ในที่สุด OnePlus ก็เปิดตัวคู่หูเรือธงชุดใหม่ที่หลายคนรอคอยอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน นั่นคือ OnePlus 15 และ OnePlus Ace 6 โดยคาดว่าทั้งคู่จะตามมาเปิดตัวในตลาดโลกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งทั้งสองรุ่นชูจุดเด่นที่ชิปเซ็ต Snapdragon ระดับท็อป หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 165Hz และที่สำคัญที่สุดคือแบตเตอรี่ขนาดมหึมาที่อัดแน่นมาให้แบบไม่กั๊กเลยทีเดียว
OnePlus 15: พลิกดีไซน์ แบนราบ และแบตฯ โคตรอึด

รุ่นเรือธงตัวจริงอย่าง OnePlus 15 ได้รับการยกเครื่องดีไซน์ใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนจากหน้าจอโค้งสี่ด้านของรุ่นก่อนหน้ามาเป็นหน้าจอ แบนราบ (Flat Display) อย่างสมบูรณ์ หน้าจอใหม่นี้เป็นพาเนล BOE X3 ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 165Hz ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากหน้าจอ QHD 120Hz เดิม แถมขอบจอยังบางเฉียบเพียง 1.15 มม. เท่ากันทุกด้าน ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย ส่วนระบบกล้องก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยยุติการร่วมมือกับ Hasselblad แล้วหันมาใช้ระบบ Lumo Imaging System ของ Oppo แทน กล้องหลักยังคงเป็น 50MP แต่ใช้เซ็นเซอร์ที่เล็กลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม กล้องซูม 50MP นั้นได้รับการอัปเกรดเป็นการซูมแบบ 3.5x (85 มม.) เพื่อการถ่ายภาพบุคคลและระยะไกลที่ดียิ่งขึ้น และยังมีกล้อง Ultrawide 50MP เสริมทัพ ปิดท้ายด้วยกล้องเซลฟี่ 32MP ที่ด้านหน้า
แน่นอนว่าพลังขับเคลื่อนมาจากชิปเซ็ตตัวล่าสุด Snapdragon 8 Elite Gen 5 แต่ไฮไลต์ที่เด่นที่สุดคือแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากถึง 7,300mAh พร้อมการชาร์จที่รวดเร็วขึ้นเป็น 120W แบบมีสาย และรองรับการชาร์จไร้สาย 50W ด้วย โดย OnePlus 15 จะเริ่มวางจำหน่ายในจีนพรุ่งนี้ (28 ตุลาคม) บนเว็บไซต์ของ OnePlus เอง มีสีให้เลือกคือ Absolute Black, Misty Purple และ Sand Dune โดยรุ่นเริ่มต้น 12GB/256GB เปิดราคามาที่ 3,999 หยวน (ประมาณ 18,400 บาท) และทำงานบน ColorOS 16 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 16
OnePlus Ace 6: แบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในตระกูล และชิป Extreme Edition

สำหรับ OnePlus Ace 6 ซึ่งเป็นทายาทของ Ace 5 ในจีน และคาดว่าจะเปิดตัวทั่วโลกในชื่อ OnePlus 15R นั้น กลับกลายเป็นผู้ชนะด้านแบตเตอรี่ไปเสียอย่างนั้น ด้วยความจุที่ใหญ่โตถึง 7,800mAh พร้อมรองรับการชาร์จมีสาย 120W เหมือนกัน แต่ไม่มีชาร์จไร้สาย Ace 6 ขับเคลื่อนด้วยชิปที่แรงไม่แพ้กันอย่าง Snapdragon 8 Elite Extreme Edition มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.83 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และอัตรารีเฟรช 165Hz เช่นกัน แต่เพื่อคงราคาให้ดึงดูดใจ ระบบกล้องหลังจึงถูกลดเหลือเพียงสองตัว คือ กล้อง Wide 50MP และ Ultrawide 8MP พร้อมกล้องหน้า 16MP ถึงแม้จะมีข่าวเปิดตัวออกมาพร้อมกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายของ Ace 6 ออกมาแต่อย่างใด
บทวิเคราะห์ : การปรับกลยุทธ์เพื่อสายเกมมิ่งและความทนทาน

การเปิดตัวของ OnePlus 15 และ Ace 6 สะท้อนให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์ที่ชัดเจนของ OnePlus ในการเน้นไปที่ พลังงาน (Endurance) และ ประสบการณ์การเล่นเกม (Gaming Experience) การที่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ระดับ 7,300mAh และ 7,800mAh นั้นถือเป็นก้าวสำคัญที่แตกต่างจากแนวทางของแบรนด์เรือธงส่วนใหญ่ในตลาด ซึ่งปกติจะให้ความจุราว 5,000mAh เท่านั้น การตัดสินใจเปลี่ยนจอโค้งเป็น จอแบน 165Hz บน OnePlus 15 ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเอาใจกลุ่มผู้เล่นเกมที่ต้องการหน้าจอที่ตอบสนองไวที่สุดและลดความผิดเพี้ยนในการสัมผัสขอบจอ
นอกจากนี้ การเปลี่ยนจากการใช้ Hasselblad ไปสู่ระบบ Lumo Imaging System ของ Oppo ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตา เพราะมันตอกย้ำถึงการรวมศูนย์เทคโนโลยีภายในเครือ BBK ที่มากขึ้น แม้ว่าอาจจะทำให้ "เอกลักษณ์" ด้านภาพถ่ายของ OnePlus ลดลง แต่ก็อาจช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของกล้อง Periscope ที่มีเลนส์ซูมใหม่ได้ดีขึ้น การวางตำแหน่ง Ace 6 ด้วยชิป "Extreme Edition" และแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ารุ่นเรือธง (15) อย่างชัดเจน ก็แสดงให้เห็นว่า Ace series นั้นถูกผลักดันให้เป็น "Gaming Flagship" ที่เน้นความอึดและการประมวลผลสูงสุด ขณะที่ OnePlus 15 ยังคงรักษาความเป็นเรือธงที่สมดุลกว่าในภาพรวม การแข่งขันในเดือนพฤศจิกายนนี้จึงน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปะทะกันของ "เรือธงสายอึดและสายเกม" ที่ต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งหลัก
source: gsmarena