สวัสดีครับชาว Techxcite ทุกคนและวันนี้ก็กลับมาพบกันอีกแล้ว ซึ่งมารอบนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะวันนี้ทางเราได้จับเครื่องเล่นเกมแบบพกพา ROG Asus Ally มาพรีวิวกันเป็นครั้งแรกก่อนเปิดตัว อย่างที่ทราบกันดีตามข่าวลือก่อนหน้านี้อยู่แล้วที่เจ้า Asus Ally น่าจะมาเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ Steam Deck ที่มีขุมพลังที่ดูดีกว่าไม่ว่าจะเป็น โปรเซสเซอร์ Ryzen Z1 Extreme, จอแสดงผล IPS 1080p 120Hz และรันบน Windows 11 อันนี้ว้าวสุด
อุปกรณ์ที่ให้มา
เปิดกล่องมาเราจะเห็นพอร์ตและปุ่มการทำงานเริ่มต้นที่ควรรู้อยู่สองขั้นตอนด้วยกัน คือ 1.พอร์ตชาร์จ 2.ปุ่มเปิดเครื่อง/ปิดเครื่อง(มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้วย) พร้อมภาษามากมายที่แปลมาให้ หลังจากเปิดการแนะนำขึ้นก็จะเจอกันตัวเครื่องเลย ซึ่งสรุปได้ว่าอุปกรณ์ในกล่องที่ให้มาก็จะมี 1.ตัวเครื่อง ROG Asus Ally 2.แท่นวางเครื่อง (แอบอยู่บนฝากล่องนะ) 3.คู่มือ 4.สายชาร์จ
สัมผัสแรกที่เห็น แน่นอนว่าความประทับใจแรกเป็นสิ่งที่สำคัญซึ่ง Asus Ally ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ จะเห็นได้ว่า Asus มีการออกแบบที่ชูความสวยงามเป็นพิเศษแข็งแรง มีความผอมเพรียวบางพร้อมทั้งทันสมัยดึงดูดสายตา ให้ละหนีไม่ได้เลย
ตัวเครื่องมีสีขาวสวยตัดกับปุ่มสีดำ ออกแบบการจับให้สะดวกสบาย มองรวมๆแล้วคุณภาพงานประกอบระดับพรีเมียมเลยแหละ ซึ่งทำให้เห็นว่า ASUS ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์เป็นพิเศษ
ต่อมาเรามาดูเรื่องของพอร์ตที่ให้มากันก่อน มองไปที่ด้านบนจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือรู แจ็คเสียง 3.5 มม ในตำนานซึ่งต้องให้มาเพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเสียงที่มาจากแจ็คเสียงมีความชัดและดีเลย์น้อยกว่าถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม ในช่องต่อไปก็จะเป็นช่องเสียบ MicroSD ซึ่งสามารถเพิ่มความจุได้ จุดนี้ถือว่าดีมากๆ ช่องถัดไปจะเป็น USB Type-C ที่รองรับครอบจักรวาลจะต่อเป็น Adapter เสริมพอร์ตอื่นๆก็ทำได้หรือจะต่อเมาส์และคีย์บอร์ด รวมไปถึงจอเสริมก็ทำได้ ส่วนสุดท้ายจะเป็นช่องที่เอาไว้ต่อการ์ดจอแยกเพิ่มรองรับได้ถึง GeForce RTX 4090 เรียกได้ว่าเพิ่มความแรงดุดันไม่เกรงใจใคร
เสร็จสิ้นจากพอร์ตไปแล้วถัดไปก็จะเป็นในเรื่องของปุ่มต่างๆอันนี้ก็เฟี้ยวตอบโจทย์ไม่น้อยเลย มี Joysticks ทั้งซ้ายและขวาล้อมรอบไปด้วยไฟ rgb สีสันสวยงามเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ปุ่ม A/B/X/Y ก็กดง่ายเด้งสู้มือออกแบบมาเป็นทรงโดมแบน ส่วนปุ่มทิศทางมีความลึกที่รับเข้ากับนิ้วมือ ปุ่มอื่นๆไม่ว่าจะเป็น RB/RT หรือ LT/LB ก็ตอบสนองดีไม่แพ้กัน นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็น 4 ปุ่มฟังก์ชั่น ก็จะประกอบไปด้วย ปุ่ม Armoury Crate ปุ่มเมนู ปุ่ม Command Center และสุดท้ายปุ่ม View button
เกือบลืมบอกมีปุ่มมาโครเสริมมาให้ด้วยนะข้างหลัง 2 ปุ่มเป็นปุ่ม M1/M2
จุดต่อไปที่เราจะสังเกตุเห็นได้เลยคือลำโพงคู่หน้าสองตัวหันเข้าเราโดยตรงเราเวลาเราถือเรื่องและไมโครโฟน 2 ตัวซ้ายขวา ด้านบนก็จะเป็นรูระบายความร้อนที่ออกมา ข้างหลังก็จะมีอีกรูเอาไว้ระบายอากาศเช่นกัน
สเปคเบื้องต้น
- หน้าจอสัมผัส IPS ขนาด 7 นิ้วใน Full HD และ 120 Hz
- โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z1 Extreme 8C/16T กระบวนการผลิตแบบ 4nm
- แรมขนาด 16GB DDR5
- กราฟิก RDNA 3
- ขนาด 280 x 111 x 21.2-32.4 มม.
