พร้อมกับการเปิดตัว Mate 80 และ Mate X7 เรือธงรุ่นใหม่ Huawei ยังได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นอีกสองอย่างในประเทศจีน นั่นคือแท็บเล็ต MatePad Edge 2-in-1 ที่มีเป้าหมายจะมาแทนที่แล็ปท็อป (คล้าย Microsoft Surface) และรุ่นพิเศษ Extraordinary Master Edition ของ MateBook Fold ตัวเครื่อง MatePad Edge สร้างขึ้นจากอะลูมิเนียม Unibody เพรียวบาง โดยมีความหนาเพียง 6.85 มม. และหนัก 789 กรัมเท่านั้น จุดเด่นคือมีขาตั้งในตัวที่ปรับได้ถึง 175 องศา.

Huawei MatePad Edge ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Kirin X90 หรือ Kirin X90A ซึ่ง Huawei เคลมว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่า Apple M5 และแรงกว่า Kirin T92 รุ่นก่อนหน้าถึง 3.8 เท่า โดยมีตัวเลือก RAM ตั้งแต่ 16-32GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB-2TB และยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและ Dual Vapor Chambers เพื่อควบคุมความร้อน หน้าจอเป็น OLED 14.2 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz ความละเอียด 3,120 x 2,080 พิกเซล อัตราส่วน 3:2 และความสว่างสูงสุด 1,000 nits รองรับปากกา M-Pencil Pro และมีลำโพง 6 ตัว พร้อมไมโครโฟน 4 ตัว กล้องหลังประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP และ Ultrawide 8MP ส่วนกล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่มีความจุ 12,900mAh รองรับ ชาร์จเร็ว 140W โดยมีพอร์ต I/O เพียง USB 3.1 Gen 1 หนึ่งพอร์ต.

MatePad Edge มีให้เลือกสี Space Gray และ Bright Moon Silver โดยมีราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่นพื้นฐาน 16GB/256GB ที่ 5,999 หยวน (ประมาณ 30,280 บาท) และรุ่นท็อป 32GB/2TB อยู่ที่ 12,999 หยวน (ประมาณ 65,650 บาท) ในส่วนของ MateBook Fold Extraordinary Master Edition ที่มาพร้อมสเปก 32GB/2TB และดีไซน์สีดำ/แดง มีราคาจำหน่ายสูงถึง 26,999 หยวน (ประมาณ 136,360 บาท)

หมีเด้งวิเคราะห์ : Huawei MatePad Edge—การท้าทาย 'Surface' และ 'iPad Pro' ด้วยพลัง Kirin และ HarmonyOS

การเปิดตัว MatePad Edge เป็นการประกาศเจตนารมณ์ของ Huawei ในการ ท้าทายตลาดพรีเมียม 2-in-1 ที่นำโดย Microsoft Surface และ Apple iPad Pro อย่างดุดัน การเคลมว่าชิป Kirin X90 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Apple M5 แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในเทคโนโลยีชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเอง และการมุ่งเน้นประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อปอย่างจริงจัง การที่ MatePad Edge รันบน HarmonyOS 5 (HarmonyOS Next 5) พร้อมการสนับสนุนแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปอย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็น กุญแจสำคัญ ในการชิงส่วนแบ่งจากตลาด PC/แล็ปท็อป และทำให้แท็บเล็ตนี้สามารถทำหน้าที่แทนแล็ปท็อปได้จริง การออกแบบที่เน้นความบางเบา (6.85 มม. / 789 กรัม) แบตเตอรี่ 12,900mAh และชาร์จเร็ว 140W ที่เร็วที่สุดในบรรดาแท็บเล็ตพรีเมียม ทำให้ MatePad Edge เป็นผลิตภัณฑ์ที่ครบเครื่องและสร้างจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งในแง่ของ นวัตกรรมฮาร์ดแวร์และพลังงาน อย่างชัดเจน

 source: gsmarena