iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์นับตั้งแต่อาจเป็น Pro Max ตัวแรกในปี 2019 รวมถึงในปีนี้ iPhone ก็มี USB-C แล้ว
และไม่ใช่ USB-C เหมือนรุ่นธรรมดา แต่เป็น USB 3.0 ด้วยที่มีความเร็วสูงถึง 10 Gbps คุณจะสามารถใช้เครื่องชาร์จและสายเคเบิลจาก iPad Pro, MacBook Pro หรือ Galaxy เพื่อชาร์จ iPhone ใหม่ได้ แต่ด้านความเร็ว Apple ไม่ได้พูดถึงเท่าไหร่ครับ
Apple ได้นำการอัปเกรดมากมายมาสู่ดีไซน์ของซีรีส์ iPhone 15 Pro ทั้งสองรุ่น โดยมีขอบที่โค้งมนและมีขอบที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone เพราะ Apple สามารถลดขนาดโดยรวมของโทรศัพท์ได้ แม้ว่าจะคงขนาดหน้าจอเท่าปีที่แล้วก็ตาม
ด้านวัสดุงานประกอบก็เช่นกัน สแตนเลสสตีลถูกแทนที่ด้วยกรอบไทเทเนียม ส่งผลให้สิ่งที่ Apple อ้างว่าเป็นรุ่น Pro ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา คือเบาขึ้น 19 กรัม เมื่อเทียบกับ 14 Pros ของปีที่แล้ว และขึ้น 1 กรัมเมื่อเทียบกับ 11 Pro
โลหะผสมเฉพาะคือไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งบริษัทกล่าวว่าใช้กับรถที่ใช้วิ่งบนดาวอังคารอีกด้วย โดย Apple ได้หุ้มอะลูมิเนียมไว้ในโครงสร้างย่อยของไทเทเนียมโดยใช้กระบวนการทางความร้อนเชิงกลแบบใหม่ โดยอลูมิเนียมที่หุ้มจะช่วยกระจายความร้อนนั่นเอง
กรอบของโทรศัพท์มีพื้นผิวแบบไม่เรียบ ซึ่งใช้เวลาการผลิต 14 ชั่วโมงในกระบวนการนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกลึง การขัด การแปรง และสุดท้ายก็ทำให้ด้านนอกของโทรศัพท์เป็นไทเทเนียม โดย iPhone 15 Pro มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว สีน้ำเงิน และสีไทเทเนียม
จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือสวิตช์ปิดเสียงที่กลายเป็นปุ่ม Action Button แล้ว การใช้งานจะเป็นการกดค้างไว้จะทำให้โทรศัพท์อยู่ในโหมดเงียบตามเดิม แต่คุณสามารถกำหนดฟังค์ชั่นการใช้งานสำหรับการกดหรือกดสองครั้งได้ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดกล้องแบบด่วน หรือไฟฉาย เป็นต้น
ด้านหน้าของ iPhone 15 Pro ทั้งสองรุ่นใหม่เป็นกระจก Ceramic Shield เช่นเดียวกับในรุ่น 14 Pro ขนาดจอภาพเท่าเดิม โดย iPhone 15 Pro มี Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช Adaptive 120Hz (ProMotion), HDR10, Dolby Vision และความสว่างสูงสุด 2,000 nits ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max เพิ่มขนาดเป็น 6.7 นิ้ว นอกจากนี้ในโหมด Always-on display ยังเพิ่มการทำงานด้วย เช่น สามารถใช้ในโหมดสแตนด์บาย หรือเปิดในแนวนอนเมื่อคุณชาร์จ เป็นต้น
ระบบกล้องใน iPhone 15 Pro ใหม่เป็นระบบใหม่ทั้งหมด เริ่มต้นด้วยกล้องหลัก 48MP ซึ่งมีเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าพร้อมพิกเซล 1.22µm และระบบป้องกันภาพสั่นไหวของเซ็นเซอร์รุ่นที่สอง โดยใช้เลนส์ 24mm f/1.78
