OnePlus Nord 4 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับในงาน Summer Lunch ของบริษัทในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาพร้อมการออกแบบที่แตกต่างจากเทรนด์แก้วแซนด์วิชในปัจจุบัน และเลือกใช้ตัวเครื่องโลหะแบบ Unibody แทน

OnePlus Nord 4 ทำงานบนชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 พร้อม RAM 8 GB, 12 GB หรือ 16 GB มีพื้นที่เก็บข้อมูลคือ 128 GB UFS 3.1 หรือ 256 GB/512 GB UFS 4.0 ใช้หน้าจอ Super Fluid AMOLED ขนาด 6.74 นิ้วที่มีอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120 Hz ความละเอียด 1240p และมีรูเจาะเดี่ยวสำหรับกล้องเซลฟี่ 16 MP

ด้านหลังมีกล้องหลัก 50 MP พร้อมกันสั่น OIS และ EIS ทำงานร่วมกับกล้อง Ultrawide 8 MP โดยกล้องหลักสามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps

Nord 4 มีแบตความจุ 5,500 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบบมีสาย 100W ซึ่งช่วยให้ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาไม่ถึง 30 นาที อย่างไรก็ตาม ในกล่องจะไม่แถมอะแดปเตอร์ให้ครับ ต้องซื้อแยกเอง โดยแบตเตอรี่จะคงความจุไว้ได้อย่างน้อย 80% หลังจากใช้งานครบ 1,600 รอบ

ด้านงานประกอบ OnePlus มาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องที่เป็นโลหะที่มาพร้อมโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม โดยมีการเปลี่ยนตำแหน่งเสาอากาศให้เป็นรูปตัว U และเพิ่มเสาเล็กๆ เข้าไปในฝาครอบด้านหลังของโทรศัพท์ ช่วยลดขนาดเสาอากาศลงครึ่งหนึ่งและเพิ่มการขยายสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งชื่อของดีไซน์ใหม่นี้เรียกว่า Nordtones และโทรศัพท์มาในสี Mercurial Silver, Oasis Green และ Obsidian Midnight

OnePlus Nord 4 ยังได้รับการยกย่องให้เป็นโทรศัพท์ระหว่างประเทศเครื่องแรกที่มีชิปเซ็ตระดับกลางที่ทำงานร่วมกับ AI โดยรองรับฟีเจอร์อย่างเช่น AI Audio Summary, AI Note Summar และ AI Linkboost ที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถืออีกครั้ง (reconnect) ได้เร็วกว่าที่เคย นอกจากนี้ Nord 4 ยังมีฟีเจอร์ AI Groupfie ที่ช่วยเปลี่ยนสายตาของบุคคลในการถ่ายภาพหมู่ เพื่อไม่ให้ใครกระพริบตาได้อีกด้วย

โทรศัพท์ใช้ Oxygen OS 14.1 บนพื้นฐาน Android 14 และ OnePlus สัญญาว่าจะอัปเดตเวอร์ชัน Android ใหม่ 4 เวอร์ชันและอัปเดตความปลอดภัย 6 ปี ซึ่งหมายความว่าจะรองรับจนถึงปี 2030 เลยทีเดียว

ในยุโรป OnePlus Nord 4 เปิดราคาที่ 429 ปอนด์ หรือประมาณ 19500 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น RAM 12/256 GB โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว และผู้ที่จองล่วงหน้าจะได้รับหูฟัง Nord Buds 3 Pro TWS ฟรี และส่วนลด €50 หากเลือกรุ่นความจุที่ใหญ่กว่า และจะเปิดขายเริ่มวันที่ 8 สิงหาคมเป็นต้นไป

 source: gsmarena