Poco ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Poco F8 อย่างยิ่งใหญ่ในงานที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยชูจุดเด่นที่สเปกระดับเรือธงและการผนึกกำลังกับ Sound by Bose เพื่อประสบการณ์เสียงที่ไม่ธรรมดา

เริ่มที่รุ่น Poco F8 Ultra นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตสุดโหด Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อมชิปเสริม VisionBoost D8 และระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาด 6,700 ตร.มม. หน้าจอเป็น AMOLED 6.9 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ที่สว่างสูงสุดถึง 3,500 nits พร้อมอัตรารีเฟรชปรับได้ 120Hz และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ Ultrasonic กล้องหลังสามตัวประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1.31 นิ้ว พร้อม OIS), กล้อง Periscope Telephoto 50MP ที่ซูมแบบออปติคัล 5x และ Ultrawide 50MP แบตเตอรี่ 6,500mAh รองรับชาร์จเร็วมีสาย 100W และไร้สาย 50W ตัวเครื่องมีมาตรฐาน IP68 และมีวูฟเฟอร์ด้านหลังที่ทำงานร่วมกับลำโพงคู่เพื่อมอบระบบเสียงแบบ 2.1 รันบน HyperOS 3 (Android 16) พร้อมการอัปเดตหลัก 4 ปี และแพตช์ความปลอดภัย 6 ปี.

ส่วน Poco F8 Pro ซึ่งเป็นรุ่นรองลงมาก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนหน้า พร้อมระบบระบายความร้อน 3D IceLoop หน้าจอ AMOLED LTPS 6.59 นิ้ว 120Hz ความละเอียด FHD+ กล้องหลังสามตัวประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP (OIS), กล้อง Telephoto 50MP ที่ซูมแบบออปติคัล 2.5x และ Ultrawide 8MP แบตเตอรี่ขนาด 6,210mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W และมีมาตรฐาน IP68 เช่นกัน โดยมีสเปกซอฟต์แวร์และการรับประกันที่เหมือนรุ่น Ultra ทุกประการ สำหรับราคาในช่วง Early-bird มีรายละเอียดดังนี้ Poco F8 Pro ราคาเริ่มต้น ประมาณ 19,000 บาท และ Poco F8 Ultra ราคาเริ่มต้น ประมาณ 24,500 บาท
.jpg)
หมีเด้งวิเคราะห์ : Poco F8 Series—การท้าทาย 'เรือธง' ด้วยสเปกที่ 'เหนือความคาดหมาย'
การเปิดตัว Poco F8 Series ถือเป็น การยกระดับแบรนด์ Poco สู่ระดับเรือธงพรีเมียมอย่างเต็มตัว ชัดเจนว่า Poco กำลังพยายามทำลายขีดจำกัดด้าน "ราคา" ด้วยการนำเสนอ "คุณสมบัติระดับสุดยอด" ที่มักพบในโทรศัพท์ราคาแพงกว่ามาก การที่ F8 Ultra เป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ควบคู่กับแบตเตอรี่ 6,500mAh ชาร์จ 100W/50W และกล้อง Periscope 5x รวมถึงระบบเสียง Sound by Bose ที่มีวูฟเฟอร์ด้านหลัง แสดงให้เห็นว่า Poco มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ มัลติมีเดียและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า คู่แข่งในตลาด "เรือธงราคาประหยัด" ทั่วไป กลยุทธ์การแยกสเปกกล้อง Telephoto (5x ใน Ultra, 2.5x ใน Pro) และชิปเซ็ตที่ต่างกัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกความสุดยอดที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ โดยที่ทั้งสองรุ่นยังคงมีราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้รับ ทำให้ซีรีส์ F8 เป็น "ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด" สำหรับผู้ที่ต้องการเรือธงโดยไม่จ่ายราคาเรือธงเต็มจำนวน.
source: gsmarena