Pico 4 Ultra กลายมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาดอุปกรณ์เสมือนจริงแบบสแตนด์อโลน โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย เพราะเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมกับสเปคที่เหนือกว่า Meta Quest 3 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผูกขาดตลาดสำหรับเกมเมอร์ VR ที่อยากใช้อุปกรณ์แบบสแตนด์อโลน ไม่ต้องเชื่อมต่อกับมือถือหรือ PC ให้วุ่นวาย แต่ยังไม่นับรวมไปถึง Apple Vision Pro ที่สายนั้นไม่ได้เน้นเกมเป็นหลัก และมีราคาแพงกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาอย่างมาก
Pico 4 Ultra มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR2 Gen 2 ทำงานร่วมกับ RAM 12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB ที่เหนือกว่า Meta Quest 3 ที่ใช้ชิปเดียวกันแต่มีความจำที่น้อยกว่า และในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Motion Tracker สำหรับติดตามการเคลื่อนไหวของขา ช่วยเสริมการติดตามของร่างกายได้แม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นยังไงบ้างนั้น เดี๋ยวพวกเราทีมงาน TechXcite จะเล่าให้ฟังครับ
สเปค Pico 4 Ultra
- ชิปประมวลผล Snapdragon XR2 Gen 2
- RAM 12GB LPDDR5
- หน่วยความจำภายใน 256GB UFS 3.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 (802.11 a/b/g/n/ac/ax/be), Bluetooth 5.3
- เซ็นเซอร์
- กล้องมองทะลุสี 32 MP ×2
- กล้องตรวจวัดระยะลึก iToF ×1
- กล้องติดตามสภาพแวดล้อม ×4
- จอแสดงผลและเลนส์
- จอแสดงผล 2.56 นิ้ว ×2 ความละเอียด: 2160 × 2160 (× 2), 1200 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว)
- ความละเอียดการเรนเดอร์: 1920 × 1920 (× 2)
- อัตราการรีเฟรช: 90 Hz
- เลนส์แบบแพนเค้ก 105° FoV PPD เฉลี่ย 20.6 (พิกเซลต่อองศา), PPD พื้นที่กึ่งกลาง 22.5 การปรับระยะห่างระหว่างรูม่านตาแบบไร้รอยต่อ 58 มม. - 72 มม.
- ระบบเสียง
- ลำโพงสเตอริโอคู่
- ไมโครโฟน 4 ตัว และรองรับการบันทึกเสียงเชิงพื้นที่
- แบตเตอรี่ 5700 mAh ชาร์จเร็ว 45W (รองรับ QC 4.0 / PD 3.0)
- คอนโทรลเลอร์: แบตเตอรี่ AA ×2
- อุปกรณ์ในกล่อง
- อุปกรณ์สวมศีรษะ PICO 4 Ultra
- MR คอนโทรลเลอร์ ×2
- สายรัดข้อมือ ×2
- อุปกรณ์คั่นระยะแว่นตา
- โฟมครอบใบหน้า
- ถ่านอัลคาไลน์ AA 1.5V ×4
- สาย USB-C to USB-C
- คู่มือฉบับย่อ
- คู่มือผู้ใช้
- คู่มือความปลอดภัยและการรับประกัน
ดีไซน์การออกแบบ
ด้านการออกแบบ Pico 4 Ultra นั้นมาพร้อมดีไซน์แทบจะไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Pico 4 เลยครับ จะต่างกันก็เล็กน้อยแค่ด้านน้ำหนักและการออกแบบ โดยมีน้ำหนัก 580 กรัม มาพร้อมเซ็นเซอร์แบบผสมผสานความเป็นจริงขั้นสูง (mixed-reality) มาใช้ จุดเด่นด้านการออกแบบยังอยู่ที่ความบาลานซ์ที่ดีครับ โดยแบ่งน้ำหนักส่วนหน้าไว้ที่ 304 กรัม และ 276 กรัมสำหรับด้านหลัง ทำให้ไม่รู้สึกหน่วงด้านใดด้านหนึ่งจนรู้สึกไม่สบายขณะสวมใส่ และในส่วนของวัสดุยังคงเป็นบอดี้พลาสติกสีเทาอ่อนและใช้การออกแบบที่ถ่วงน้ำหนัก มีแบตเตอรี่จะอยู่ที่ด้านหลังของสายรัดศีรษะแบบปรับได้ เพื่อเพิ่มความสบายขณะสวมใส่นั่นเอง
