Huawei Band 9 เพิ่งเปิดตัวมาสดๆร้อนๆเลย และนี่ก้เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับผู้รักสุขภาพที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็น Smart Band ค่าตัวคุ้ม ฟีเจอร์เยอะอีกรุ่นในตลาด ที่บอกว่าคุ้มเพราะค่าตัวแค่พ้นต้นๆเท่านั้น แถมระบบการทำงานเพียบพร้อม แต่ก่อนอื่นเดี๋ยวลองมาดูสเป็คของ Huawei Band 9 กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
หน้าจอ : ขนาด 1.47 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 194 x 368 พิกเซล
ขนาดตัวเรือน : 43.45 × 24.86 × 8.99 มม.
น้ำหนัก : 14 กรัม (ไม่มีสายรัด)
กันน้ำ : 5 ATM
ใช้งานกับอุปกรณ์ระบบ : EMUI 5.0 ขึ้นไป, Android 8.0 หรือใหม่กว่า และ iOS 13.0 ขึ้นไป
รองรับการเชื่อมต่อ : 2.4 GHz, BT5.0, BLE
อายุแบตเตอรี่ : สูงสุด 14 วัน
ระบบชาร์จไฟ : แบบขั้วแม่เหล็ก
เซ็นเซอร์ : ตรวจวัดการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์ IMU แบบ 9 แกน (เซ็นเซอร์มาตรความเร่ง, เซนเซอร์ไจโรสโคป, เซนเซอร์ Magnetometer) และเซ็นเซอร์แสงโดยรอบ
สายรัด : สายวัสดุยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์
สี : ขาว, ดำ, ชมพู, เหลือง
Huawei Band 9 นั้นสามารถใช้งานเป็นนาฬิกาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย โดยได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับใส่ทั่วไปหรือใส่ออกกำลังกาย โดยฟีเจอร์การทำงานของ Huawei Band 9 นั้นก็มีหลากหลายสำหรับผู้รักสุขภาพ เริ่มตั้งแต่ฟีเจอร์มาตรฐานอย่างการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ใช้เซ็นเซอร์แบบออพติคอล ที่ค่อนข้างแม่นยำ รวมไปถึงมีฟีเจอร์ติดตามการนอน หรือโปรแกรมออกกำลังกายที่มีมากกว่า 100 รูปแบบ ช่วยวางแผนเรื่องการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี มีฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด SpO2 โดยอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ หรือเทคโนโลยี HUAWEI TruRelax ช่วยตรวจสอบระดับความเครียดของผู้ใช้งานได้ด้วย เยอะขนาดนี่้ถือว่าคุ้มค่าตัวมากๆ
ในขณะที่ตัวเรือนของ Huawei Band 9 ก็ได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน แถมกันน้ำในระดับ 5ATM ซึ่งหมายความว่าสามารถใส่ว่ายน้ำได้ และเมื่อใช้งานในโหมดว่ายน้ำ ระบบสัมผัสหน้าจอก็จะหยุดการทำงานอัตโนมัติเพื่อป้องกันการตั้งค่าอื่นๆโดยไม่ตั้งใจ ส่วนการควบคุมการตั้งค่าอื่นๆ สามารถใช้งานปุ่มกดด้านข้างได้อย่างง่ายดาย
ส่วนสายที่ให้มากับ Huawei Band 9 เป็นยางคุณภาพสูงใส่สบาย กระชับ ทนต่อเหงื่อและการเสียดสี ใครที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำจะรู้ดีว่าสายแบบยางนี่แหละ ทนทาน เหมาะแก่การใช้งาน และที่สำคัญคือทนทาน ไม่เหม็นเหงื่อ แห้งเร็ว
และถ้าใครชอบเปลี่ยนสาย ก็สามารถถอดสายได้อย่างง่ายดายด้วยระบบ Quick Release แค่กดปุ่มที่สายก็ถอดสายออกจากตัวเรือนได้อย่างรวดเร็ว สามารถหาซื้อสายสีอื่นๆมาสลับใช้ได้
