หลังจากเปิดตัวในไทยไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่าน ก็ได้รับความสนใจอย่างมากครับสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง ROG Ally X ที่ในรุ่นใหม่นี้มีจุดที่พัฒนาทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ให้จับได้ถนัดมือยิ่งขึ้น ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Z1 Extreme ที่เร็วแรงเต็มพิกัด มี RAM และหน่วยความจำภายในที่มากขึ้น แบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิม ทำให้เล่นเกมได้นานยิ่งขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ช่วยลดอุณหภูมิขณะเล่นเกม รักษาประสิทธิภาพการเล่นได้ดีกว่าที่เคย
โดยการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร และ ROG Ally X ใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น พวกเราทีมงาน TechXcite จะรีวิวให้ติดตามกันครับ ก่อนอื่นไปดูสเปคกันก่อน
สเปค ROG Ally X
ชื่อรุ่น ROG Ally X
หน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD
อัตราการรีเฟรช 120Hz พร้อมรองรับ FreeSync™ Premium
ชิปประมวลผล AMD Ryzen Z1 Extreme Processor
หน่วยความจำ RAM LPDDR5X 24GB
หน่วยความจำภายใน 1TB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD (2280)
รองรับการเชื่อมต่อ
1x Type C support USB 4 (Thunderbolt 4 compliance, DisplayPort 1.4 with Freesync support, Power Delivery 3.0)
1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort / power delivery
1x UHS-II microSD card reader (supports SD, SDXC and SDHC)
แบตเตอรี่ 80WHrs, 4S1P, 4-cell Li-ion
รองรับ Dolby Atmos
ขนาด 28.0 x 11.1 x 2.47 ~ 3.69 ซม.
น้ำหนัก 678 กรัม
ตัวเลือกสี สีดำ
รองรับหน้าจอสัมผัส 10-point multi-touch
ประกัน 2 ปี
ราคาเปิดตัว 29,990 บาท
ดีไซน์ทันสมัย จอใหญ่เต็มตาเต็มอารมณ์
ROG Ally X (2024) รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz รองรับ FreeSync Premium รองรับขอบเขตสีแบบ sRGB 100% และมีความสว่างสูงสุด 500 nits ทำให้เครื่องเล่นเกมพกพาเครื่องนี้มาพร้อมหน้าจอที่คมชัด สามารถแสดงผลได้ดีมากในทุกสภาพแสงครับ แม้ว่าจะเล่นในสภาพแวดล้อมที่สว่างมากก็ตาม
ในส่วนของหน้าจอยังมีการเคลือบสารลดแสงสะท้อน Corning Gorilla Glass DXC แม้ว่าจะอยู่ในที่สว่างมากก็เล่นได้สบายตามากขึ้นครับ และแน่นอนว่าหากขึ้นชื่อว่า Gorilla Glass Victus แล้วล่ะก็ หลายท่านที่ติดตามเทคโนโลยีน่าจะทราบดีว่า กระจกรุ่นนี้ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีมากครับ
ด้านการออกแบบรุ่นนี้มีการปรับดีไซน์ใหม่ตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้จับสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับด้ามจับที่สูงขึ้น 4.5 มม. รองรับฝ่ามือได้ดีขึ้น ปุ่มมาโครดีไซน์ใหม่ และพื้นผิวที่เรียบขึ้น รวมถึงในส่วนของจอยสติ๊กที่เพิ่มความทนทานขึ้น รองรับการหมุนรอบ 5 ล้านรอบ เพิ่มขึ้นจาก 2.5 ล้านรอบบน Ally รุ่นที่แล้ว นอกจากนี้รอบจอยสติ๊กยังตกแต่งด้วยไฟ RGB ที่เกมเมอร์ชื่นชอบอีกด้วย