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11
- ความจุขนาด 512GB SSD
- เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ ปุ่มเปิด/ปิด
- ชาร์จเร็ว 65W
- WiFi 6E (802.11ax) / บลูทูธ v5.2.1
- รองรับ microSD
- รองรับ พอร์ต USB Type-C
ส่วนของจอและการแสดงผล
ตัวจอนั้นมีการเคลือบ Gorilla Glass DXC มาแล้วในเบื้องต้นสังเกตุได้จากแสงที่สะท้อนผ่านตัวจอ ซึ่งทำให้เห็นสีที่ชัดขึ้นเวลาเจอแสงจัดๆ ตัวจอมาพร้อมกับจอแสดงผลความละเอียด Full HD 1080p ขนาด 7 นิ้วอัตราการรีเฟรช 120Hz รองรับ FreeSync ด้วยพร้อมอัตราการตอบสนองอยู่ที่ 7ms สีของจอสวยสดงดงามมากจอก็เป็นรอยนิ้วมือบ้างเวลาจิ้มจอบ่อยๆ แต่เช็ดออกง่ายเช็ดเบาๆก็ออกแล้ว
ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่อง
จุดนี้ขอชื่นชมจริงๆว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ในเรื่องของการใส่ใจในการออกแบบเพราะออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์อธิบายง่ายๆเลยทุกจุดที่มือเราสัมผัสกับตัวเครื่องถูกคิดค้นมาแล้วว่าดีทั้งการจับและจุดที่นิ้วเราจะกดปุ่มก็ง่ายเพราะปุ่มอยู่ในต่ำแหน่งที่โอเค และตรงอุ้มมือที่เราสัมผัสโดนตัวเครื่องจะเห็นได้เลยว่ามีกันลื่นด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ออกแบบมามีน้ำหนักเพียง 608 กรัมเท่านั้น !! เบาหวิ้วเลยเวลาถือ เวลาพกพาก็ทำให้ไม่หนักจนเมื่อย เล่นเกมข้ามวันทียังไม่รู้เลยว่าเมื่อย
มาในส่วนของซอฟต์แวร์ภายใน
จากที่เปิดเครื่องมาจะเห็นซอฟต์แวร์ภายในชัดๆเลยคือ Armoury Crate SE ที่จะประกอบไปด้วย Game Library , Command Center และ Customization หน้าที่หลักๆของ Armoury Crate SE คือเป็นเหมือนตัวโปรแกรมเสริมที่เข้ามาเติมเต็มให้ Asus Ally นั้นมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ให้เราเข้าถึงความเป็นเครื่องเล่นเกมพกพา ตัว Game Library จะทำหน้าที่เป็นเหมือนจอเมนูให้เราได้เลือกเกมที่เราโหลดมาเล่น ให้สามารถเข้าเกมได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเข้าไปโหลดเกมเสริมจากผู้ให้บริการจะใน Platform อื่นๆเพิ่มก็ได้
ส่วนเจ้าตัว Command Center ตัวนี้แอบสำคัญมาก ใช้บ่อยเลยทีเดียวเพราะจะลดแสงลดเสียงในส่วนนี้เลยก็ได้หรือจะปรับโหมดต่างๆเวลาเล่นเกมก็ทำได้เช่นกัน จะเรียกคีย์บอร์ด , ปรับ FPS , กลับไปหน้า desktop , ปรับความละเอียดการแสดงผล เอาง่ายๆถ้าเท่านี้ไม่จุใจก็ไปตั้งเพิ่มได้ใน Customization เช่นกัน สำหรับROG Ally มีโหมดประสิทธิภาพ 4 โหมดด้วยกันคือ Silent 10W, Performance 15W, Turbo 25W และ Turbo+30W ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะชาร์จไว้เท่านั้น
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
จากการทดสอบเล่นเกมในโหมด 15 วัตต์ Performance จบได้ที่เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ถ้าเทียบดูแล้วก็เหมาะสมแล้ว ส่วนในโหมด Turbo ได้อยู่เกือบๆ 2 ชั่วโมงเพราะเกมแอบจัดหนักจัดเต็มเลยปรับ FHD ด้วย แต่ถ้าใครจะใช้งานทั่วไปเปิดโหมด 9 วัตต์ก็พอ ดูหนัง ฟังเพลงได้ยาวๆ 4-5 ชั่วโมงเลยแหละ
