วงการสมาร์ทโฟนจีนกำลังร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อมีรายงานหลุดออกมาว่า Redmi อาจเตรียมเปิดตัวโทรศัพท์ที่มีแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในตลาดกระแสหลักเท่าที่เคยมีมา! ตามข้อมูลจาก Digital Chat Station สุดยอดนักปล่อยข่าวหลุดชื่อดัง ระบุว่ามีแบรนด์หนึ่งได้ข้อสรุปในการใช้ แบตเตอรี่ซิลิกอนเซลล์เดียวขนาด 9,000mAh ที่สำคัญคือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังมีการซุ่มทดสอบรุ่นที่ทะเยอทะยานยิ่งกว่านั้น นั่นคือแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 10,000mAh ในห้องแล็บ!

แม้ว่าข่าวลือจะไม่ได้ระบุชื่อแบรนด์อย่างชัดเจน แต่สำนักข่าว MyDrivers ของจีนเชื่อว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่มหึมานี้จะถูกนำมาใช้ใน Redmi Turbo 5 Series ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลความจุแบตเตอรี่ยังคงสับสนอยู่บ้าง เพราะรายงานอีกฉบับที่อ้างอิงจาก Digital Chat Station เช่นกันเมื่อต้นสัปดาห์ระบุว่า Redmi Turbo 5 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ 7,500mAh แทน

ทำให้เกิดการคาดเดาว่า แบตเตอรี่ 9,000mAh นั้นอาจถูกสงวนไว้สำหรับรุ่นย่อยที่สูงกว่า หรืออาจเป็นอุปกรณ์ Redmi รุ่นอื่นไปเลยก็ได้ ส่วนสเปกภายใน Redmi Turbo 5 ลือกันว่าจะใช้ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด MediaTek Dimensity 8500 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 4nm ของ TSMC ซึ่งมาพร้อม CPU Octa-core Arm Cortex-A725 ความเร็วสูงสุด 3.4GHz และ GPU Mali-G720 ขณะที่รุ่นพรีเมียมอย่าง Turbo 5 Pro อาจจะขยับขึ้นไปใช้ชิป Dimensity 9500e หรือ Snapdragon 8 Gen 5 เพื่อมอบประสิทธิภาพขั้นสูงสุดสำหรับผู้ใช้งานระดับฮาร์ดคอร์.

หมีเด้งวิเคราะห์: แบตเตอรี่คือ 'สงครามใหม่' และการเปลี่ยนนิยาม 'เรือธงกลาง'
ข่าวลือเกี่ยวกับแบตเตอรี่ขนาด 9,000mAh ถึง 10,000mAh ที่มาพร้อมกับชาร์จเร็ว 100W บน Redmi Turbo 5 ไม่ได้เป็นแค่การอัปเกรดสเปก แต่เป็นการประกาศว่า "สงครามแบตเตอรี่" กำลังกลับมาสู่ตลาดสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เรียกร้องมานาน การที่ Redmi กล้าที่จะติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดมหึมาเช่นนี้ในสมาร์ทโฟนกระแสหลัก แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการสร้าง จุดขายที่ชัดเจนและแตกต่าง ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
โดยเฉพาะการวางตำแหน่งเป็น "เกมมิ่งโฟน" หรือโทรศัพท์ที่เน้นประสิทธิภาพและความอึด การนำเทคโนโลยี แบตเตอรี่ซิลิกอนเซลล์เดียว มาใช้ก็เป็นก้าวสำคัญ เพราะช่วยให้ยัดความจุที่มากขึ้นได้โดยที่ยังคงรักษาขนาดของตัวเครื่องไว้ได้ดีพอสมควร การจับคู่สเปกนี้กับชิปเซ็ต Dimensity 8500 ที่ทรงพลังและคาดว่าจะมีราคาไม่สูงนัก จะทำให้ Redmi Turbo 5 กลายเป็น "เรือธงระดับกลาง" (Flagship Killer) ที่มี ความคุ้มค่าด้านความอึดและประสิทธิภาพต่อราคา ที่สูงมาก จนอาจบังคับให้คู่แข่งรายอื่นต้องรีบปรับสเปกแบตเตอรี่ตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.
source: gizmochina