมาของรุ่นนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดรายการสเปกเต็มชุดของมันก็ถูกปล่อยออกมา และมันช่าง คุ้นตา อย่างน่าประหลาดใจ! X200T มาพร้อมหน้าจอ LTPS OLED ราบเรียบ 6.67 นิ้ว ความละเอียด "1.5K" รีเฟรชเรท 120Hz ที่สว่างถึง 1,600 nits สเปกหน้าจอจัดเต็มตามสไตล์ vivo จริงๆ

ขุมพลังหลักก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง MediaTek Dimensity 9400+ SoC จับคู่กับ RAM LPDDR5X และหน่วยความจำ UFS 4.0 ซึ่งให้ประสิทธิภาพในระดับเรือธงสุดๆ ด้านกล้องก็จัดหนักไม่แพ้กัน ด้วยกล้องหลังสามตัวความละเอียด 50MP ทั้งหมด! ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ Sony IMX921) ที่มี OIS, กล้อง Ultrawide 50MP (เซ็นเซอร์ Samsung JN1) และกล้อง Periscope Telephoto 50MP ซูมออปติคัล 3 เท่า (เซ็นเซอร์ Sony IMX882) ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ก็ให้มา 32MP
สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือแบตเตอรี่ขนาด 6,200 mAh พร้อมรองรับชาร์จไวแบบมีสาย 90W และชาร์จไร้สาย 40W ตัวเครื่องยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ระดับพรีเมียม ทั้ง Wi-Fi 7, NFC, IR Blaster, ลำโพงคู่สเตอริโอ, มอเตอร์สั่น X-axis, และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแบบ Ultrasonic แถมยังได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับท็อป IP68 และ IP69 อีกด้วย โดยตัวเครื่องจะมีความบาง 7.99 มม. และหนักประมาณ 203-205 กรัม
และนี่คือจุดที่ทำให้ทุกคนต้องเกาหัว! สเปกทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มัน เหมือนกับสเปกของ vivo X200s ทุกประการ! หากข่าวลือนี้เป็นจริงและไม่ได้ผิดพลาด Vivo อาจจะกำลังตัดสินใจนำ X200s มาเปลี่ยนชื่อเป็น X200T เพื่อทำตลาดในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในอินเดีย ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าราคาน่าจะอยู่ราวๆ INR 60,000 (ประมาณ 26,200 บาท) การกระทำแบบนี้แม้จะน่าสับสน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการมือถือจีน

หมีเด้งวิเคราะห์ : การที่ vivo ตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อรุ่นมือถือเรือธงอย่าง X200s เป็น X200T สำหรับตลาดโลก เป็น กลยุทธ์การลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการทำตลาด (Cost-Efficiency and Market Agility) ในตลาดต่างประเทศ การใช้สเปกระดับเรือธง (Dimensity 9400+, กล้อง 50MP สามตัว, IP69) ในราคาเริ่มต้นที่สองหมื่นกลางๆ ถือเป็นการกดดันคู่แข่งในตลาดอินเดียอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการฟีเจอร์กล้องระดับสูงและการชาร์จไว แต่การนำรุ่นเดิมมาเปลี่ยนชื่อก็อาจทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้บริโภคที่ติดตามเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิดได้เช่นกัน
source: gsmarena