หากจัดอันดับ Top 10 หรือ Top 5 สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปสวย ชื่อของ Xiaomi 14 Ultra ต้องติดโผอย่างแน่นอน เพราะนี่คือสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Xiaomi ที่มาพร้อมกับระบบถ่ายภาพที่ได้รับความร่วมมือจากแบรนด์กล้องชื่อดังระดับโลกอย่าง LEICA และไม่ใช่แค่จุดเด่นจะมีแต่เรื่องการถ่ายภาพ แต่ยังมีจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน รวมไปถึงอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆอีกมากมาย เดี๋ยวเรามาดูกันว่า Xiaomi 14 Ultra ตัวนี้ มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

คะแนน Untutu

คะแนน Geekbench 6

นอกจากนี้ Xiaomi 14 Ultra ยังมีชุด Photography Kit ที่ดีไซน์มาเป็นพิเศษสำหรับประกบเข้ากับตัวเครื่อง

ในชุด Photography Kit ประกอบด้วยเคสสำหรับ Xiaomi 14 Ultra, แบตเตอรี่กริปที่สามารถใช้งานเป็นแบตเตอรี่สำรองในตัวและกริปสำหรับถ่ายภาพได้อย่างสะดวก และชุดวงแหวนตกแต่งขอบหน้าเลนส์สีเงินและสีส้ม รวมถึงวงแหวนอแดปเตอร์สำหรับการใช้งานฟิลเดอร์ถ่ายภาพขนาด 67mm

ในส่วนของตัวกริปถ่ายภาพได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้เฉกเช่นเดียวกับกล้องคอมแพ็ค คือมีปุ่มชัตเตอร์ที่สามารถกดแตะครึ่งหนึ่งเพื่อโฟกัสภาพก่อนได้ รวมถึงมีก้านโยกซูมภาพที่ให้อารมณ์การซูมเหมือนกล้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ขยีบจาก 1X ไป 2X แต่จะค่อยๆเลื่อนซูมไปทีละสเต็ป เช่น 1.1X ไป 1.2X เรื่อยๆ รวมถึงมีแป้นหมุนเพื่อตั้งค่ากล่องได้ตามที่เราเซ็ตไว้ และปุ่มถ่ายวีดีโอแยกออกมาอีกต่างหาก เรียกได้ว่าใส่ชุด Photography Kit เข้าไป ล้ว แปลงร่างจากสมาร์ทโฟนเป็นกล้องถ่ายภาพได้เลย

เมื่อประกบชุด Photography Kit เข้าไป ตัวเครื่องจะเด้งสถานะแจ้งเตือน โดยเราสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าการทำงานต่างๆได้ เช่น อยากจะปรับเปลี่ยนปุ่มถ่ายวีดีโอเป็นปุ่มสำหรับปรับตั้งค่า ISO แทนก็ได้ ตรงนี้จะช่วยให้การถ่ายภาพสนุกมากยิ่งขึ้น

และสำหรับวงแหวนอแดปเตอร์ที่ใช้สำหรับใส่ฟิลเตอร์นั้น เราสามารถนำเอาฟิลเตอร์ขนาด 67mm มาหมุนใส่ได้เลย ทีนี้จะเพิ่มลูกเล่นการถ่ายภาพหรือวีดีโอด้วยฟิลเตอร์ต่างๆก็ทำได้สะดวก สามารถใช้งานกับฟิลเตอร์ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในร้านกล้องได้เลย เช่น สมารถใส่ C-PL เพื่อลดแสงสะท้อน หรือฟิลเตอร์ Black Mist ที่นิยมใช้งานให้ภาพดูฟุ้งและนุ่มนวล เป็นต้น

Xiaomiประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB ในราคาเพียง 12,990 บาท โปรโมชันพิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 13 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 27 เมษายน 2567 - 31 พฤษภาคม 2567 รับฟรี Bluetooth Speaker มูลค่า 990 บาท¹ นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 13 Pro 5G ในช่วงเวลาดังกล่าวที่ Xiaomi Store รับฟรีเพิ่มเติม BamBam Pillow ลูกค้าที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม

Redmi Note 13 Pro 5G ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพที่โดดเด่น กล้องหลักมาพร้อมความละเอียดสูงสุด 200MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP ทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงและมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับเรือธง และมีการซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพ 2x/4x (2x/4x in-sensor) ที่ยังคงไว้ซึ่งรายละเอียดในภาพระยะใกล้ (closed-ups) แม้จะถ่ายจากระยะไกลอีกด้วย กล้องอันทรงพลังนี้ยังสามารถรังสรรค์ภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์แม้จะอยู่ในสภาวะแสงน้อยและซับซ้อนอีกด้วย

Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K ความสว่างสูงสุด 1800nits และมีอัตรารีเฟรช AdaptiveSync 120Hz เพื่อการเลื่อนหน้าจอที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ ทั้งยังเป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม โดยมีอัตราการตอบสนองการสัมผัสทันทีที่ 2160Hz (2160Hz instantaneous touch sampling rate) และเทคโนโลยีสัมผัสความละเอียดสูงพิเศษ 16 เท่า (16x super-resolution touch technology) ในโหมด Game Turbo ที่ให้การตอบสนองอย่างแม่นยำ

Redmi Note 13 Pro 5G นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 7s Gen 2 อันทรงพลังพร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5100mAh (typ) ซึ่งสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 44 นาที ด้วยอุปกรณ์ชาร์จในกล่อง เทอร์โบชาร์จ 67W โดย Redmi Note 13 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ใช้ Corning® Gorilla® Glass Victus® เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการตกหล่นและรอยขีดข่วน และมีมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและกันน้ำกระเซ็นระดับ IP54⁵ พร้อมด้วยระบบเสียง Dolby Atmos® ให้ได้เพลิดเพลินกับการฟังเพลง เล่นเกม ดูวีดีโอ ทั้งแบบลำโพงคู่ หรือแบบมีหูฟังผ่านทางช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

Redmi Note 13 Pro 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple ในรุ่นความจุ 12GB+512GB โดยวางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม