HUAWEI Band 8 มาแล้ว! เปิดตัวออกมาสดๆร้อนๆสำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่รอบนี้มีการปรับปรุงในหลายๆด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำหนักที่เบาขึ้น แถมยังมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมไปถึงคุณสมบัติทางด้านการใช้งานต่างๆที่คนรักสุขภาพต้องชื่นชอบแน่ๆ แถมราคาที่เปิดตัวออกมาก็ถือว่าถูกมากๆเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน แค่ 1,899 บาท แต่พิเศษสุด สำหรับวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ถึง วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ลดราคาเหลือเพียง 1,299 บาท
HUAWEI Band 8 มาแล้ว! เปิดตัวออกมาสดๆร้อนๆสำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่รอบนี้มีการปรับปรุงในหลายๆด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำหนักที่เบาขึ้น แถมยังมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมไปถึงคุณสมบัติทางด้านการใช้งานต่างๆที่คนรักสุขภาพต้องชื่นชอบแน่ๆ แถมราคาที่เปิดตัวออกมาก็ถือว่าถูกมากๆเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน แค่ 1,899 บาท แต่พิเศษสุด สำหรับวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ถึง วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ลดราคาเหลือเพียง 1,299 บาท และแน่นอนว่าของใหม่แบบนี้ก็ต้องมีอะไรที่น่าสนใจมากๆแน่ เดี๋ยวมาไล่เรียงกันเลย
เริ่มจากแกะกล่องกันเลยละกันสำหรับ HUAWEI Band 8 ในกล่องจะมาพร้อมกับตัวเรือน สายชาร์จและคู่มือการใช้งาน สำหรับตัวที่ได้มารีวิวในครั้งนี้เป็นสีชมพู Pink Sakura โดยเครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ Mid-night Black, สีส้ม Vibrant Orange, สีเขียว Emerald Green และสีชมพู Sakura Pink ที่นำมารีวิวนั่นเอง สำหรับสเปคของ HUAWEI Band 8 ก็มีตามนี้เลย
- ขนาดตัวเรือน : 43.45 × 24.54 × 8.99 มม. (ไม่รวมสายนาฬิกา)
- น้ำหนัก : 14 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา)
- วัสดุตัวเรือน : พอลิเมอร์ที่ทนทาน Durable polymer materials
- หน้าจอ : ขนาด 1.47 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 194 x 368 พิกเซล (282 ppi) รองรับระบบสัมผัส
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออพติคอล และเซ็นเซอร์ 6 แกน (6-axis inertial sensors) วัดค่าได้ทั้งความเร่ง, ไจโรสโคป, และเข็มทิศ
- ระดับการกันน้ำ : 5ATM
- การเชื่อมต่อ : 2.4 GHz, Bluetooth 5.0 และ BLE
- แบตเตอรี่ 180mAh รองรับการใช้งานสูงสุด 14 วัน
- มีปุ่มที่ตัวเครื่องควบคุมการทำงาน
- ระบบชาร์จผ่านขั้วสัมผัสแม่เหล็ก
- ระบบปฏิบัติการที่รองรับ : EMUI 5.0 ขึ้นไป, Android 6.0 หรือใหม่กว่า, iOS 9.0 ขึ้นไป
สำหรับการใช้งานครั้งแรกของ HUAWEI Band 8 ก็ไม่ยาก แค่เปิดเครื่องด้วยปุ่มด้านข้างตัวเครื่องก็สามารถทำงานได้แล้ว เมื่อสวมใส่ข้อมือ ระบบเซ็นเซอร์ก็จะทำงานวัดค่าต่างๆโดยอัตโนมัติ ซึ่งดีไซน์ของ HUAWEI Band 8 ก็ดูเรียบๆ มินิมอลแต่โดดเด่นด้วยหน้าจอชนิด AMOLED ซึ่งให้สีสันที่สวยงามนั่นเอง จุดเด่นหลักๆเลยของ HUAWEI Band 8 ที่ต้องพูดถึงก็คือเรื่องของความเบานั่นเอง ใส่เข้ากับข้อมือแล้วไม่รู้สึกหนักข้อเหมือนพวก Smart Watch ในขณะที่รูปแบบหน้าจอก็สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ
ด้านหลังของตัวเรือนจะมีเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ รวมถึงมีพอร์ตแม่เหล็กเอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่นั่นเอง สำหรับเซ็นเซอร์การวัดค่าต่างๆที่พูดถึงไปนั้น มีทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) รวมถึงยังสามารถติดตามสุขภาพการนอนได้ด้วย ซึ่งใครที่มองหาอุปกรณ์เพื่อช่วยในการติดตามผลต่างๆในการดูแลสุขภาพ HUAWEI Band 8 ก็น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเลือกโหมดสำหรับการออกกำลังกายได้มากถึง 100 โหมดด้วยกัน อย่างเช่น การวิ่งหรือการเดิน ซึ่งแยกยิบย่อยเป็นวิ่งหรือเดินนอกอาคารหรือในอาคาร