บริเวณด้านหลังยังมีปุ่ม Macro Button สำหรับตั้งค่าเพื่อเล่นเกมบางเกมที่รองรับ ซึ่งดีไซน์ในรุ่นใหม่นี้ยังลดขนาดลงเพื่อลดโอกาสในการกดโดยไม่ตั้งใจ
นอกจากจะมาพร้อมดีไซน์ด้านนอกที่สวยงามแล้ว Ally X ยังมาพร้อมซอฟท์แวร์ Armoury Crate SE 1.5 ที่ออกแบบใหม่ให้สวยงาม และใช้งานง่ายยิ่งขึ้นครับ โดยมาพร้อม UI ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวเราเองได้ มีแถบเลื่อนที่ทำงานง่ายและรวดเร็วมากขึ้นในการควบคุมค่า TDP จัดสรร VRAM รวมถึงการตั้งค่าอื่นๆ ที่ง่ายยิ่งขึ้น
ในส่วนของระบบเสียงรุ่นนี้มาพร้อมลำโพง Smart Amp แบบ front-facing ที่ยิงเสียงออกด้านหน้าแบบคู่ และยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio ที่ทรงพลัง ทำให้ผู้เล่นได้รับเสียงจากเกมโดยตรง และที่สำคัญยังมีระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง ช่วยลดเสียงแวดล้อมที่อาจจะรบกวนแชตเสียงของเราได้
และเพื่อการเชื่อมต่อที่ไม่สะดุด Ally X ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E ความเร็วสูงพิเศษ ให้ความหน่วงที่ต่ำกว่า Wi-Fi 6 ถึง 75% ช่วยให้การสตรีมวีดีโอ เล่นเกมบนคลาวด์ หรือดาวน์โหลดเกมได้สะดวกยิ่งขึ้นครับ
ขุมกำลัง AMD Ryzen Z1 Extreme ที่ทรงพลัง
ROG Ally X เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่เน้นประสิทธิภาพสูงระดับเรือธงครับ ซึ่งมาพร้อมชิปเซ็ตระดับท็อปคลาสอย่าง AMD Ryzen Z1 Extreme ที่พัฒนาบนกระบวนการผลิต 4nm สถาปัตยกรรม Zen 4 และกราฟิก RDNA™ 3 พร้อมเทคโนโลยีการปรับสเกลอย่าง AMD Fluid Motion Frames และ Radeon™ Super Resolution ทำให้อุปกรณ์สามารถเพิ่มอัตราเฟรมได้พร้อมกับการรักษาคุณภาพของภาพที่ดี
นอกจากนี้การใช้พลังงานยังถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกการทำงานได้หลายโหมด เช่น โหมดเงียบที่ใช้พลังงาน 10W, โหมดประสิทธิภาพที่ 15W และตัวจบที่โหมดเทอร์โบ 25W (หรือ 30W เมื่อเชื่อมต่อ AC)
ในส่วนของหน่วยความจำก็ให้มาค่อนข้างดีครับ โดยรุ่นนี้ถูกอัปเกรดด้วย SSD ใหม่ PCIe Gen4 M.2 ขนาดสูงสุด 1TB เพียงพอสำหรับการโหลดเกมท็อปๆ สบาย รวมไปถึง RAM แบบ LPDDR5X บนความเร็ว 7500MHz ที่ความจุ 24GB จัดว่าให้มาดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจนครับ
ด้านการใช้พลังงานแบตเตอรี่ Ally X มาพร้อมแบตเตอรี่อัปเกรดมากขึ้นเป็น 80Wh ทำให้เป็นอุปกรณ์เล่นเกมแบบพกพาระดับท็อปที่แบตอึดมากรุ่นหนึ่งครับ โดยรองรับการเล่นเกมระดับ AAA ได้มากสุดถึงเกือบ 3 ชม. หรือจะใช้เป็นอุปกรณ์รับชมคอนเท้นต์ขณะเดินทางอย่างเช่น Netflix ก็ดูได้ยาวๆ ถึง 14.5 ชม. เอาว่าเปิดดูหนังดีซีรีย์ดังได้จากกรุงเทพ ถึงเชียงใหม่ แบตก็ยังเหลือๆ