ที่น่าสนใจคือชุดหูฟังจะมีพัดลมในตัวเพื่อป้องกันเลนส์เป็นฝ้าด้วยครับ ซึ่งเป็นจุดดีเพราะบริษัทนำคอมเม้นต์จากผู้ใช้ไปปรับปรุงในส่วนนี้ นอกจากนี้ ชุดหูฟังยังปรับระยะห่างระหว่างรูม่านตา (IPD) ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 58 ถึง 72 มม. ช่วยให้ปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคลได้มากกว่าเดิม เพิ่มความคมชัดของภาพและความสบายขณะใช้งาน
ในส่วนของจอแสดงผลจะเป็นแบบ Binocular Vision ความละเอียดระดับ 4K+ หรือ 2160 x 2160 พิกเซลต่อข้าง มีอัตรารีเฟรชที่ 90Hz พร้อมความสว่างหน้าจอที่มากขึ้น 25% และความละเอียดการเรนเดอร์สูงขึ้นที่ 62% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
คอนโทรลเลอร์ก็มาพร้อมการปรับปรุงการออกแบบใหม่ ให้ความกระชับมือมากขึ้นด้วยดีไซน์แบบไร้วงแหวนควบคุม ทำให้ความสูงของอุปกรณ์ลดลง 50% เมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้า และยังมีระบบติดตามและระบบสั่นที่แม่นยำเช่นเคย
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Pico 4 Ultra มาพร้อมการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ที่สำคัญหลายส่วนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR2 Gen 2 และการเพิ่ม RAM จาก 8GB เป็น 12GB ซึ่งการอัปเกรดเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับทั้งระบบความจริงเสมือน (VR) และความจริงผสม (MR) ซึ่งบนอุปกรณ์ถือว่าให้มาจัดเต็มทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้องติดตามสภาพแวดล้อม 4 ตัว, กล้องมองทะลุสี 32MP 2 ตัว และกล้องตรวจวัดระยะลึก iToF อีกตัว ช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น ให้ความละเอียดที่สุด และมีความเพี้ยนที่ต่ำ
จากที่เราได้ทดสอบการเล่นเกม Pico 4 Ultra สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและให้ภาพที่มีคุณภาพสูง สบายตาดีมากครับ อุปกรณ์สามารถเปลี่ยนผ่านระหว่าง MR และ VR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากที่ทดสอบเล่นเกมหรือทำงานต่างๆ บนแอปพลิเคชันสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ลื่นไหลดีมากครับ
ในส่วนของซอฟท์แวร์ Pico 4 Ultra มาพร้อมประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของซอฟต์แวร์ ไลบรารีซอฟต์แวร์ทำมาได้ค่อนข้างดี ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน การค้นหาแอปพลิเคชันต่างๆ ทำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสังเกตอย่างเช่น เกมพิเศษแบบ exclusive อาจยังไม่มีให้เห็นมากนัก เทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Meta Quest 3 ที่มีเกมพิเศษมากมาย เช่น เกมแฟรนไชส์ยอดนิยมอย่าง Beat Saber และ Resident Evil 4 VR ซึ่งในส่วนนี้อาจต้องรอการอัปเดตเพิ่มเติมของ Pico ต่อไป ซึ่งเกมพิเศษที่บริษัทยืนยันว่าจะมาในอนาคตเช่น Just Dance VR และ Alien: Rogue Incursion ก็น่าจะพอให้แฟนๆ VR ตัดสินใจมา Pico 4 Ultra ได้ดีในระดับหนึ่งครับ
