ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI ต่างพุ่งทะยานในสงคราม AI ทางด้าน Apple ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดมีรายงานข่าวจากแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า Apple ได้ซุ่มพัฒนาแอปพลิเคชันบน iPhone ที่มีหน้าตาและฟังก์ชันคล้าย ChatGPT โดยใช้โค้ดเนมว่า "Veritas" (มาจากภาษาละตินที่แปลว่า 'ความจริง') แต่แอปฯ นี้ไม่ใช่สำหรับผู้บริโภคทั่วไป แต่เป็น "ห้องทดลองลับ" เพื่อนำไปสู่การยกเครื่อง Siri ให้ฉลาดล้ำในเจเนอเรชันถัดไป!
แอปฯ Veritas ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือให้ทีมวิศวกร AI ของ Apple ใช้ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Siri ที่ขับเคลื่อนด้วย Large Language Model (LLM) โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการผสานรวมกันระหว่างโมเดลภาษาที่พัฒนาขึ้นเองของ Apple และเทคโนโลยีจากพันธมิตร AI ภายนอกอย่าง OpenAI, Google หรือ Anthropic ที่ Apple กำลังเจรจาด้วย

การทดสอบภายในนี้มุ่งเน้นไปที่การยกระดับความสามารถของ Siri ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น:
- ความเข้าใจบริบทส่วนตัวที่ลึกซึ้งขึ้น: Siri จะสามารถค้นหาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด เช่น ค้นหาข้อมูลจากอีเมล เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
- การสนทนาที่ต่อเนื่อง (Continuous Conversation): รองรับการสนทนาที่ยาวขึ้น สามารถอ้างอิงและจดจำบทสนทนาที่ผ่านมาได้ เหมือนกับการคุยกับมนุษย์มากขึ้น
- การดำเนินการข้ามแอปฯ (In-app Actions): สามารถสั่งให้ Siri ทำงานที่ซับซ้อนในแอปฯ ต่างๆ ได้ เช่น การสั่งให้แก้ไขรูปภาพด้วย AI โดยตรง
แม้ว่าเดิมที Apple จะวางแผนเปิดตัว Siri เวอร์ชันอัจฉริยะนี้พร้อมกับ iOS 18 (หรือที่รู้จักในชื่อ Apple Intelligence) แต่เนื่องจากความท้าทายทางวิศวกรรม ทำให้ต้องมีการ เลื่อนการเปิดตัว ออกไปเป็นช่วงต้นปี 2026 (ประมาณเดือนมีนาคม) การพัฒนาแอปฯ Veritas จึงเป็นสัญญาณว่า Apple กำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มที่เพื่อที่จะก้าวทันคู่แข่งในสงคราม AI นี้
การเปลี่ยนผ่านจากผู้ช่วยเสียง สู่ "สมองดิจิทัลส่วนตัว"
การพัฒนาแอปฯ Veritas เป็นการตอกย้ำว่า Apple ยอมรับว่าผู้ช่วยเสียงแบบเดิมๆ อย่าง Siri ไม่สามารถตอบโจทย์โลกของ Generative AI ได้อีกต่อไป การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้มีผลกระทบแค่การทำให้ Siri ฉลาดขึ้น แต่กำลังเปลี่ยน บทบาทหลักของ Siri จาก "ผู้ช่วยที่รับคำสั่ง" ไปสู่ "สมองดิจิทัลส่วนตัว" (Personal Digital Brain) ที่เข้าถึงและดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้งและชาญฉลาด ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ในโลกของสมาร์ตโฟน การใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ผสานกับการควบคุมระบบปฏิบัติการและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ จะทำให้ Apple สามารถสร้างระบบ AI ที่ "รู้ใจ" ผู้ใช้ได้มากกว่าผู้ช่วย AI ทั่วไป และจะส่งผลกระทบให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนา AI ที่สามารถผนวกเข้ากับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต
สรุปข่าว Apple ได้พัฒนาแอปพลิเคชันภายในชื่อ "Veritas" ซึ่งมีรูปแบบคล้าย ChatGPT เพื่อใช้เป็นเครื่องมือลับในการทดสอบและพัฒนา Siri เจเนอเรชันถัดไป ที่จะขับเคลื่อนด้วย Large Language Model (LLM) โดย Siri เวอร์ชันใหม่นี้จะมีความสามารถในการสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้และดำเนินการข้ามแอปพลิเคชันได้อย่างชาญฉลาด การเปิดตัวอย่างเป็นทางการถูกเลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2026 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการยกระดับ Siri ให้ทัดเทียมกับคู่แข่งในสงคราม AI โดยเน้นไปที่การเป็นผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง
source: gsmarena