ส่วนระบบการชาร์จเป็นแบบขั้วแม่เหล็ก โดยในกล่องจะมีแถมสายชาร์จมาให้ด้วย ซึ่งการชาร์จก็สะดวกมาก แค่แตะขั้วแม่เหล็กให้ตรงกันก็ชาร์จได้แล้ว แถมยังมีระบบชาร์จไว ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 45 นาทีเท่านั้น ซึ่งแบตเตอรี่เองก็ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆอีกด้วย เพราะสามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 14 วันเลยทีเดียว และจากการลองใช้งานจริงก็พบว่าแบตเตอรี่ของ Huawei Band 9 อึดมาก ใส่ติดตัวไปต่างประเทศ 10 วันสบายๆไม่ต้องชาร์จ กลับมายังเหลือแบตเตอรี่มากกว่า 20%
ส่วนจุดเด่นของ Huawei Band 9 ที่ทาง TechXcite ชื่นชอบมากๆก็คือ การเชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์ได้ทุกค่ายได้แบบไม่มีปัญหา จะใช้มือถือ Android หรือ iPhone ก็เชื่อมต่อการทำงานได้รวดเร็ว ส่วนระบบการทำงานพื้นฐานต่างๆก็มีมาให้ครบครันอยู่แล้ว ทั้งการตั้งปลุก จับเวลา พยากรณ์อากาศ แจ้งเตือนต่างๆ หรือแม้แต่ใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพก็ยังได้ และทั้งนี้ยังสามารถทำการซิงค์ข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Huawei Health เพื่อใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น สามารถดาวน์โหลดรูปแบบหน้าจอเพิ่มเติมได้
หน้าตาของแอพพลิเคชั่น Huawei Health ใช้งานง่าย เมื่อเชื่อมต่อแล้วก็จะเก็บสถิติการออกกำลังและติดตามเรื่องสุขภาพของเราย้อนหลังได้ เปิดดูข้อมูลได้สะดวก มีการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เราสามารถปรับแต่งเองได้ รวมไปถึงการปรับแต่งหน้าจอ โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
เพิ่มความสนุสนาน ไม่น่าเบื่อซ้ำซากกับรูปแบบหน้าจอที่มีให้เลือกเยอะมาก อันนี้แนะนำเลยว่าควรดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Huawei Health มาใช้ แค่ตัวฟรีก็เยอะมากๆ หรือจะอุดหนุนแบบเสียเงินเพื่อลวดลาย รูปแบบที่ถูกใจก็ไม่ว่ากัน
ข้อมูลต่างๆ จะถูกบันทึกเอาไว้ เราสามารถย้อนดูภายหลังได้ พร้อมฟีเจอร์ที่เป็นแดชบอร์ดสุขภาพ เช็คข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดาย ทั้งการนอนหลับ การออกำลังกาย การก้าวเดิน ความเครียด ระดับการเต้นของหัวใจและค่าออกซิเจนในเลือด ฯลฯ หรือสำหรับคุณผู้หญิงยังมีฟีเจอร์ติดตามประจำเดือนพร้อมระบบการคาดคะเนล่วงหน้าด้วย
สำหรับการใช้งานจริงของ Huawei Band 9 ก็ต้องบอกเลยว่าทำานได้ดีมากๆ ครบเครื่องสุดๆ แถมฉลาดมากๆ เช่น หากเรางีบหลับก็ยังรู้ว่าเราแอบงีบไปกี่ชั่วโมง หรือระบบการติดตามการออกกำลังกายก็ทำได้ดี สามารถวัดค่าต่างๆได้ค่อนข้างแม่นยำ และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ทน อยู่ได้หลายวัน ใส่ลุยแบบไม่ต้องกลัวพัง ด้วยค่าตัวแค่ 1,299 บาทเท่านั้น ส่วนดีไซน์ก็ใส่ได้ผู้หญิงและผู้ชาย สวมใส่สบาย น้ำหนักเบาอีกด้วย
ใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ Huawei Band 9 สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ทั้งช่องทาง Shopee และ Lazada เลย และถ้ามีช่วงโปรโมชั่นดีๆ บางทีได้ราคาถูกกว่าที่บอกด้วยซ้ำไป!