ASUS Republic of Gamers (ROG) ได้เขย่าวงการเน็ตเวิร์กด้วยการเปิดตัว ROG Rapture GT-BE19000AI ซึ่งเป็น Router ตัวแรกของโลกที่มีหน่วยประมวลผลประสาท (NPU) หรือ 'สมอง AI' ในตัว อย่างเป็นทางการ หลังจากการโชว์ตัวครั้งแรกที่ CES 2025 Router รุ่นนี้คือการรวมพลังของฮาร์ดแวร์อัจฉริยะ, ประสิทธิภาพอันดุดัน, และระบบ Automation ขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมประสบการณ์การเล่นเกม, การสตรีมมิ่ง, และการควบคุมสมาร์ทโฮมอย่างสมบูรณ์แบบ หัวใจสำคัญของ Router นี้คือ Quad-core CPU ทำงานร่วมกับ RAM DDR4 ขนาด 4GB และที่เก็บข้อมูลภายใน 32GB ซึ่งการมี NPU ในตัวนี้ทำให้ GT-BE19000AI สามารถจัดการกับงานหนักๆ และรันแอปพลิเคชันแบบ Docker ได้โดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

หนึ่งในฟีเจอร์ปฏิวัติวงการคือ Docker Engine ที่ติดตั้งมาให้พร้อมรองรับ Containerized Applications ต่างๆ เช่น AdGuard (สำหรับกรองโฆษณา), Frigate, หรือผู้ช่วยสมาร์ทโฮม ซึ่งหมายความว่า Router สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางอัจฉริยะ (Central Hub) สำหรับ IoT และบริการ AI ได้ในตัวเดียว และยังมี WiFi Insight ที่คอยสแกนสัญญาณรบกวนและปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เสถียรอยู่เสมอ
แต่ที่เป็นพระเอกสำหรับเกมเมอร์คือ AI Game Boost ระบบจัดการทราฟฟิกอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับอุปกรณ์และจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลเกมแบบเรียลไทม์ ซึ่งจากการทดสอบภายในของ ASUS ฟีเจอร์นี้สามารถ ลดค่า Latency (ความหน่วง) ได้สูงถึง 34 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว ด้านการเชื่อมต่อก็จัดหนักไม่แพ้กัน Router รองรับ Tri-band WiFi 7 ที่ใช้ช่องสัญญาณ 320MHz และ 4096-QAM ทำให้ทำความเร็วไร้สายสูงสุดได้ถึง 19Gbps และยังมีพอร์ต 10G Ethernet ถึง 2 พอร์ต และพอร์ต 2.5G อีก 4 พอร์ต ทำให้มีขีดจำกัดความเร็วรวมแบบมีสายสูงถึง 31Gbps นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการระบายความร้อนด้วยแผ่นอะลูมิเนียมที่หนาขึ้น 30% และการเคลือบนาโนคาร์บอน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา.

หมีเด้งวิเคราะห์ : Router อัจฉริยะ—การเปลี่ยนจาก 'ฮาร์ดแวร์ส่งสัญญาณ' เป็น 'เซิร์ฟเวอร์สมองกล'
การเปิดตัว ROG Rapture GT-BE19000AI ถือเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของคำว่า "Router" ในยุค AI อย่างแท้จริง การที่ ASUS กล้าใส่ NPU (Neural Processing Unit) เข้ามาใน Router ไม่ได้เป็นแค่การเพิ่มฟีเจอร์ แต่เป็นการเปลี่ยนบทบาทของ Router จากอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แค่ "กระจายสัญญาณ" ไปเป็น "เซิร์ฟเวอร์สมองกลขนาดเล็ก" ที่ทำงาน Automation และ AI Services ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งยังไม่มีใครทำ การติดตั้ง Docker Engine ที่รองรับการรันแอปพลิเคชันอย่าง AdGuard หรือ Smart Home Assistant โดยตรงบน Router นั้นเป็นการ ปลดแอกผู้ใช้จากการต้องมี Raspberry Pi หรือ Server แยก สำหรับงาน IoT หรือการกรองโฆษณา
นอกจากนี้ การใช้ AI Game Boost เพื่อลด Latency ได้ถึง 34% เป็นการแก้ปัญหาความหน่วงของเกมเมอร์ได้อย่างตรงจุดที่สุด การผสมผสานระหว่างชิป NPU, Wi-Fi 7 (19Gbps), และพอร์ต 10G Ethernet จำนวนมาก แสดงให้เห็นว่า ASUS กำลังเดิมพันครั้งใหญ่ว่าผู้บริโภคระดับพรีเมียมต้องการ ประสิทธิภาพสูงสุดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในทุกด้าน และ Router นี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของบ้านอัจฉริยะและศูนย์บัญชาการเกมมิ่งในเวลาเดียวกัน

source: gizmochina