เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Huawei Watch GT 4 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smart Watch จากทาง Huawei ที่มาคราวนี้จัดเต็มอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาสำหรับผู้รักสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างแท้จริง เดี๋ยวมาดูกันดีกว่าถึงฟีเจอร์และสเป็ค รวมถึงการใช้งานของ Huawei Watch GT 4 ตัวนี้ ว่ามีอะไรโดดเด่นและน่าสนใจบ้าง
.jpg)
ดีไซน์ที่สวยหรู แน่นหนา งานประกอบดี
สำหรับ Huawei Watch GT 4 รุ่นที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นรุ่นขนาด 46mm ที่มาพร้อมกับสายยางซิลิโคนในแบบที่เรียกว่า Fluoroelastomer ที่สวมใส่สบาย ลุยได้ ไม่กลัวน้ำหรือเหงื่อ และสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้งานร่วมกับหูสายนาฬิกาขนาด 22 มม.ได้ โดยมีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 46 x 46 x 10.9 มม. นั่นเอง สำหรับตัวเรือนของ Huawei Watch GT 4 รุ่นที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นวัสดุสแตนเลสซึ่งมีความทนทานและนิยมใช้งานในนาฬิกาทั่วไป เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านความทนทาน ส่วนดีไซน์ตัวเรือนเน้นความเป็นแฟชั่นด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมโค้งมนจนดูเหมือนกับเป็นลักษณะใกล้เคียงวงกลม
จริงๆแล้วหน้าปัดของ Huawei Watch GT 4 จะให้เลือก 2 ขนาดครับ คือ 46 และ 41 มิลลิเมตร ซึ่งรุ่นที่เรารีวิวนี้จะเป็นรุ่น 46 มม. ครับ โดยใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดที่สูงมาก และหน้าจอขนาดใหญ่แบบนี้ยังช่วยให้เราสามารถอ่านการแจ้งเตือน หรือข้อมูลต่างๆ บนหน้าปัดได้ง่ายมากครับ
นอกจากนี้จากที่ทดสอบใช้งานกลางแจ้ง หน้าจอของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ยังสามารถสู้แสงแดดได้ดีมากอีกด้วยครับ
.jpg)
ด้านงานประกอบของรุ่นนี้ถือว่าพรีเมี่ยมมากๆ ครับ นอกจากดีไซน์จะสวยสะดุดตาแล้ว งานประกอบยังกันน้ำตามมาตราฐาน IP68 โดยสามารถกันฝุ่นหรือของแปลกปลอมเข้าเครื่องได้ และกันน้ำได้ในระดับความลึกสูงสุด 1.5 เมตรเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ซึ่งตามทฤษฎีแล้วจะสามารถใส่ว่ายน้ำได้นิดหน่อยหรือลุยน้ำฝนก็ได้ครับ แต่ไม่แนะนำให้ดำน้ำครับ
.jpg)
ปุ่มควบคุมของรุ่นนี้จะวางไว้ด้านขวาทั้งหมดครับ ประกอบไปด้วยปุ่มแบบเม็ดมะยม (Crown) สำหรับการหมุนเลื่อนเมนู และปุ่มสำหรับกดเลือก การใช้งานถือว่าใช้งานได้ง่ายครับ ใครไม่เคยใช้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเลย
.jpg)
โดยรวมด้านการออกแบบและงานประกอบของ Huawei Watch GT 4 ถือว่าทำมาได้ดีงามมากครับ มีหน้าจอ AMOLED ที่ค่อนข้างสว่างและสีสันสวยสดใส มีงานประกอบระดับสูง ดีไซน์โดดเด่น และกันน้ำกันฝุ่นได้ โดยรวมถือว่าสวยครบเครื่องตามสไตล์สมาร์ทวอทช์ของค่ายนี้ครับ
Harmony OS ที่ลื่นไหล ออกแบบอย่างสวยงาม
.jpg)
Huawei Watch GT 4 ใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 4.0 ที่พัฒนาโดยบริษัทเองครับ โดยเป็นซอทฟ์แวร์ที่เบา ไม่กินหน่วยความจำเครื่อง และลื่นไหลมาก และด้วยการควบคุมที่ใช้ทั้งการสัมผัสหน้าจอ และมีเม็ดมะยมช่วยให้การควบคุมสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ Watch GT4 จะไม่สามารถใช้งาน LTE ได้
.jpg)
สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เราจำเป็นต้องโหลดแอป Huawei Health บน Play Store สำหรับ Android OS และสำหรับอุปกรณ์ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store เช่นกัน จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อให้เรียบร้อยครับ ซึ่งก็จะเป็นการทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ อย่างง่ายๆ ครับ
.jpg)
ในส่วนของ Watch Face หรือหน้าปัดนาฬิกา บนอุปกรณ์ที่ให้มาก็ถือว่าค่อนข้างสวยแล้วครับ แต่เรายังสามารถโหลดเพิ่มได้อีกมากมายบนสมาร์ทโฟน ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและไม่ฟรี เลือกโหลดได้ตามสไตล์ของตัวเองได้เลย
