Vivo ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดมือถือราคาเข้าถึงง่ายด้วยการเปิดตัว Vivo Y19s 5G ในอินเดีย ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในงบประมาณจำกัดที่ต้องการฟีเจอร์ครบเครื่องสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

จุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้คือหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรช 90Hz ทำให้การไถหน้าจอเป็นไปอย่างลื่นไหล, ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 6300 ที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 6nm และที่ขาดไม่ได้คือแบตเตอรี่ลูกยักษ์ขนาด 6,000mAh ที่รับประกันว่าใช้งานได้ตลอดวันแบบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด โดยตัวเครื่องมีความหนา 8.19 มม. และน้ำหนัก 199 กรัม พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 15W แม้หน้าจอจะเป็นแบบ LCD ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) แต่ก็ให้ความสว่างสูงสุดถึง 700nits และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 ที่คลุมด้วย Funtouch OS 15

ด้านการถ่ายภาพอาจจะต้องทำใจเล็กน้อย เพราะมาพร้อมกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซลคู่กับเซ็นเซอร์เสริม 0.08 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น แต่ก็เสริมความทนทานด้วยมาตรฐาน IP64 กันฝุ่นและน้ำ พร้อมรองรับ 5G แบบ Dual SIM และมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้าง ตัวเครื่องมีให้เลือกสองสีคือ Majestic Green และ Titanium Silver โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 10,999 รูปี หรือประมาณ 4,013 บาท

หมีเด้งวิเคราะห์ : Vivo Y19s 5G สมการที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ

การเปิดตัว Vivo Y19s 5G สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ชัดเจนของ Vivo ในตลาดอินเดีย นั่นคือ "ความคุ้มค่าต้องมาก่อน" สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ครองตลาดเริ่มต้น ด้วยการมอบ "ตัวเลข" ที่ดูดีและขายง่ายแก่ผู้บริโภคที่เน้นความคุ้มค่า เช่น แบตเตอรี่ 6,000mAh ที่ใหญ่สะใจ, หน้าจอ 6.74 นิ้วที่ใหญ่เต็มตา, และการเชื่อมต่อ 5G ที่เป็นที่ต้องการอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำขนาดนี้ Vivo ต้อง ลดต้นทุนอย่างหนัก ในส่วนที่ไม่ใช่ตัวเลขที่โดดเด่น เช่น การใช้หน้าจอที่มีความละเอียดเพียง HD+ (ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับหน้าจอขนาด 6.74 นิ้วในปีนี้) และการประหยัดสุดขีดกับสเปกกล้อง (กล้องหลัก 13MP และกล้องเสริม 0.08MP) ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ใช้งานทั่วไปอาจมองข้ามถ้าเทียบกับแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ การทำตลาดด้วยราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 4,013 บาท ทำให้ Vivo สามารถดึงดูดลูกค้าที่ต้องการ "ความอึด" และ "ขนาดใหญ่" โดยไม่สนใจรายละเอียดปลีกย่อยของสเปกที่เน้นคุณภาพอย่างความละเอียดหน้าจอหรือประสิทธิภาพกล้อง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีเยี่ยมสำหรับแบรนด์ที่เน้นยอดขายในประเทศกำลังพัฒนา

 source: gizmochina