กล้องหลักยังเปิดฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iPhone 15 Pro ทั้งสองรุ่น คือสามารถจับภาพ 48MP HEIF ควบคู่ไปกับ 48MP ProRAW ได้แล้ว และเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นยังทำให้รองรับโหมดซูมดิจิตอล 28 มม. 35 มม. และ 48 มม. ได้
ที่สำคัญ iPhone 15 Pro Max ยังได้เปิดตัวกล้องปริทรรศน์ตัวแรกบน iPhone ด้วยการออกแบบออพติคอลแบบพับ ทำให้ Pro Max สามารถซูมได้เกิน 3 เท่าและสูงสุด 5 เท่า หรือ 120 มม. การออกแบบด้านการมองเห็นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ Apple เรียกมันว่าปริซึมแบบเตตราปริซึม และจะสะท้อนแสงสี่เท่าจากรูม่านตาที่เปิดเลนส์ไปยังเซ็นเซอร์ที่พับอยู่ ตัวเลนส์มีค่า f/2.8 ซึ่งสว่างที่สุดในกล้อง 120 มม. บนโทรศัพท์ในตลาด นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลซึ่ง Apple กล่าวว่ามีการปรับค่าขนาดเล็ก 10,000 ครั้งต่อวินาทีเพื่อลดความเบลอ
นอกจากนี้ iPhone 15 Pro ยังใช้กล้องซูม 3 เท่าแบบ 77 มม. พร้อมพิกเซล 1µm และเลนส์ f/2.8 ซึ่งไม่ต่างจากโทรศัพท์ของปีที่แล้ว
สำหรับเลนส์มุมกว้างพิเศษ จะเป็นเลนส์แบบ 13 มม. f/2.2 1.4µm เหมือนกัน พร้อมด้วยพิกเซลโฟกัส 100% และความสามารถในการโฟกัสมาโครได้อีกด้วย
ระบบประมวลผลใช้ชิป A17 Pro ขับเคลื่อนบน iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max ซึ่งเป็นชิปอุตสาหกรรมตัวแรกที่สร้างขึ้นจากกระบวนการ 3 นาโนเมตร ข้างในเป็นโปรเซสเซอร์ 6 คอร์ที่มี 2 คอร์แรงซึ่ง Apple กล่าวว่าเร็วกว่า A16 Bionic 10% และคอร์รองอีก 4 คอร์
GPU เป็นยูนิตแบบ 6 คอร์ ซึ่ง Apple อ้างว่าเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 20% ในระหว่างประสิทธิภาพสูงสุด GPU เปิดใช้งาน Ray Tracing ที่เร่งด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งคาดว่าจะเร็วกว่า Ray Tracing ที่ใช้ซอฟต์แวร์บนชิปของปีที่แล้วถึง 4 เท่า โดย Apple ได้เล่นเกมโชว์อย่างเช่น Resident Evil Village และ Assassin's Creed Mirage ที่ทำงานบน iPhone 15 Pros ใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม และสองเกมนี้จะเปิดตัวในปีหน้า
นอกจากนี้ยังมี Neural Engine 16 คอร์ที่ Apple กล่าวว่าเร็วเป็นสองเท่าของชิปโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องในปีที่แล้ว
Apple A17 Pro SoC มี Display Engine พร้อมตัวแปลงสัญญาณ AV1 เฉพาะและตัวแปลงสัญญาณ ProRes ชิปนี้ช่วยให้ iPhone 15 Pro รุ่นใหม่สามารถจับภาพ 4k 60fps ใน ProRes RAW พร้อมทั้งรองรับโปรไฟล์สี ACES ที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมwfh
iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max พร้อมสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์นี้ โดย 15 Pro เปิดราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สำหรับรุ่นพื้นฐาน 128 GB ในขณะที่ 15 Pro Max เริ่มต้นที่ 1,199 ดอลลาร์ สำหรับรุ่นเริ่มต้น 256GB
source: gsmarena