หากถามว่าอยากได้สมาร์ทโฟนเอาไว้ใช้ถ่ายรูปสวยๆสักตัว มีตัวไหนแนะนำบ้าง คงต้องตอบว่ามีอยู่เยอะเลย แต่ถ้าเน้นราคาคุ้มค่าด้วยแล้ว ขอยกตำแหน่งให้ Xiaomi 13T ไปเลย เพราะ Xiaomi 13T นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพในช่วงราคาที่จับต้องได้ และภาพที่ได้นั้นก็ออกมาสวยโดดเด่น โดยผู้ใช้งานแทบจะไม่ต้องปรับแต่งภายหลัง เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าที่ถ่ายรูปสวยที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้
สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้สวย บางทีดูจากสเป็คหน้ากระดาษอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะอารมณ์ของภาพที่ได้นั้น แต่ละแบรนด์ก็จะมีการพัฒนาและปรับแต่งโทนสีและสไตล์ภาพทออกมาแตกต่างกันไป ซึ่งในส่วนของ Xiaomi 13T นั้นได้รับการพัฒนาในเรื่องเทคโนโลยีการถ่ายภาพร่วมกับทาง Leica ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ๋ถ่ายภาพชื่อดังระดับโลกที่หลายคนรู้จัก จนได้เอกลักษณ์ของโทนภาพออกมาสวยงามในสไตล์ของ Leica นั่นเอง
สำหรับสเป็คของกล้องหลังของ Xiaomi 13T มาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้องหลักความละเอียดอยู่ที่ 50 ล้านพิกเซล ให้มุมมองภาพเทียบเท่าระยะ 24mm f1.9 ใช้เซ็นเซอร์ IMX707 ขนาด 1/1.28" มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ชิ้นเลนส์ภายใน 7 ชิ้นแบบ Aspherical ลดความคลาดสี พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อน ALD เพิ่มอัตราการผ่านของแสงได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนกล้องอีกตัวเป็นกล้อง Telephoto มีทางยาวโฟกัสเทียบเท่าระยะ 50mm f1.9 เซ็นเซอร์ OV50D ขนาด 1/2.88" ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รองรับการซูมแบบดิจิตอล 20 เท่า และอีกหนึ่งตัวเป็นกล้อง Ultra Wide Angle ที่ให้ระยะเทียบเท่าทางยาวโฟกัส 15mm f2.2 ใช้เซ็นเซอร์ OV138 ขนาด 1/3.06" ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
Xioami 13T ยังมาพร้อมกับหน้าจอ Crystal AMOLED ความละเอียด FHD+ 1220 x 2712 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 144Hz รองรับการแสดงผล HDR10+ และ Dolby Vision แสดงผลช่วงสีได้กว้างตามมาตรฐาน DCI-P3 100% นั่นทำให้การแสดงผลของภาพถ่ายออกมาสวยงามด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพที่ครบครันทั้งการถ่ายภาพแบบมืออาชีพที่เราสามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้เอง ตั้งแต่ White Balnce, การปรับโฟกัส, การปรับค่าความเร็วชัตเตอร์จนไปถึงการปรับตั้งค่า ISO ได้
หรือจะเป็นโหมดการถ่ายภาพบุคคลที่สามารถเลือกระยะเลนส์ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสวยงาม โดยมีให้เลือกเป็นระยะ 35mm, 50mm และระยะ 90mm ซึ่งที่ระยะ 90mm จะเป็นระยะเลนส์ที่ทาง Xiaomi ตั้งใจออกแบบมาให้คาแรคเตอร์คล้ายคลึงกับเลนส์ Leica Thambar-M 90 f/2.2 ซึ่งเป็นเลนส์ Soft Focus ดังนั้นภาพที่ได้ออกมาจะดูฟุ้งและนุ่มนวลแบบคลาสสิคตามสไตล์ Leica ในยุคฟิล์ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ดังกล่าว ไม่ใช่ปัญหาถ่ายภาพไม่คมชัดแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ยังสามารถปรับแต่งโทนภาพแนว Leica ได้ง่ายๆ ด้วยรูปแบบโทนภาพแบบดั้งเดิม Leica Authentic Look ที่ให้ภาพสวยเคลียร์ ให้โทนสีที่มีมิติสมจริง และ Leica Vibrant ที่จะให้ภาพแนวสดใส สไตล์กล้อง Leica รุ่นใหม่ๆ ให้คอนทราสต์และความอิ่มตัวของสีสูง
ส่วนที่น่าสนใจมากๆของกล้องใน Xiaomi 13T นั่นก็คือ การใส่ฟิลเตอร์มาให้ใช้งานหลากหลายฟิลเตอร์ด้วยกัน ซึ่งมีมากถึง 19 แบบให้เลือก โดยแบ่งเป็นฟิลเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Leica จำนวน 6 แบบ ได้แก่ Leica VIV, Leica NAT, Leica BW NAT, Leica BW HC, Leica SEPIA และ Leica Blue ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้อย่างสะดวก เห็นผลลัพธ์ก่อนถ่าย และที่สำคัญคือ แต่ละฟิลเตอร์ให้โทนภาพสวยจบหลังกล้อง ไม่ต้องมาปรับแต่งภาพภายหลัง