นอกจากนี้ Pico 4 Ultra ยังสามารถเชื่อมต่อกับพีซีเพื่อเข้าถึงเกมบน SteamVR ได้ ช่วยให้เรามีคลังเกมเพิ่มขึ้น โดยการเชื่อมต่อนี้ทำได้ผ่านแอป Pico Connect ซึ่งช่วยให้เล่นเกมได้ทั้งแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมีสายและไร้สายได้ และอุปกรณ์ยังรองรับ Wi-Fi 7 เพื่อการเชื่อมต่อความเร็วสูงเป็นพิเศษได้ รวมไปถึงการทำงานยังสามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอกได้ ช่วยให้การทำงานถนัดมือยิ่งขึ้นครับ
Pico OS ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ 360 องศา และการมี RAM เยอะถึง 12GB ทำให้สามารถเปิดหน้าต่างการทำงานได้หลายรายการพร้อมกัน และสามารถปรับหน้าต่างการทำงานขยายได้สูงสุด 280 นิ้ว และด้วยแอป Pico Connect ทำให้สามารถสะท้อนหน้าจอโทรศัพท์ Mac, Windows, iOS และ Android ไปยัง Pico 4 Ultra ได้ สามารถแสดงผลเดสก์ท็อปหรือหน้าจอหลักได้ 3 เครื่องพร้อมกันบนหน้าจอ Ultrawide
และในส่วนของ Pico Motion Tracker ถือเป็นอีกลูกเล่นพิเศษครับ โดยอุปกรณ์จะเป็นสายรัดรอบขาที่มีน้ำหนักเบาเพียง 27 กรัมต่อข้าง โดยจะเป็นแผ่นรองโค้งที่อ่อนนุ่ม สวมใส่กระชับสบายดีมาก ไม่รู้สึกรำคาญขณะสวมใส่
การทำงานของ Motion Tracker แต่ละข้างจะมีเซ็นเซอร์ IMU 1 ตัวและอินฟราเรด 12 ตัว มีความถี่ในการติดตามสูงถึง 200 Hz โดยจะทำงานร่วมกับอัลกอลิทึม AI ทำให้อุปกรณ์สามารถติดตามการเคลื่อนไหวแบบ 6DoF สำหรับจุดติดตามกระดูก 24 จุด และมีความหน่วยต่ำเพียง 20 มิลลิวินาที ทำให้เราสามารถเข้าถึงเกมหรือซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายได้มากขึ้น ใครที่เป็นสายเต้น ออกกำลังกาย หรือเล่นเกมประเภท Action ที่ขยับร่างกายๆ เยอะ เช่น เตะบอล ฟิตเนส เกมเต้น ตีเทนนิส โบว์ลิ่ง หรือเกมต่อสู้ อันนี้ได้เหงื่อกันสุดๆ
Conclusion
โดยสรุปแบบ Pico 4 Ultra เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์ VR และ MR ที่มีสเปคระดับสูงครับ คือเน้นฮาร์ดแวร์ดีล้ำหน้าไว้ก่อน เพื่อรองรับการอัปเดตซอฟท์แวร์ที่ยอดเยี่ยมตามทันในภายหลังได้ แถมยังมีราคาที่จับต้องได้ (ไม่แพงเวอร์เหมือนของค่ายผลไม้) โดยมาพร้อมชิปเซ็ตอย่าง Snapdragon XR2 Gen 2 พร้อม RAM เยอะถึง 12GB และความจำ 256GB ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับอุปกรณ์ VR ในปัจจุบัน และยังมี Motion Tracker ที่เพิ่มลูกเล่นให้กับผู้ใช้ได้สนุกและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
จุดสังเกตที่เห็นชัดๆ ของ Pico 4 Ultra อาจจะเป็นในส่วนของเกม VR แบบ Exclusive ที่ยังมีไม่มาก พูดตรงๆ ก็คือเมื่อเทียบกับ Meta แต่ตรงนี้อาจจะพอวางใจได้ครับ เพราะอุปกรณ์ของ Pico มีฮาร์ดแวร์ที่ล้ำหน้าขนาดนี้ ในอนาคตเราก็น่าจะได้เห็นการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่ดีตามมาในภายหลังก็ได้
สำหรับใครที่สนใจ Pico 4 Ultra เปิดตัวที่ราคา 22,990 บาท โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บของ Pico ได้ที่นี่ เลยครับ