Apple ได้รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมสูงถึง 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขนี้แสดงถึงการเติบโตถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักของธุรกิจ iPhone, Mac และบริการ (Services)
ในไตรมาสนี้ Apple ทำสถิติใหม่ด้วยรายได้จาก iPhone ที่สูงกว่าคาด โดยเฉพาะในตลาดจีนที่ยอดจัดส่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยอดจัดส่ง Mac ก็เติบโตในระดับตัวเลขสองหลักเช่นกัน รายได้สุทธิจาก iPhone พุ่งสูงถึง 4.458 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 3.929 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ Apple ยังยืนยันว่าได้จัดส่ง iPhone เครื่องที่ 3 พันล้านเครื่องในไตรมาสนี้อีกด้วย
.jpg)
ยอดขาย Mac มีรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจบริการ (Services) ซึ่งรวมถึง App Store และบริการสมัครสมาชิกต่างๆ ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.742 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยอดขาย iPad และ Wearables (อุปกรณ์สวมใส่) ลดลง 6.5% และ 8.5% ตามลำดับ
มองไปข้างหน้า Apple อาจต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญที่เกี่ยวกับภาษีศุลกากร โดย Tim Cook ได้เปิดเผยว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา Apple เสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปแล้วถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดือนกันยายน
สรุปข่าว: Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่แข็งแกร่งด้วยรายได้ 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากยอดขาย iPhone และ Mac ที่เติบโตอย่างโดดเด่น รวมถึงรายได้จากธุรกิจบริการที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ยอดขาย iPad และอุปกรณ์สวมใส่ลดลง และในอนาคต Apple อาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านภาษีศุลกากรที่เพิ่มสูงขึ้น
source: gsmarena