การใช้งานโดยทั่วไปทำได้ง่ายและสะดวก เมื่อต้องการเข้าถึงเมนูการใช้งาน ก็ใช้ปุ่มด้านข้างของตัวเรือนเพื่อเลือกระบบการทำงาน โดยอาศัยการสัมผัสหน้าจอร่วมด้วย และที่น่าสนใจก็คือตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถกันน้ำได้ในระดับ 5ATM ซึ่งก็หมายความว่าสามารถที่จะใส่เพื่อว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมที่จะต้องเจอกับความชื้นหรือโดนเหงื่อได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวเครื่องจะได้รับความเสียหาย
ส่วนตัวสายที่ให้มานั้นเป็นยางซิลิโคน ใส่เข้ากับข้อมือได้กระชับ สบาย ไม่ระคายเคืองผิว และแน่นอนว่าใส่โดนน้ำ โดนเหงื่อได้ ซึ่งสายประเภทนี้ข้อดีก็คือแห้งเร็วและทำความสะอาดได้ง่ายนั่นเอง
สำหรับฟีเจอร์การทำงานหลักๆเลยของ HUAWEI Band 8 ตัวนี้ ก็จะเน้นไปในด้านของการติดตามค่าต่างๆที่เกี่ยวกับกับสุขภาพนั่นเอง โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างเช่น มีโหมดออกกำลังกายแบบมืออาชีพ ซึ่งทำงานด้วยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ สามารถติดตามระยะการวิ่งพร้อมวัดค่า RAI (Running Ability Index) และค่า VO2Max ได้ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า TruSport ที่ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพในด้านการวิ่งของผู้สวมใส่ และให้คำแนะนำโดยอ้างอิงจากข้อมูล เสมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว
นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน HUAWEI Band 8 เพื่อติดตามสุขภาพและประสิทธิภาพการนอนได้ด้วย ซึ่งเรียกฟีเจอร์นี้ว่า HUAWEI TruSleep 3.0 โดยจะมีการประเมินคะแนนให้ ว่าเรานอนหลับพักผอ่นได้ดีแค่ไหน เพราะตัว HUAWEI Band 8 จะทำการวัดค่าเมื่อเราใส่นอนว่าหลับลึก หลับตื้น หรือมีการตื่นระหว่างนอนหรือไม่ รวมถึงยังสามารถวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ซึ่งจะคอยวัดค่า SpO2 ของผู้สวมใส่อัตโนมัติ และแจ้งให้ทราบทันทีเมื่อค่า SpO2 ลดต่ำลงผิดปกติ และฟีเจอร์เด่นอย่าง HUAWEI TruRelax ที่ตรวจจับความเครียดให้เราได้ด้วย เรียกได้ว่าครบครันเลยทีเดียวสำหรับผู้รักสุขภาพที่ต้องการสายรัดข้อมืออัจฉริยะสักตัวไว้ใช้งาน
ส่วนฟีเจอร์พื้นฐานต่างๆก็มีมาให้อยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของนาฬิกา การตั้งปลุก หรือเอาไว้ใช้สำหรับการตั้งค่าแจ้งเตือนต่างๆรวมไปถึงควบคุมการเล่นเพลงก็ทำได้ผ่านการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนของเราเองด้วยแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า HUAWEI Health ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้จะสามารถตั้งค่าต่างๆ รวมถึงสามารถแจ้งค่าต่างๆได้ละเอียดมากขึ้นด้วย ใครที่เป็นเจ้าของ HUAWEI Band 8 อย่าลืมดาวน์โหลดมาใช้งานด้วยล่ะ
และสุดท้ายที่ต้องพูดถึงก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ จุดนี้เป็นจุดเด่นของ HUAWEI Band 8 เพราะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วันเลยทีเดียวต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง ไม่ต้องมาชาร์จบ่อยๆ หรือจะใส่ไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างจังหวัดก็ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็ว และยังรองรับการชาร์จไว เมื่อชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้ถึง 2 วัน และสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 45 นาทีเท่านั้น
สรุปHUAWEI Band 8 ตัวนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะทั้งฟีเจอร์การใช้งานและคุณสมบัติที่ให้มานั้นใกล้เคียงกับ Smart Watch เลยทีเดียว เอาเป็นว่าเท่าที่ลองใช้งานมา บอกเลยว่าดีมากๆ จะใส่แทนนาฬิกาทั่วไปก็ดูสวย หรือจะเน้นเพื่อใช้สำหรับการออกกำลังกายก็เหมาะมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องคุณสมับติกันน้ำ ใส่สบาย และแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ยาวนาน ใครที่สนใจสามารถกดสั่งซื้ออนไลน์ได้เลยทั้ง LAZADA และ Shopee