ในส่วนของการชาร์จอันนี้รวดเร็วทันใจวัยรุ่น 0-50% ในเวลา 35 นาทีนิดๆ ถ้าให้เต็มก็ 1 ชั่วโมงพอดีถือว่าเป็นการพักเครื่องไปในตัว
ระบบระบายความร้อน
หลายๆคนคงกังวลว่าเอ้าเล่นเกมหนักยาวๆกินแบตขนาดนนี้แล้วเครื่องจะไม่ร้อนหรอ ? นั้นสิมันไม่ร้อนนะ ไม่ร้อนขนาดที่เราต้องปล่อยพักอ่ะ เพราะตัวพัดลมให้มา 2 ตัวเลยซ้ายและขวา เปิดโหมด Turbo ถึงจะได้ยินเสียงพัดลมชัดๆ ซึ่งดูเหมือนตัวเครื่องจะมีระบบระบายความร้อนแบบแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ด้วย ฟิลแบบไม่ว่าจะเอียงเล่นแค่ไหนความร้อนก็ระบายออกตามท่อที่ใส่ไว้ในเครื่องเลย แอบบอกนิดว่าตัวเครื่องมีแผ่นกรองฝุ่นด้วย
ระบบเสียง
นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ประทับใจมาก เพราะเครื่องเล่นเกมเสียงลำโพงต้องดีขนาดนี้เลยหรอ ตัวลำโพงได้มาเป็นลำโพง Smart Amp แบบยิงคู่ด้านหน้าพร้อม Dolby Atmos ยิ่งตรงเข้าหูแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้นแถมมีระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI จากไมค์ทั้งสองตัวเลย
ประสิทธิภาพการเล่นเกม
มาถึงตรงนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า อย่างที่รู้ดีว่าเจ้า Asus Ally ถูกรันขึ้นบน Windows 11 จึงทำให้ดูแปลกหูแปลกตาไปนิด แต่นี้ก็เป็นอีกหนึ่งประโยชน์หลักเลยเพราะ Windows 11 จะทำให้ไม่ว่าเราจะสรรหาเกมแบบไหนมาเล่น เกมเก่าหรือเกมใหม่ ก็จะสามารถเข้ากับตัว Windows ได้อยู่แล้ว ที่เหลือไม่ว่าเราจะโหลดจาก Steam, Xbox Game Pass, Epic Games Store, GOG , Ubisoft Play หรืออื่นๆ ก็รับประกันได้ว่ามีเกมให้เราเล่นบนเครื่องแน่นอน
อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ AMD Z1 Extreme และ RDNA 3 นั้นทำให้ตัวเครื่องไปรันเกมไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ก็ทำได้ดีเลย อย่างที่ได้ลองก็จะเป็นเกม Fall Guys ,Overwatch 2, Tower of Fantasy,Naraka bladepoint,VALORANT,Grand Theft Auto V ผ่านได้ทุกเกม แต่บางเกมต้องไปตั้งค่าปุ่มเสริมเองด้วยเพื่อความสะดวกสบาย
จุดเด่น
- น้ำหนักเบาและการออกแบบเป็นไปตามสรีรศาสตร์
- จอแสดงผล FHD 1080p 120Hz
- ประสิทธิภาพคงที่ในการเล่นเกม
- ลำโพง Smart Amp เสียงชัด
- รันบน Windows 11 รองรับแทบทุกเกม
จุดสังเกต
- ซอฟต์แวร์ที่ยังบัคๆอยู่ในเรื่องของแป้นพิมพ์
- เล่นเกมที่กินสเปค แบตเตอรี่จะหมดค่อนข้างเร็ว
สรุป
Asus ROG Ally เป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาเครื่องแรกจาก Asus ที่ดูทรงพลัง น้ำหนักเบา และออกแบบมาถูกหลักสรีรศาสตร์ พัดลมสองตัวที่ด้านหลังที่ทำให้เครื่องไม่ร้อนอันนี้ดี แถมเสียงลำโพงเร้าใจสุดๆ หากใครเป็นสาวกเกม PC อาจต้องมีเครื่องนี้เก็บไว้เล่นเพราะมันทั้งเบาทั้งแรง มีเก็บไว้เวลาไปไหนข้างนอกได้ใช้แน่นอน
สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้ ในราคา 24,990 บาท
Shopee - https://shope.ee/4fSaovXgw9
LAZADA - https://s.lazada.co.th/s.9hUye?cc