มาตามนัดครับสำหรับ Nio ที่ได้จัดงาน Innovation Day ที่เซี่ยงไฮ้ และหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็คือ Nio Phone 2 รุ่นใหม่ ที่ดูเหมือนว่า Nio จะยึดมั่นตามแผนที่จะวางจำหน่ายโทรศัพท์เป็นรอบปี แต่ปีนี้จะมาไวสักหน่อย เพราะรุ่นที่แล้วจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายน
Nio Phone2 มีลักษณะคล้ายกับรุ่นแรกมากในด้านการออกแบบและการมาพร้อมสเปคระดับไฮเอนด์ และแน่นอนว่าจุดดึงดูดหลักของ Nio Phone2 คือการทำงานผสานรวมระหว่างโทรศัพท์และรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าประทับใจของบริษัท โดย Nio Phone2 มีปุ่มเฉพาะที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องเพื่อควบคุมฟังก์ชันรถยนต์ที่เชื่อมต่อได้เช่นเดียวกับ Nio Phone รุ่นดั้งเดิม และในรุ่นใหม่ยังสามารถปรับแต่งการกดปุ่มดังกล่าวให้เป็นโหมดการทำงานของโทรศัพท์ตามที่คุณต้องการได้
นอกจากนี้ Nio Phone2 ยังทำหน้าที่เหมือนกุญแจรถอีกด้วย โดยระบบได้ผสาน UWB และ Bluetooth สำหรับรถยนต์ที่รองรับ ทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ UWB ยังช่วยให้ค้นหารถได้ง่ายขึ้น และยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ความสามารถในการบันทึกตำแหน่งรถและหมายเลขที่จอดรถเมื่อจอดรถโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังรองรับคีย์ NFC อีกด้วย
Nio Link เป็นฟีเจอร์เจ๋งๆ อีกอย่างที่ให้เราสามารถโต้ตอบกับโทรศัพท์ผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถได้ โดยได้ขยายการรองรับให้รวมถึงแอปโทรศัพท์อื่นๆ มากขึ้น เช่น แกลเลอรี การเรียกดูไฟล์ แอปสำนักงานต่างๆ เป็นต้น
Nio Phone2 มาพร้อมสเปคระดับแนวหน้าครับ โดยมีหน้าจอขนาด 6.82 นิ้ว 2K 120Hz LTPO Ultra HDR ซึ่งเป็นจอ Samsung E7 OLED รองรับการหรี่แสง PWM 1440Hz ระหว่าง 0 ถึง 800 nits พร้อมความสว่างสูงสุด 2,600 nits ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 มีกล้องหลัก Sony LYT-T808 ความละเอียด 48MP, กล้องมุมกว้าง Sony IMX882 ความละเอียด 48MP และกล้องเทเลโฟโต้ Periscope Zoom จาก Sony IMX890 ความละเอียด 50MP พร้อมเครื่องอ่านลายนิ้วมือแบบออปติคัลบนหน้าจอและมอเตอร์แฮปติก 0815 มีแบตเตอรี่ขนาด 5,020 mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 80W และแบบไร้สาย 50W ทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ในตัวเครื่องที่เบามากและมีสีสันให้เลือกมากมาย ฝาหลังกระจกมีความหนา 8.6 มม. และน้ำหนัก 209 กรัม ในขณะที่ฝาหลังเซรามิกพรีเมียมมีความหนา 8.45 มม. และน้ำหนัก 226 กรัม และบางสียังมีฝาหลังแบบหนังอีกด้วย
ส่วนทางด้านราคา Nio Phone2 เริ่มต้นที่ราคา 6,499 หยวนจีนหรือประมาณ 32200 บาท
source: gsmarena