OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงไฮเอนด์รุ่นล่าสุดในประเทศจีนอย่างเป็นทางการแล้ว นั่นคือ Reno 15 และ Reno 15 Pro โดยทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง MediaTek Dimensity 8450 SoC พร้อมชูจุดเด่นด้านกล้องและแบตเตอรี่ รุ่นมาตรฐาน Reno 15 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1216 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz และมีความสว่างสูงสุดถึง 3,600 nits ส่วนระบบกล้องหลังนั้นจัดเต็มด้วยกล้องหลัก 200MP (เซ็นเซอร์ 1/1.56 นิ้ว พร้อม OIS), กล้อง Periscope Telephoto 50MP ที่ซูมแบบออปติคัลได้ 3.5x (พร้อม OIS) และกล้อง Ultrawide 50MP ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่มีความละเอียด 50MP พร้อม Autofocus แบตเตอรี่มีความจุ 6,200mAh รองรับการชาร์จเร็ว 80W พร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียมอย่างเฟรมโลหะ, ลำโพงสเตอริโอ, และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นถึงระดับ IP66 + IP68 + IP69.
.jpg)
สำหรับรุ่น Reno 15 Pro นั้นจะมาพร้อมหน้าจอแบนที่ใหญ่กว่าที่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K 120Hz และความสว่างสูงสุด 3,600 nits เช่นกัน โดยใช้ชุดกล้องหลังสามตัวและกล้องหน้า 50MP ที่ เหมือนกับรุ่นมาตรฐานทุกประการ แต่มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าถึง 6,500mAh และรองรับการชาร์จเร็วไร้สายเพิ่มมาที่ 50W (พร้อมชาร์จมีสาย 80W เท่าเดิม) รุ่น Pro มีน้ำหนัก 205 กรัม (หนักกว่ารุ่นธรรมดาที่ 188 กรัม) สำหรับราคาเปิดตัวในจีนมีดังนี้
- Reno 15 (12GB/256GB): 2,999 หยวน (ประมาณ 13,650 บาท)
- Reno 15 (16GB/1TB): 3,999 หยวน (ประมาณ 18,200 บาท)
- Reno 15 Pro (12GB/256GB): 3,699 หยวน (ประมาณ 16,830 บาท)
- Reno 15 Pro (16GB/1TB): 4,799 หยวน (ประมาณ 21,840 บาท)

หมีเด้งวิเคราะห์ : OPPO Reno 15—การขยับ 'กล้องและแบต' สู่มาตรฐานเรือธงใหม่
การเปิดตัว OPPO Reno 15 Series ด้วยการนำกล้องหลัก 200MP และกล้อง Periscope Telephoto 50MP มาใส่ในสมาร์ทโฟนระดับราคานี้ ถือเป็นการ ยกระดับเกมการแข่งขันของตลาดกลางบน ให้ทัดเทียมกับเรือธงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Reno 15 Series ไม่ได้เป็นเพียงโทรศัพท์ที่เน้นดีไซน์เท่านั้น แต่ยังเป็น "Performance Flagship" ที่ครบเครื่อง ด้วยแบตเตอรี่ความจุใหญ่ถึง 6,200mAh/6,500mAh และมาตรฐานกันน้ำสุดโหด IP69 ซึ่งมักพบในโทรศัพท์สมบุกสมบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความทนทานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด การที่สเปกกล้องและชิปเซ็ตหลักของรุ่น Pro และรุ่นมาตรฐานมีความคล้ายคลึงกันมาก แสดงให้เห็นว่า OPPO ต้องการให้ผู้บริโภคตัดสินใจจากปัจจัยด้าน ขนาดหน้าจอ และ ความจุแบตเตอรี่/การชาร์จไร้สาย เท่านั้น โดยมั่นใจว่าประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นจะยอดเยี่ยมในระดับเดียวกัน


source: gsmarena