ใน Xiaomi 13T ยังได้ใส่ระบบอัลกอริธึมอัจฉริยะ Xiaomi Imaging Engine ที่นำเอา AI มาช่วยในการประมวลผล และปรับแต่งภาพให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายและได้ภาพถ่ายที่สวยงาม รวมไปถึงเรื่องการโฟกัสที่รวดเร็ว การทำหน้าชัดหลังเบลอเมื่อใช้งานถ่ายภาพบุคคลหรือแม้แต่การปรับแต่งโทนสีของภาพให้ดูสดใสสวยงามและคมชัดอีกด้วย และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจาก Xiaomi 13T ที่ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าที่ถ่ายรูปสวยที่สุดแห่งปีจริงๆ
สำหรับกล้องหลักใน Xiaomi 13T นั้น ให้โทนภาพที่ดูสวยงามมากๆเลยทีเดียว แค่ยกเล็ง หาสภาพแสงดีๆ คุณก็จะได้ภาพถ่ายในสไตล์ที่ต้องยอมรับเลยว่านี่คือความร่วมมือของ Xiaomi และ Leica จริงๆ เพราะภาพที่ออกมานั้นได้กลิ่นอายความเป็น Leica ยิ่งถ้าใช้เป็นแบบ Leica Authentic แล้ว จะได้ภาพกลมกล่อมคล้ายกับว่าได้ภาพจากกล้องฟิล์มพร้อมโชว์ได้ทันที
ในขณะที่ถ้าเลือกการใช้งานแบบ Leica Vibrant จะได้ภาพในโทนที่ดูสดใสมากขึ้น โดยแนวภาพจะเน้นความอิ่มตัวของสีและความใสเคลียร์ของภาพมากขึ้น ถ้าอยากได้สไตล์กล้อง Leica รุ่นใหม่ๆ ไม่ผิดหวังกับโทนสีของภาพแน่นอน
ในขณะที่กล้อง Telephoto ที่ใส่มา ทำให้ได้เฟรมภาพที่ขยับเข้าใกล้อีกนิด การนำไปใช้ถ่ายภาพทำได้สนุก เพราะเป็นระยะที่ให้มุมมองภาพใกล้เคียงกับสายตาของมนุษย์ ดังนั้น จึงสามารถเลือกจัดองค์ประกอบภาพได้ง่าย จะเอาไว้ใช้ถ่ายภาพ Street หรือถ่ายภาพทั่วไปก็เหมาะมากๆ
ส่วนเลนส์ Ultra Wide Angle ที่ให้มาด้วยนั้น ก็จะได้มุมภาพกว้างขึ้น เหมากับการถ่ายภาพแนว Landscape หรือเอาไว้ถ่ายภาพท่องเที่ยวก็ได้ เป็นมุมมองที่ใช้ถ่ายรูปได้ง่าย ใช้ได้บ่อย สำหรับเลนส์ระยะนี้
ในส่วนที่ชอบมากที่สุดของ Xiaomi 13T นั่นก็คือมีฟิลเตอร์ถ่ายภาพขาวดำให้เลือกใช้งาน โดยได้รับการปรับแต่งให้ได้โทนขาวดำที่เป็นเอกลักษณ์แบบเดียวกับกล้อง Leica อย่างแท้จริง โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Leica BW ซึ่งภาพที่ได้ จะเป็นโทนขาวดำคลาสสิค และแบบ Leica BW HC ที่ให้ภาพขาวดำที่มีคอนทราสต์สูง จนเป็นภาพที่มีมนต์เสน่ห์ของสไตล์ภาพขาวดำที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ
ส่วนในโหมดการถ่ายภาพบุคคล สามารถถ่ายภาพแนว Portrait ออกมาได้อย่างสวยงาม สามารถปรับตั้งค่าการละลายฉากหลังได้ รวมถึงมีให้เลือกเลนส์ 3 ระยะที่เรียกว่า Leica Master Lens System คือระยะ 35mm, 50mm และ 90mm นั่นเอง ใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โหมดนี้ช่วยให้ถ่ายได้ง่าย สะดวก และที่สำคัญคือได้ภาพสวยจบหลังกล้องได้
และยังมีโหมดโปร สำหรับมืออาชีพที่ชอบการปรับตั้งค่าด้วยตนเอง สามารถใช้งานเพื่อสร้างสรรค์เทคนิคการถ่ายภาพได้ตามใจ ซึ่งโหมดนี้ ใครที่มีพื้นฐานด้านการถ่ายภาพ น่าจะถูกใจในการปรับตั้งค่ากล้องเอง เพื่อให้ได้ผลงานในแบบที่ไม่เหมือนใคร
สรุปสำหรับ Xiaomi 13T ในเรื่องของการถ่ายภาพ ยอมรับเลยว่าถูกใจมากๆ และขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือสมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าที่ถ่ายรูปสวยที่สุดแห่งปีอีกครั้ง แค่หยิบ เล็ง ถ่ายโอกาสได้รูปสวยๆจาก Xiaomi 13T ก็เป็นเรื่องง่าย เพราะทั้งในเรื่องของเลนส์ ระบบการถ่ายภาพ โหมดถ่ายภาพต่างๆ และโทนสีหรือฟิลเตอร์ที่ให้มาถือว่าครครัน ใช้งานง่าย ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงสวยงาม ยิ่งได้การพัฒนาร่วมกับทาง Leica ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ได้สไตล์ภาพที่โดดเด่นมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจและมองหา Xiaomi 13T สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Xiaomi ทั่วประเทศหรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ (Lazada, Shopee) ก็ได้เช่นกัน กับ Xioami 13T ในราคา 15,990 บาท
และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างาพถ่ายจาก Xiaomi 13T ซึ่งขอบอกไว้เลยว่าเป็นภาพที่ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งใดๆ ทุกๆภาพเป็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้วได้แบบนี้เลย สวยงามแค่ไหน ลองไล่เรียง รับชมกันได้เลย...