ด้านการออกกำลังกายจะใช้ปุ่มกดด้านล่างสำหรับการเลือกกีฬาที่ต้องการออกกำลังกายครับ ส่วนการควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอจะใช้การปัดหน้าจอไปในทิศทางต่างๆ เช่น การปัดจากบนลงล่างสำหรับการตั้งค่าด่วน การปัดหน้าจอจากล่างขึ้นบนจะเป็นการเปิดการแจ้งเตือน นอกจากนี้เรายังสามารถตอบข้อความด่วนด้วยการเขียนข้อความหรือใส่ Emoji ไว้ล่วงหน้าก็ได้เช่นกันครับ
และอีกหนึ่งจุดเด่นของ Huawei Watch GT 4 Series ก็คือการมาพร้อมไมค์และลำโพง ทำให้สามารถรับสายแล้วพูดผ่านไมค์และลำโพงของนาฬิกาได้โดยตรงเลยครับ ก็สะดวกดีในบางครั้งที่เราไม่สามารถหยิบมือถือออกมาใช้ได้ เช่น เวลาที่ฝนตก เป็นต้น
การติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย
.jpg)
ในส่วนของโหมดกีฬาบน Huawei Watch GT 4 จะมีให้เลือกมากกว่า 100 ชนิดกีฬาเลยครับ เพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว เช่นเดียวกับการปรับปรุงการติดตามรอบประจำเดือนสำหรับสุภาพสตรีอีกด้วย และการติดตามสุขภาพในด้านต่างๆ ก็ยังมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม HR หรือการติดตามการนอนหลับ แถมยังถูกอัพเกรดให้วัดได้แม่นยำขึ้นผ่าน TruSeen 5.5+ อีกด้วย และด้านล่างนี้เป็นหน้าตาของแอปพลิเคชันที่เก็บข้อมูลให้เรานำมาวิเคราะห์สุขภาพของเราครับ
.jpg)
โดยรวมถือว่า Huawei Watch GT 4 มาพร้อมเซ็นเซอร์ด้านสุขภาพที่ค่อนข้างครบเครื่องสำหรับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ในราคาระดับนี้ครับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมแอปพลิเคชันใหม่อย่าง Stay Fit ที่จะช่วยติดตามแคลอรี่จากอาหารที่เรากินเข้าไป โดยเราสามารถป้อนข้อมูลอาหารเองหรือจะสแกนโค้ดเอาก็ได้
.jpg)
การออกกำลังกายก็จะมีการคำนวณแคลอรี่ รวมถึงข้อมูลการออกกำลังกายต่างๆ เช่น HR และระยะเวลาที่ทำกิจกรรมต่างๆ
.jpg)
เราสามารถตรวจสอบสถิติต่างๆ ที่เราทำกิจกรรมได้อย่างง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันครับ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ด้านการนอนหลับระบบจะมีการตรวจจับในเวลากลางคืน และตอนเช้าเราสามารถดูคะแนนการนอนหลับของเราได้ ทำให้เราทราบสถานะการนอนหลับของเราได้
.jpg)
การติดตามความเครียดก็เป็นเรื่องสำคัญครับ ทาง Huawei ก็ไม่พลาดที่จะให้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเครียดเพื่อให้ผู้ใส่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
.jpg)
แบตเตอรี่ใช้งานได้เกือบ 2 สัปดาห์
สำหรับ Huawei Watch GT 4 รุ่นหน้าปัด 46 มม. ที่เรารีวิวนี้ ตามคู่มือบอกว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้นาน 14 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งจากที่เราทดสอบใช้งานจริงพบว่าจะสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงตามนั้นครับ
โดยแบตเตอรี่ที่ให้มามีความจุ 524mAh ซึ่งหากเปิดใช้งานฟีเจอร์ Always-on Display ด้วย แบตก็จะหมดเร็วขึ้นครับ รวมถึงหากใช้งานจัดเต็มทุกอย่าง แบตก็จะใช้งานได้ 4-5 วัน ก็ยังถือว่าเยอะมากสำหรับสมาร์ทวอทช์ระดับนี้อยู่ดี ส่วนการชาร์จ 0-100% จะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม. นิดๆ ก็ถือว่าทำได้ดีครับ
Conclusion
Huawei Watch GT 4 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับคนที่มองหานาฬิกาดีไซน์สวย ดูหรูหรา โมเดิร์น โดยมาพร้อมดีไซน์ที่สวยตามนาฬิกาคลาสสิค ดูมีระดับ และมีราคาที่จับต้องได้ มีหน้าจอ OLED ที่คมชัดสวยงาม และสว่าง สู้แสงได้ดี
ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายก็โอเคครับ โดยมาพร้อมโหมดการออกกำลังกายหลักๆ ครบครัน รวมถึงเซ็นเซอร์สุขภาพค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ หรือชีพจร เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของการติดตามตำแหน่ง GPS รุ่นนี้ยังทำได้แม่นยำขึ้น 30% อีกด้วยครับ
และทางด้าน ราคา Huawei Watch GT 4 รุ่นหน้าปัด 46 มม. มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6990 บาท สำหรับรุ่นสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ที่เรารีวิวครับ ถือว่าค่อนข้างทำราคาได้ดีทีเดียว ใครสนใจสามารถสอบถามตัวแทนจำหน่ายของ Huawei ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้ทั่วประเทศเลยครับ
ช่องทางสั่งซื้อผ่าน Shopee
ช่องทางสั่งซื้อผ่าน Lazada