บริษัท แคนนอน อิงค์ (Canon Inc.) ฉลองครบรอบ 20 ปี กล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ตระกูล EOS 5 ซึ่งได้ส่งมอบคุณค่ารูปแบบใหม่ให้กับวงการช่างถ่ายภาพทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นมาตลอดสองทศวรรษ ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกภาพอันล้ำสมัยและฟีเจอร์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เรื่องราวแห่งความสำเร็จตลอด 20 ปีของกล้องตระกูล EOS 5
กล้องตระกูล EOS 5 เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2548 ในรุ่น EOS 5D โดยเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกของแคนนอนสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานสมัครเล่นขั้นแอดวานซ์ที่มาพร้อมเซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม ซึ่งก่อนหน้านั้นมีเฉพาะในกล้องระดับมืออาชีพเท่านั้น จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือความละเอียดภาพที่ดีเยี่ยม สีสันอิ่มสวย นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ และช่วง ISO ที่กว้าง จนทำให้กล้องฟูลเฟรมเริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลาย เมื่อนับถึงเดือนมิถุนายน 2568 แคนนอนได้เปิดตัวกล้องตระกูล EOS 5 ไปแล้วทั้งหมด 8 รุ่น

ในเดือนพฤศจิกายน 2551 แคนนอนได้เปิดตัว EOS 5D Mark II ซึ่งเป็นกล้องรุ่นแรกของซีรีส์ที่สามารถถ่ายวิดีโอที่ระดับ Full HD ซึ่งปลุกกระแสการถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง DSLR และกลายเป็นทางเลือกใหม่ของสายคอนเทนต์

หลังจากนั้น แคนนอนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและการสร้างสรรค์คุณภาพระดับสูง ได้แก่ รุ่น EOS 5D Mark III (เปิดตัวมีนาคม 2555) ซึ่งมีระบบออโต้โฟกัสที่แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงขึ้น; รุ่น EOS 5Ds และ EOS 5Ds R (เปิดตัวมิถุนายน 2558) มีความละเอียดภาพสูงสุดในโลก ณ ขณะนั้น[1] ที่ราว 50.6 ล้านพิกเซล และรุ่น EOS 5D Mark IV (เปิดตัวกันยายน 2559) ให้สเปกสมดุลอย่างลงตัว ทั้งในด้านจำนวนพิกเซลที่มาก การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง และความไวแสงระดับสูง

ในเดือนกรกฎาคม 2563 แคนนอนเปิดตัว EOS R5 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นแรกในระบบ EOS R ที่มีเลข “5” ในชื่อรุ่น มาพร้อมโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง และยังเป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์รุ่นแรกของโลก[2] (ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัว) ที่รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 8K ได้อย่างลื่นไหล[3] ซึ่งยกระดับมาตรฐานทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้แบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ ในรุ่นต่อ ๆ มาอย่าง EOS R5 Mark II (เปิดตัวสิงหาคม 2567) ก็ได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่ทั้งในด้านภาพนิ่งและวิดีโอด้วยระบบประมวลผลภาพแบบใหม่ “Accelerated Capture” และการใช้เทคโนโลยี Deep Learning เสริมประสิทธิภาพการติดตามวัตถุและการเคลื่อนไหว มอบประสบการณ์การใช้งานที่คล่องตัวและแม่นยำสูง ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไร้ขีดจำกัด และทำให้ EOS 5 เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและนวัตกรรมล้ำหน้าเหนือกว่าผลิตภัณ์อื่น ๆ ในตระกูล EOS

แคนนอนยังคงเดินหน้าส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพและวิดีโออย่างต่อเนื่อง ผ่านการแสวงหาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและพลังแห่งการถ่ายทอดความประทับใจ ผ่านกล้องตระกูล EOS 5 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ใช้งานทั้งมืออาชีพและมือใหม่อย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

[1]  ในบรรดากล้อง DSLR ที่มีเซ็นเซอร์รับภาพเทียบเท่าฟิล์ม 35 มม. ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 จากผลสำรวจของแคนนอน
[2] เฉพาะในกลุ่มกล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ที่จำหน่าย ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 จากผลสำรวจของแคนนอน
[3] ความละเอียด8K (29.97fps/25.00fps) เฉพาะเมื่อเลือก "แบบไม่ครอบภาพ"