Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy A56 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนระดับกลาง โดยมาพร้อมการปรับปรุงสำคัญหลายประการที่ทำให้ Galaxy A56 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่มองหาความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและคุณสมบัติต่างๆ จุดเด่นที่น่าสนใจคือการเปิดตัวการรองรับการชาร์จแบบมีสาย 45W ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ในที่สุดก็มาถึงซีรีส์ A หลังจากที่ Samsung ได้นำฟีเจอร์นี้มาใช้กับอุปกรณ์เรือธงเป็นครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อน

นอกเหนือจากการชาร์จแล้ว Galaxy A56 ยังเปิดตัวชิปเซ็ต Exynos 1580 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกที่ใช้ชิปนี้ ชิปเซ็ตนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยมี CPU 2.9 GHz, GPU ที่ใช้ AMD พร้อม 2x WGP และ Neural Processing Unit (NPU) ที่มี 14.7 TOPS ข้อมูลจำเพาะเหล่านี้ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับ Galaxy A55 ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการทำงานหลายอย่างพร้อมกันที่ราบรื่นยิ่งขึ้นและประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น

หน้าจอยังได้รับการอัพเกรดอย่างมีนัยสำคัญโดยตอนนี้มีหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้วพร้อมขอบที่ลดลงอย่างมากทุกด้านซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดความสว่างสูง (HBM) 1200 nits และความสว่างสูงสุด 1900 nits รับประกันการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพกลางแจ้งที่สว่างสดใส มีความละเอียด Full HD+ ได้รับการปกป้องด้วย Gorilla Glass Victus+ ตัวเครื่องใช้กรอบอะลูมิเนียมที่ทนทาน

ในด้านการถ่ายภาพ Galaxy A56 ยังคงใช้การตั้งค่ากล้องที่คุ้นเคยโดยมีกล้องหลัก 50MP f/1.8 เลนส์อัลตราไวด์ 12MP f/2.2 เลนส์มาโคร 5MP f/2.4 และกล้องหน้า 12MP f/2.2 อย่างไรก็ตาม ความสามารถของกล้องได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญโดยอัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วย AI การปรับปรุงเหล่านี้รวมถึงการปรับปรุงภาพโดยคำนึงถึงบริบทซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพตามซีน โหมด Noise ต่ำสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอตอนกลางคืนที่ดีขึ้น และการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วขึ้น การซูมแบบไร้รอยต่อระหว่างกล้องหลักและกล้องอุลตราไวด์ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยเวลาในการเปลี่ยนภาพลดลงเหลือต่ำกว่า 430 มิลลิวินาที มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น
Samsung เน้นการสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาวสำหรับ Galaxy A56 โดยสัญญาว่าจะมีการอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลา 6 ปีและอัปเดต OS จำนวน 6 ครั้ง โทรศัพท์นี้เปิดตัวพร้อมกับ Android 15 และ One UI 7.0 ซึ่งมาพร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ออกแบบใหม่และตัวเลือกการปรับแต่งที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ Galaxy A56 ยังมีคุณสมบัติ Circle to Search ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่แสดงบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็วด้วยท่าทางง่ายๆ
การเปิดตัวการชาร์จแบบมีสาย 45W ซึ่งเรียกว่า "Super Fast Charge 2.0" โดย Samsung ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับซีรีย์ A คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ได้ถึง 65% ในเวลาเพียง 30 นาที โดยใช้เวลาประมาณ 68 นาทีในการชาร์จเต็ม

Samsung Galaxy A56 มีให้เลือก 4 สี "Awesome" ได้แก่ Graphite Gray, Light Gray, Olive และ Pink รุ่นความจุ 128GB มีราคา 479 ยูโร หรือประมาณ 17,000 บาท ในขณะที่รุ่นความจุ 256GB มีจำหน่ายในราคา 529 ยูโร หรือประมาณ 18,800 บาท กลยุทธ์การกำหนดราคานี้ทำให้ Galaxy A56 เป็นตัวเลือกที่แข่งขันได้ในตลาดสมาร์จโฟนระดับกลาง โดยนำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างประสิทธิภาพ คุณสมบัติ และการสนับสนุนระยะยาว
source: gsmarena