นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนซีรีส์ Magic8 ที่เปิดตัวไปแล้ว Honor ยังได้สร้างความฮือฮาด้วยการเผยโฉมแท็บเล็ตเรือธง MagicPad 3 Pro 13.3 ซึ่งมาพร้อมสเปกที่ดุดันสมชื่อ! หัวใจสำคัญคือชิปเซ็ตสุดแรงอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่จะมอบประสิทธิภาพระดับท็อปสำหรับการใช้งานหนักทุกรูปแบบ หน้าจอก็ใหญ่สะใจถึง 13.3 นิ้ว ด้วยพาเนล LCD ความละเอียดสูง 3200 x 2136 พิกเซล และที่น่าทึ่งคือมีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 165Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหลเหนือระดับกว่าแท็บเล็ตทั่วไป RAM ก็จัดเต็มสูงสุด 16GB พร้อมความจุภายในสูงสุด 512GB (ซึ่งในรุ่น MagicPad 3 Pro บางรุ่นอาจมีถึง 1TB)2 พร้อมระบบปฏิบัติการ MagicOS 10.0 บนพื้นฐาน Android 16

MagicPad 3 Pro ถูกออกแบบให้มีขนาดตัวเครื่อง 293.88 x 201.38 x 5.79 มม. ซึ่งถือว่า บางเฉียบมาก และมีน้ำหนักเพียง 595 กรัม เท่านั้น (เบากว่าแท็บเล็ตขนาดใกล้เคียงหลายรุ่น) ด้านพลังงานก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยแบตเตอรี่ความจุถึง 12,450mAh รองรับการชาร์จเร็ว 66W ให้คุณกลับมาใช้งานได้ในเวลาอันสั้น ส่วนกล้องหลังมีมาให้คู่กันคือ กล้องหลัก 13MP และกล้องมาโคร 2MP พร้อมกล้องหน้า 9MP ที่พร้อมสำหรับการประชุมหรือวิดีโอคอลคุณภาพสูง แท็บเล็ตสุดโปรเครื่องนี้มีให้เลือกสามสีพรีเมียม ได้แก่ สีขาว (White), สีทอง (Gold) และสีเทา (Gray) โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3,799 หยวน (หรือประมาณ 17,300 บาท) ในรุ่น 12GB/256GB

นอกจากแท็บเล็ตแล้ว Honor ยังเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นเรือธง Honor Watch 5 Pro ที่มาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมียมในตัวเรือนขนาด 46.3 มม. หน้าจอ AMOLED ทรงกลม 1.5 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ที่รันด้วย MagicOS บนแพลตฟอร์มเฉพาะตัว จุดเด่นที่ทำให้มันแตกต่างคือการรองรับ eSIM ทำให้คุณสามารถ โทรออกรับสายได้โดยตรง แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน! นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ 515 mAh รองรับการชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก และสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 15 วัน ในโหมดปกติ หรือ 3 วัน เมื่อเปิดใช้งาน eSIM แบบอิสระ

Watch 5 Pro อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุขภาพและความปลอดภัย มีเซ็นเซอร์มาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ECG (ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ), มาตรความเร่ง, ไจโรสโคป, และเซ็นเซอร์อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังรองรับระบบระบุตำแหน่งแบบ Dual-Band (GPS/GLONASS/Galileo/BeiDou/QZSS) และมีความทนทานระดับสุดยอดด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น 5ATM, IP68, IP69 และ IP69K ตัวเครื่องมี RAM 64MB และความจุ 8GB สำหรับเก็บเพลงหรือแอปพลิเคชัน โดยรุ่นที่รองรับ eSIM มีราคาเริ่มต้นที่ 1,699 หยวน (หรือประมาณ 7,800 บาท) ถือเป็นราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ระดับโปรที่ได้รับ
source: gsmarena