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Ally X ยังมีในส่วนของระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling ที่ช่วยให้อุปกรณ์ที่พกพาชิปเซ็ตที่เร็วแรงขนาดนี้ สามารถทำงานนอกสถานที่ดีในทุกสถานการณ์ โดยมาพร้อมช่องระบายความร้อนใหม่ ที่ลดอุณหภูมิบนเมนบอร์ดและรอบๆ ได้ดียิ่งขึ้น มีช่องระบายอากาศดีขึ้น 24% และอุณหภูมิบนหน้าจอทัชสกรีนลดลงได้ถึง 6 องศา โดยระบบจะดูดอากาศเย็นเข้าจากบริเวณด้านหลัง และถ่ายเทอากาศร้อนออกบริเวณช่องด้านบน ทำให้มือของเราจะไม่บังระบบการลดความร้อนเลยครับ ออกแบบมาได้ดีมาก
นอกจากนี้ระบบระบายความร้อนยังมี Anti-Gravity Heat Pipes ซึ่งเป็นท่อความร้อนต้านแรงโน้มถ่วงที่ปรับปรุงการถ่ายเทความร้อนได้ดียิ่งขึ้นในทุกองศา และเห็นมีช่องระบายความร้อนและมีพัดลมที่ดีแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องฝุ่นนะครับ เพราะตัวเครื่องจะมี Dust Filter ที่ช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าตัวเครื่อง และลดฝุ่นได้เป็นอย่างดี และยังมีครีบอะลูมิเนียมที่บางเฉียบเพียง 0.1 มม. จำนวนมากถึง 102 ครีบ ช่วยกระจายความร้อนได้เป็นอย่างดีทีเดียว
Conclusion
โดยสรุปแล้วจากที่พวกเราได้ทดสอบใช้งาน ROG Ally X มาระยะหนึ่ง พบว่ารุ่นนี้ถือว่าถูกอัปเกรดมาให้น่าใช้กว่าเดิมเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมหน่วยความจำที่เยอะขึ้นเท่าตัว จากเดิม SSD 512GB เพิ่มเป็น 1TB แบบ M.2 ให้เก็บเกมได้เยอะจุใจ แถมยังถอดอัปเกรดได้ง่ายในอนาคต รวมถึงยังเพิ่ม RAM จาก 16GB เป็น 24GB ที่ความเร็ว 7500 MHz และแบตก็ยังเยอะขึ้นเท่าตัวเช่นกัน จากเดิม 40Wh เป็น 80Wh
ที่สำคัญอีกจุดที่ทำให้เครื่องเล่นเกมพกพาเครื่องนี้ทรงพลังสุดๆ ก็คือ CPU AMD Ryzen™ Z1 Extreme ที่รองรับการเล่นเกมระดับ AAA ได้แบบเหลือๆ โดยใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 จำนวน 8 แกนที่ความเร็วสูงสุด 5.1GHz และ GPU RDNA 3 Radeon 780M พร้อม 12CU ที่ความถี่สูงสุด 2.7 GHz จุดนี้จัดว่าโหดพอตัวครับ รวมถึงยังมีระบบระบายความร้อนใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อน Zero Gravity แบบพัดลมคู่ ช่วยลดอุณหภูมิได้ดีในขณะที่เสียงก็ไม่ดังมาก อันนี้จัดว่าแจ่มทีเดียว
โดยจุดสังเกตคือ Ally X รุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเพิ่มจาก 608 กรัม เป็น 678 กรัม แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่อัปเกรดมาด้านบนแล้ว การมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 70 กรัม ถือว่าน้อยมากเลยครับ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
ROG Ally X มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 29,990 บาท พร้อมรับประกันแบบ Global Warranty เป็นเวลา 2 ปี (เข้าศูนย์ได้ 83 ประเทศทั่วโลก) รวมถึงยังได้ XBOX PC Game Pass ฟรี 3 เดือน ทำให้สามารถเข้าถึงเกมมันส์ๆ ได้มากกว่า 100 เกมจุใจ ใครที่หาเครื่องเล่นเกมพกพาเอาแบบประสิทธิภาพทำถึงหน่อย ไม่หน่วงไม่อืด รุ่นนี้จัดว่าแจ่มจ้า พวกเรา TechXcite คอนเฟิร์มครับ