Xiaomi 14 Ultra เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับในประเทศจีน ก่อนจะขึ้นเวทีระดับโลกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่บาร์เซโลนา ด้านการออกแบบอาจดูไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนเท่าใดนัก แต่ Xiaomi 14 Ultra ได้ปรับปรุงการออกแบบใหม่ในบางส่วน โดยมีสีให้เลือกสามแบบ ได้แก่ รุ่นสีดำและสีขาวที่มีแผงด้านหลังเป็นหนังเทียม และมีน้ำหนัก 224.4 กรัม ซึ่งเบากว่ารุ่น 13 Ultra ถึง 3 กรัม ในขณะที่รุ่นสีน้ำเงินมีสิ่งที่ Xiaomi เรียกว่า Dragon Crystal อยู่ที่ด้านหลัง และหนักกว่าอยู่ที่ 229.5 กรัม และสุดท้ายรุ่น Titanium Special Edition ที่หนัก 229.6 กรัม โดย Xiaomi บอกว่าใช้ไทเทเนียมเกรด 5 เช่นเดียวกับ iPhone (และสูงกว่า Galaxy S24 Ultra)
![](https://techxcite.com/web/../topics/43621/filemanager/gsmarena_006.jpg)
ในการถ่ายภาพซึ่งเป็นจุดเด่นของโทรศัพท์เครื่องนี้ โดย Xiaomi ยังใช้กล้อง 4 ตัวสูตรเดิม คือเป็นกล้อง 50MP 0.5x + 1x + 3.2x + 5x เหมือนเดิม และส่วนใหญ่ฮาร์ดแวร์ก็เหมือนเดิม โดยกล้องหลักยังคงเป็นเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว แต่เป็นเซ็นเซอร์รับภาพ Sony LYT-900 รุ่นล่าสุดที่มีการออกแบบที่ดีกว่าและอ่านค่าได้เร็วกว่า ในทางเทคนิคแล้ว เลนส์ยังคงเป็นรูรับแสงคู่ 23 มม. แต่จะกว้างกว่าที่ด้านสว่าง โดยสลับระหว่าง f/1.63 และ f/4.0 ซึ่งจะทำให้แสงมากกว่าเลนส์ f/1.9 ถึง 136% ถึง f/4.0 ถึง 136% เมื่อเทียบกับ 13 Ultra ซึ่ง Xiaomi เรียกกลไกนี้ว่ารูรับแสงแบบไม่มีขั้น (stepless aperture) ซึ่งบอกเป็นนัยว่าสามารถอยู่ระหว่าง f/1.63 ถึง f/4.0 แม้ว่าเว็บไซต์และการนำเสนอของ Xiaomi จะแสดงเฉพาะตัวอย่างที่ f/1.63 และ f/4.0 เท่านั้น และกล้องหลักสามารถถ่ายภาพ Ultra RAW ด้วยความมหัศจรรย์ในการคำนวณทั้งหมด และสำรองไว้ใน DNG พร้อมข้อมูลภาพเต็มรูปแบบ
![](https://techxcite.com/web/../topics/43621/filemanager/gsmarena_013.jpg)
ต่อไปเลนส์ซูมเป็นกล้อง Periscope แบบปกติ 3.2x ระยะ 75 มม. f/1.8 และกล้องPeriscope 5x 120 มม. f/2.5 โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 ขนาด 1/2.5 นิ้วตัวเดียวกันกับเลนส์มุมกว้างพิเศษ 12 มม. f/1.8 กล้องปริทรรศน์ 120 มม. ที่ได้รับการยกระดับจากเลนส์ f/3.0 เป็นเลนส์ f/2.5 ซึ่ง Xiaomi เปรียบเทียบการรวบรวมแสงระหว่างความสามารถในการรวบรวมแสงเทเลโฟโต้ของ Xiaomi 14 Ultra กับ iPhone 15 Pro series' โดยเลนส์ 120 มม. f/2.5 จับแสงได้มากกว่า Pro Max ถึง 196% และมากกว่า Pro ถึง 474% โดย Xiaomi 14 Ultra สามารถทำการซูมแบบอัลตร้าซูม 30x ที่ขับเคลื่อนโดย AI
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือระยะโฟกัสต่ำสุดของการซูมทั้งสองแบบ โดยเลนส์ 75 มม. สามารถถ่ายภาพได้ใกล้สุดถึง 10 ซม. ในขณะที่เลนส์ 120 มม. สามารถโฟกัสได้จาก 30 ซม.
