Redmi ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ Redmi Note 15 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยรุ่น Redmi Note 15 Pro และ Pro+ มาพร้อมกับการอัปเกรดสำคัญหลายอย่างเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ, ชิปเซ็ต, และความจุแบตเตอรี่
หน้าจอและการป้องกัน ทั้ง Note 15 Pro และ Note 15 Pro+ มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 2,772 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 3,200 nits หน้าจอรองรับการแสดงผลสี 12-bit และได้รับการปกป้องด้วยกระจก Xiaomi Dragon Crystal Glass
.jpg)
Note 15 Pro+ เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุดของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 7s Gen 4 ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยให้ประสิทธิภาพ CPU และ GPU ดีขึ้น 7% พร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาด 5,200 ตร.มม. และยังมีรุ่นพิเศษ Note 15 Pro+ Satellite Messaging Edition ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ Redmi ที่รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม
ในขณะที่ Note 15 Pro ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7400 Ultra SoC ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่โอเวอร์คล็อกความเร็วจาก Dimensity 7300 ที่ใช้ในรุ่น Note 14 Pro

แบตเตอรี่และการชาร์จ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 7,000 mAh ซึ่งใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดย Note 15 Pro+ รองรับการชาร์จเร็ว 90W ส่วน Note 15 Pro รองรับ 45W นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์ได้ด้วยฟีเจอร์ชาร์จย้อนกลับ 22.5W
ระบบกล้องและซอฟต์แวร์ ทั้งสองรุ่นยังคงใช้ชุดกล้องเดิม โดย Note 15 Pro+ มีกล้องหลัก 50MP, กล้อง Portrait 50MP (ซูม Optical 2.5x) และกล้อง Ultrawide 8MP ส่วน Note 15 Pro มีกล้องหลัก 50MP และกล้อง Ultrawide 8MP ทั้งสองรุ่นมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 และ IP69K และรันบน Xiaomi HyperOS 2 ที่อิงจาก Android 15

สรุปข่าว: Redmi ได้เปิดตัว Note 15 Pro และ Note 15 Pro+ ในจีน โดยมาพร้อมการอัปเกรดที่สำคัญ เช่น หน้าจอ AMOLED 120Hz, แบตเตอรี่ 7,000 mAh, และการชาร์จเร็วที่ 90W ในรุ่น Pro+ โดยรุ่นนี้ยังเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 7s Gen 4 และมีรุ่นที่รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม ส่วน Note 15 Pro ใช้ชิป Dimensity 7400 Ultra ทั้งสองรุ่นมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ IP69K ราคาเริ่มต้นที่ 1,499 หยวน (ประมาณ 7,600 บาท) สำหรับรุ่น Pro และ 1,999 หยวน (ประมาณ 10,100 บาท) สำหรับรุ่น Pro+
source: gsmarena