Oppo รีเฟรชสมาร์ทโฟนกลุ่มผลิตภัณฑ์ Reno Series ยอดนิยมด้วยรุ่นใหม่สองรุ่น ได้แก่ Oppo Reno12 และ Reno12 Pro ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีจอแสดงผลโค้งสี่ด้าน พร้อมดีไซน์ที่บางและเบากว่า Reno11 รุ่นก่อน และในขณะเดียวยังเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นด้วย
Oppo Reno12 มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,412 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 120Hz ซึ่งคล้ายกับรุ่นก่อนแต่รุ่นใหม่จะมีขอบบนและล่างก็โค้งเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะด้านข้างเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบป้องกันกระจก Gorilla Glass ที่ด้านหน้า กรอบกลางของโทรศัพท์ทำจากโลหะผสมอลูมิเนียมหล่อ ซึ่งทนทานต่อการบีบอัดได้ดีกว่ามาก ช่วยลดความเสียหายหากคุณทำโทรศัพท์ตกบนพื้นผิวที่แข็ง นอกจากนี้ยังกันน้ำกันฝุ่น IP65 ได้แล้ว และจอแสดงผลยังใช้งานได้แม้นิ้วของคุณจะเปียกก็ตาม
ด้านวัสดุงานประกอบที่ดีขึ้นไม่ได้ทำให้โทรศัพท์ดูเทอะทะขึ้นเลยครับ โดยในทางกลับกัน Reno12 มีความหนา 7.25 มม. และหนัก 179 กรัม ในขณะที่ Reno11 หนา 7.6 มม. และ 184 กรัม
Oppo Reno12 Pro มีความหนาและหนักกว่าเล็กน้อยที่ 7.55 มม. และ 183 ก. โดยโทรศัพท์ Reno12 ทั้งสองเครื่องมีแบตเตอรี่เท่ากันที่ 5,000mAh พร้อมการชาร์จ 80W ซึ่ง Oppo กล่าวว่าโทรศัพท์จะรักษาความจุของแบตเตอรี่ได้ 95% ของความจุแบตเตอรี่เดิมหลังจากรอบการชาร์จ 1,000 รอบ
ด้านกล้องรุ่นพื้นฐานมีเซ็นเซอร์ 50MP (LYT600, 1/1.95”) พร้อมด้วยเลนส์เทเล 2x 50MP และเลนส์มุมกว้างพิเศษ 8MP โทรศัพท์ทั้งสองเครื่องใช้กล้องหน้า 50MP แบบเดียวกันเช่นกัน
ในรุ่น Pro จะมีกล้องหลัก 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ภาพ IMX890 (1/1.56”, 1.0µm พิกเซล) พร้อมกล้องเสริมโมดูลเทเลโฟโต้ 50MP 2x และเลนส์กว้างพิเศษ 8MP
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Oppo Reno12 และ 12 Pro แตกต่างก็คือชิปเซ็ตครับ โดยรุ่นไม่โปรได้ Dimensity 8250 ซึ่งเป็นรุ่นปรับสเปคจาก 8200 ที่อยู่ใน Reno11 และมีความจำให้เลือกคือ RAM 12/256GB, 16/256GB, 12/512GB และ 16/512GB
ในขณะที่ Oppo Reno12 Pro ขับเคลื่อนโดย Dimensity 9200+ ซึ่งมาแทนที่ Snapdragon 8+ Gen 1 ของรุ่นก่อนหน้า หน่วยความจำมีให้เลือกคือ RAM 12/256GB, 16/256GB และ 16/512GB ซึ่งโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องใช้ RAM แบบ LPDDR5X และที่เก็บข้อมูล UFS 3.1
ตั้งแต่ปี 2024 เป็นปีแห่ง AI ดังนั้น Oppo ได้รวมคุณสมบัติอัจฉริยะบางอย่างไว้ในแอปกล้องถ่ายรูปด้วยเช่นกันครับ โดยจะสามารถแก้ไขภาพได้หากมีคนกระพริบตา ลบคนที่เดินเข้ามาในเฟรม และช่วยคุณเปลี่ยนพื้นหลังได้
นอกจากนี้คุณสมบัติ AI เพิ่มเติม ก็ได้แก่ การถอดเสียงและการสรุปคำสั่ง และเครื่องสแกนเอกสารที่สามารถจัดการแม้กระทั่งสิ่งที่ยุ่งยาก เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ผู้ช่วย Xiaobu ของโทรศัพท์สามารถทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษและครูสอนพิเศษในโรงเรียนประถมได้ นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยวางแผนวันหยุดพักผ่อนครั้งถัดไปของคุณได้ และคุณสามารถใช้มันเพื่อสร้างแผนการเดินทางที่กำหนดเองได้
Oppo Reno12 มีให้เลือกสามสี ได้แก่ Millennium Silver, Soft Peach และ Ebony Black ในขณะที่ Oppo Reno12 Pro มาในสี Silver Fantasy Purple, Champagne Gold และ Ebony Black ส่วนสเปคอื่นๆ จะรองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ (แบบออปติคัล), NFC และ IR Blaster โดยในรุ่น Pro ยังมีลำโพงสเตอริโออีกด้วย
Oppo Reno12 Series วางจำหน่ายแล้วบนร้านค้าออนไลน์ของ Oppo ในประเทศจีน โดย Oppo Reno12 มีราคาเริ่มต้น 2700 หยวนหรือประมาณ 13700 บาท และ Oppo Reno12 Pro มีราคาเริ่มต้น 3400 หยวน หรือประมาณ 17200 บาท
source: gsmarena