ในงาน Meta Connect 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Meta ได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจถึงสองรุ่น นั่นคือ Meta Ray-Ban Display ที่มีหน้าจอในตัวเลนส์ และ Ray-Ban Meta (Gen 2) ที่ได้รับการอัปเกรดความสามารถขึ้นไปอีกขั้น!

ไฮไลต์เด่นที่สุดคือ Meta Ray-Ban Display ซึ่งมาพร้อมหน้าจอสีขนาด 600 x 600 พิกเซล ที่ฝังอยู่ในเลนส์ด้านขวา โดยหน้าจอแสดงผลนี้มีอัตรารีเฟรช 90Hz และความสว่างสูงสุดถึง 5,000 nits ทำให้สามารถมองเห็นข้อมูลต่างๆ ได้อย่างชัดเจนกลางแดดจ้า หน้าจอนี้สามารถแสดงข้อความ, การแจ้งเตือน, การนำทาง, และแม้กระทั่งคำแปลแบบเรียลไทม์จาก Meta AI ได้อย่างน่าทึ่ง
.jpg)
แต่ความล้ำไม่ได้มีแค่นั้น! เพราะแว่นรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมอย่าง Meta Neural Band ซึ่งเป็นสายรัดข้อมือ sEMG ที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมแว่นตาได้ด้วย "การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ" โดยไม่ต้องใช้นิ้วมือสัมผัสเลย! นอกจากนี้ ตัวแว่นยังมีกล้อง Ultrawide 12MP ที่บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด 3K และรองรับการซูมแบบดิจิทัล 3 เท่า พร้อมลำโพงคู่และไมโครโฟน 6 ตัว
นอกจากรุ่น Display แล้ว Meta ยังได้เปิดตัว Ray-Ban Meta (Gen 2) ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่นเดิม โดยปรับปรุงแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้นถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 3K ที่อัตรารีเฟรชสูงถึง 60fps และจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะตามมาภายหลัง อย่างเช่น Conversation Focus ที่จะช่วยแยกเสียงพูดของคู่สนทนาและตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกไป ทำให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับราคาและการวางจำหน่าย Meta Ray-Ban Display มีราคาอยู่ที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 29,100 บาท) และจะเริ่มวางขายในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนนี้ ส่วน Ray-Ban Meta (Gen 2) มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าที่ 379 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 13,800 บาท) และเริ่มวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐฯ โดยมีดีไซน์ให้เลือกถึงสามแบบ
สรุปข่าว: Meta ได้เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะสองรุ่นใหม่ในงาน Meta Connect 2025 โดยรุ่นไฮไลต์คือ Meta Ray-Ban Display ที่มาพร้อมหน้าจอในเลนส์และควบคุมด้วย Meta Neural Band ซึ่งเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่วนรุ่น Ray-Ban Meta (Gen 2) ได้รับการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้นและรองรับการบันทึกวิดีโอ 3K 60fps ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Meta ในการผลักดันเทคโนโลยี AR และแว่นตาอัจฉริยะให้เข้าสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น
source: gsmarena