Honor ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นในซีรีย์ X60 ได้แก่ Honor X60 และ X60 Pro ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง X50 โดย X60 Pro มาพร้อมหน้าจอ OLED โค้งแบบพรีเมียมขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1,224 x 2,700 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz รองรับสี 10 บิต และให้ความสว่างสูงสุด 3,000 นิต รองรับเทคโนโลยีลดแสง PWM ขั้นสูง และยังได้รับการออกแบบให้กันน้ำได้ แม้ว่าจะไม่ระบุระดับ IP อย่างเป็นทางการก็ตาม
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับกล้องหลัง 108MP และเซ็นเซอร์ความลึก 2MP แต่ X60 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ซึ่งเป็นรุ่นลดระดับลงจาก Snapdragon 8+ Gen 1 แบบที่ใช้บน X50 Pro โดย X60 Pro สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้ ในขณะที่ X60 รุ่นรอง จำกัดที่ 1080p เนื่องจากใช้ชิปเซ็ต Dimensity 7025-Ultra นอกจากนี้ X60 Pro ยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือใต้จอ ในขณะที่ X60 ใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ติดด้านข้าง
X60 รุ่นมาตรฐานมีหน้าจอ LCD แบบแบนขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,412 พิกเซล และความสว่างสูงสุด 850 nits ทั้งสองรุ่นรองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz แต่ X60 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,600mAh และรองรับการชาร์จ 66W ที่เร็วกว่าในขณะที่รุ่น X60 ได้แบตเตอรี่ 5,800mAh และการชาร์จ 35W
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นมีกล้อง 108MP และเซนเซอร์ความลึก 2MP โดยกล้องหลักใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.67 นิ้วพร้อม binning 9-to-1 (ขนาดพิกเซลที่มีประสิทธิภาพ 1.92µm) และซูม 3x ในเซนเซอร์ ไม่มีระบบกันสั่นแบบออปติคอล แต่เลนส์ค่อนข้างเร็วด้วยรูรับแสง f/1.75 ส่วนกล้องหน้ามีเซนเซอร์ 8MP และฮาร์ดแวร์เสริมสำหรับรุ่นโปร (แต่ Honor ไม่ได้ระบุว่ามีอะไรบ้าง)
ด้านระบบเสียง X60 Pro มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่ปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Honor Histen 7.1 ซึ่งสามารถเพิ่มระดับเสียงได้อย่างมาก ด้านการเชื่อมต่อก็ค่อนข้างคล้ายกันในทั้งสองรุ่นครับ แต่ X60 Pro จะเพิ่มการรองรับการส่งข้อความผ่านดาวเทียมสองทางผ่านกลุ่มดาวเทียม Beidou แต่ในรุ่นมาตราฐานไม่มี
Honor X60 มีราคาเริ่มตั้งแต่ 1,200 หยวน (ประมาณ 5,600 บาท) สำหรับรุ่นพื้นฐาน RAM 8/128GB ในขณะที่ X60 Pro มีราคาเริ่มตั้งแต่ 1,500 หยวน (ประมาณ 7,000 บาท) สำหรับรุ่น RAM 8/128GB เช่นกัน และทั้งสองมีตัวเลือกสีคล้ายกัน คือ สีดำ เขียว เงิน และในรุ่น Pro จะเพิ่มสีส้มอีกสีครับ
source: gsmarena