Xiaomi 14 Ultra สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ระดับเดียวกันกับคู่แข่งอย่าง Galaxy S24 Ultra โดยถ่าย 4K ได้ที่ 60fps และ 120fps (กล้องหลักเท่านั้น) รวมถึงวิดีโอ 8K
![](https://techxcite.com/web/../topics/43621/filemanager/gsmarena_007.jpg)
จอแสดงผลก็เช่นกัน โดยใช้หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440x3200 พิกเซล พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120 Hz, รองรับ Dolby Vision รองรับ HDR10+ และสว่างขึ้นเล็กน้อยที่ 3,000 nits (เทียบกับ 2,600 nits จากเดิม)
Xiaomi เรียกกระจกที่ด้านบนของจอแสดงผลว่า Shield Glass และบอกว่ามีความต้านทานการตกหล่นสูงกว่า 10 เท่าและยังใสกว่าอีกด้วย มุมของหน้าจอมีความโค้งเล็กน้อยในทุกด้าน Xiaomi เรียกสิ่งนี้ว่าจอแสดงผล All Around Liquid
Xiaomi 14 Ultra มีชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ที่ใหม่ล่าสุดและทรงพลังที่สุด, RAM สูงสุด 16 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1 TB มีการระบายความร้อนดีขึ้นด้วยห้องทำความเย็นด้วยไอน้ำ VC ที่ใหญ่ขึ้น 3 เท่า รัน Android 14 โดยมี Xiaomi HyperOS อยู่ด้านบน
![](https://techxcite.com/web/../topics/43621/filemanager/gsmarena_015.jpg)
แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นประมาณ 6% ที่ 5,300mAh และชาร์จได้สูงถึง 90W ผ่านสายหรือที่ 80W แบบไร้สาย รวมถึงแบตเตอรี่ได้รับการปกป้องโดยชิปป้องกันไฟกระชาก G1 และ P2
สำหรับรุ่น Xiaomi 14 Ultra Titanium Special Edition จะเพิ่มการรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมสองทาง และโทรศัพท์ทุกรุ่นมีชิปเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณ T1 ที่ช่วยในเรื่องการเชื่อมต่อเซลลูลาร์, Wi-Fi และบลูทูธ
Xiaomi 14 Ultra มีจำหน่ายในสีน้ำเงิน สีดำ และสีขาว และมีสามเวอร์ชั่น เริ่มต้นที่ RAM 12/256GB ราคา 6,499 หยวนจีน (ประมาณ 32600 บาท) และยังมีรุ่น RAM 16/512GB และ 16GB/1TB Titanium Xiaomi
![](https://techxcite.com/web/../topics/43621/filemanager/gsmarena_011.jpg)
และนอกจากนี้ Xiaomi ยังนำเสนออุปกรณ์เสริมกล้อง Photography Kit ที่ได้รับการอัพเกรดสำหรับ 14 Ultra ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมสองชิ้นประกอบด้วยเคสและกริปกล้องแบบติดตั้งได้พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 1,500mAh ในตัว และส่วนควบคุมกล้องผ่าน Bluetooth มีราคาอยู่ที่ 699 หยวนจีน ส่วนเครื่องชาร์จไร้สายพิเศษ 80W จะมีวางจำหน่ายในราคา 499 หยวนจีน
source: gsmarena