กำเนิด iPad Pro พลัง M5 ยกชุด
วันนี้ Apple สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว iPad Pro รุ่นอัปเดต ทั้งขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ซึ่งคราวนี้ได้รับการยกเครื่องชิปเซ็ตภายในให้ทันสมัยที่สุดเท่าที่ Apple มี โดยไม่เพียงแค่ชิป M5 ตัวใหม่ล่าสุดเท่านั้น แต่ยังพ่วงมาด้วยชิป N1 สำหรับเครือข่ายไร้สาย และชิปโมเด็ม C1X อีกด้วย ชิป M5 ตัวใหม่นี้คือขุมพลังเดียวกับที่จะถูกใช้ใน 14-inch MacBook Pro และ Apple Vision Pro โดยมาพร้อม CPU สูงสุด 10 คอร์ (แบ่งเป็น 4 Performance และ 6 Efficiency) และ Apple ยังคงยืนยันว่า แกนประมวลผลประสิทธิภาพสูงใน M5 คือ CPU คอร์ที่เร็วที่สุดในโลก!
.jpg)
พลัง AI และกราฟิกที่แรงทะลุขีดจำกัด
ชิป M5 ถูกออกแบบมาเพื่ออนาคตของ AI โดยเฉพาะ โดยมาพร้อม GPU 10 คอร์ดีไซน์ใหม่ ซึ่งมี Neural Accelerators ฝังอยู่ในทุกคอร์ ทำให้ประสิทธิภาพด้าน AI ถูกเคลมว่า สูงขึ้นถึง 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับ M4! ไม่เพียงแค่นั้น แบนด์วิดท์หน่วยความจำ ยังถูกขยายให้กว้างขึ้นเป็น 153GB/s และประสิทธิภาพกราฟิกโดยรวมก็ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการเรนเดอร์ 3D ด้วย Ray Tracing ที่ เร็วขึ้นถึง 1.5 เท่า นอกจากนี้ M5 ยังช่วยให้การแปลงไฟล์วิดีโอ (Video Transcoding) ใน Final Cut Pro เร็วขึ้นอีก 1.2 เท่า อีกด้วย เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งงานสร้างสรรค์และงานหนักระดับมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

RAM อัปเกรด พอร์ตต่อจอเทพ
นอกจากชิปที่เร็วขึ้นแล้ว iPad Pro รุ่นใหม่ยังใจป้ำ เพิ่มความจุ RAM ให้กับรุ่นความจุเริ่มต้น โดยรุ่น 256GB และ 512GB จะถูกอัปเกรด RAM จาก 8GB เป็น 12GB เป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่น 1TB และ 2TB ยังคงจัดเต็มที่ 16GB เหมือนเดิม และที่ถูกใจสายต่อจอนอกคือความสามารถในการส่งสัญญาณวิดีโอไปยังจอแสดงผลภายนอกได้สูงสุดถึง 120Hz และที่สำคัญคือรองรับเทคโนโลยี Adaptive Sync (VRR) หรือ Variable Refresh Rate ทำให้การต่อจอเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกที่ต้องใช้ความลื่นไหลสูงทำได้อย่างไร้รอยต่อ
.jpg)
ชาร์จเร็วเทียบเท่า iPhone 17 และการเชื่อมต่อแห่งยุค
เพื่อเพิ่มความเร็วในการชาร์จ iPad Pro รุ่นใหม่ได้นำมาตรฐานการชาร์จเร็วเดียวกันกับ iPhone 17 มาใช้ ซึ่งถ้าคุณมีอะแดปเตอร์ที่เข้ากันได้ เช่น 40W Dynamic Power Adapter (ที่มาพร้อมกำลังไฟสูงสุด 60W) คุณจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 50% ภายใน 30 นาที สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 35 นาทีสำหรับรุ่น 13 นิ้ว ส่วนด้านการเชื่อมต่อก็อัปเกรดให้ล้ำหน้าด้วยชิป N1 (Wireless Networking) และโมเด็ม C1X ที่ยกมาจาก iPhone รุ่นล่าสุด

ทุกอย่างที่รักยังอยู่ ราคาเท่าเดิม! นอกจากความเปลี่ยนแปลงที่เน้นประสิทธิภาพและความเร็วในการชาร์จแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ ของ iPad Pro ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ นั่นหมายความว่าคุณยังจะได้สัมผัสกับหน้าจอ Tandem OLED Ultra Retina XDR ที่ยอดเยี่ยม, กล้องหลัง 12MP และกล้องหน้า 12MP Centre Stage, ระบบลำโพงสี่ตัว, และพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt/USB4 ที่ครบครัน และข่าวดีที่สุดคือ ราคายังคงเท่าเดิม! โดยเริ่มต้นที่ 35,900 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 47,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ส่วนรุ่น Cellular เริ่มต้นที่ 42,900 บาท และ 54,900 บาท ตามลำดับ
source: apple