หลังจากที่ vivo สร้างความสับสนด้วยการเปิดตัว Vivo V50 Lite ทั้งรุ่น 5G และ 4G ล่าสุดก็มาถึงคิวของรุ่นอัปเกรดกันบ้างแล้วครับ! โดย vivo ได้เปิดตัว Vivo V60 Lite 5G อย่างเป็นทางการในไต้หวัน โดยมาพร้อมกับสเปกที่อัปเกรดขึ้นหลายจุดจนน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว!
จุดที่น่าจับตามองที่สุดคือการใช้ชิปเซ็ตใหม่ที่ชื่อว่า Dimensity 7360-Turbo ซึ่งเป็นชิป 4nm ตัวใหม่จาก MediaTek ที่แม้ชื่อจะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่จากการเปรียบเทียบสเปกแล้วมันก็คือ Dimensity 7300 ที่มีชื่อต่างกันเท่านั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นการอัปเกรดที่สำคัญจากรุ่นเดิมอย่าง Dimensity 6300 อย่างแน่นอน นอกจากนี้ Vivo ยังพัฒนาให้ตัวเครื่องบางลงเหลือเพียง 7.59 มม. แต่ยังคงความจุแบตเตอรี่เท่าเดิมที่ 6,500mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 90W ที่ Vivo เคลมว่าชาร์จเพียง 10 นาที ก็ดู YouTube ได้นานถึง 6.6 ชั่วโมง!

และไม่ได้มีดีแค่ชิปใหม่และแบตเตอรี่อึดเท่านั้น เพราะ Vivo V60 Lite 5G ยังมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่รองรับสี 10-bit และ HDR10+ ทำให้การดูหนังจาก Netflix หรือ Prime Video สวยงามสมจริงยิ่งขึ้น และยังคงมาพร้อมลำโพงสเตอริโออีกด้วย ในด้านกล้องก็มีการอัปเกรดครั้งสำคัญเช่นกัน ด้วยกล้องหลัก 50MP และกล้อง Ultrawide 8MP ที่มีจุดเด่นคือชิปเซ็ตใหม่ทำให้สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งรุ่นเดิมทำได้แค่ 1080p เท่านั้น ส่วนกล้องเซลฟี่มีความละเอียด 32MP ที่มี AI Soft Ring หรือไฟแฟลชวงแหวนช่วยให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยงามยิ่งขึ้น
.jpg)
นอกจากนี้ Vivo ยังวางตำแหน่งของ V60 Lite 5G ให้เป็นสมาร์ตโฟนสำหรับสายเกมเมอร์ด้วยฟีเจอร์อย่าง Bypass Charging (ลดความร้อนและยืดอายุแบตเตอรี่ขณะเล่นเกม) และความทนทานในระดับ IP65 ซึ่งกันฝุ่นและน้ำได้พอสมควร และยังมีดีไซน์ที่ทนทานต่อการตกหล่นอีกด้วย โดย Vivo V60 Lite 5G ได้วางจำหน่ายในไต้หวันแล้วในราคาเริ่มต้น 12,990 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 14,800 บาท)

การที่ MediaTek และ vivo ร่วมมือกันเปิดตัวชิปเซ็ตใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นการรีแบรนด์ของชิปตัวเดิม และตั้งชื่อให้ดู "แรง" ขึ้นด้วยคำว่า "Turbo" สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของแบรนด์สมาร์ตโฟนในปัจจุบันที่ต้องการสร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสเปกหลักอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่การอัปเกรดในจุดเล็กๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้บริโภค เช่น การรองรับ HDR10+ หรือการบันทึกวิดีโอ 4K ก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างได้ในตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็นผู้ผลิตรายอื่นๆ ใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง

สรุปข่าว Vivo V60 Lite 5G ที่เปิดตัวในไต้หวันเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นเดิม โดยใช้ชิปเซ็ตใหม่ที่ทรงพลังขึ้น, หน้าจอ OLED ที่รองรับ HDR10+, กล้องที่ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ทั้งหน้าและหลัง และยังคงมีแบตเตอรี่ความจุใหญ่ 6,500mAh พร้อมชาร์จเร็ว 90W ที่ช่วยให้ตัวเครื่องบางลงแต่ยังคงความอึดได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยตัวเครื่องมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 14,800 บาทและเน้นกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ตโฟนสำหรับการเล่นเกมและสร้างคอนเทนต์ในชีวิตประจำวัน
source: gsmarena