ดูเหมือนว่า Apple กำลังวางแผนที่จะปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วย iPhone 20 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของ iPhone โดยข่าวลือที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้คือการที่ iPhone รุ่นนี้จะ ตัดปุ่มกดแบบกายภาพออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปิด/ปิด หรือแม้แต่ปุ่มปิดเสียง ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วย ปุ่มสัมผัสแบบ Solid-State ที่ใช้ระบบสั่น (Haptic Feedback) สุดล้ำ เพื่อสร้างประสบการณ์การกดที่สมจริงเสมือนมีปุ่มจริงๆ ทำให้ดีไซน์ตัวเครื่องมีความเรียบเนียน ไร้รอยต่อ และทนทานต่อการกันน้ำได้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น

นอกเหนือจากดีไซน์แล้ว iPhone 20 ยังจะมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ในส่วนของกล้อง โดยรุ่น Pro คาดว่าจะนำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์กล้องแบบใหม่ที่เรียกว่า Lateral Overflow Integration Capacitor (LOFIC) มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เซ็นเซอร์สามารถ รับแสงได้มากขึ้นอย่างมหาศาล ในทุกพิกเซล ส่งผลให้ภาพถ่ายมีช่วงไดนามิกเรนจ์ (Dynamic Range) ที่กว้างขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ภาพคมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนแม้ในสภาพแสงที่ซับซ้อนมาก และมีคุณภาพโดยรวมที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านดีไซน์ที่ไร้ปุ่มกดและเทคโนโลยีกล้องที่เหนือชั้นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า Apple เตรียมพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนแห่งอนาคต

หมีเด้งวิเคราะห์ข่าว: iPhone 20 คือการประกาศยุคสมัยใหม่ของ "Minimalism" และ "Computational Photography"

ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 20 เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Apple กำลังเตรียมที่จะทิ้งหลักการออกแบบเดิม ๆ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคของ "Minimalism" หรือความเรียบง่ายสูงสุด การตัดสินใจตัดปุ่มกดแบบกายภาพทั้งหมดออกไปนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นความพยายามที่จะสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ไร้รอยต่อ (Seamless User Experience) อย่างแท้จริง โดยใช้เทคโนโลยี Haptic เป็นสะพานเชื่อมระหว่างการสัมผัสกับฟังก์ชันการทำงาน ซึ่งเคยถูกลือมาหลายครั้งและในที่สุดก็จะเกิดขึ้นจริงในรุ่นฉลองครบรอบ 20 ปีนี้ ในแง่ของตลาด การนำเสนอดีไซน์ที่ "ไร้ปุ่ม" จะเป็นการสร้างความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคู่แข่งในตลาด Android ที่ยังคงใช้ปุ่มแบบเดิม

ขณะเดียวกัน การนำเทคโนโลยีกล้อง LOFIC มาใช้ในรุ่น Pro เป็นการตอกย้ำว่า Apple ยังคงเป็นผู้นำด้าน Computational Photography การเพิ่มความสามารถในการเก็บแสงและ Dynamic Range อย่างมหาศาล เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรองรับฟีเจอร์ AI ในอนาคต และเพื่อสร้างความเหนือกว่าในสภาพแสงที่ท้าทาย โดยรวมแล้ว iPhone 20 ถูกวางตัวให้เป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสานความล้ำหน้าด้านดีไซน์เข้ากับประสิทธิภาพการประมวลผลภาพถ่ายระดับปฏิวัติวงการ ซึ่งจะเป็นการ "รีเซ็ต" นิยามของสมาร์ทโฟนเรือธงอีกครั้งในปี 2027 เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่มองหานวัตกรรมที่ก้าวล้ำนำหน้าอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องสนใจตัวเลขราคาเริ่มต้นที่อาจจะสูงขึ้นไปอีกจากราคาของรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 19 Pro Max ที่เริ่มต้นประมาณ 48,900 บาท

 source: gsmarena , 2