Xiaomi เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์เรือธงล่าสุด Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ที่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ตัวแรงรุ่นล่าสุด และดีที่สุดของ Qualcomm ณ ปัจจุบัน ซึ่งผลิตตามกระบวนการผลิต 4 นาโนเมตรของ TSMC ที่สำคัญกว่านั้น อุปกรณ์ทั้งสองมีการอัปเกรดอย่างมากในด้านกล้องถ่ายภาพ และดีไซน์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นการเปิดตัวในจีนครับ ส่วนในตลาดโลกน่าจะรออีกไม่นาน
Xiaomi 13 Pro
ไปดูในส่วนของรุ่นท็อปในซีรีย์ตอนนี้กันครับ Xiaomi 13 Pro ยังคงใช้จอแสดงผลสเปคคล้าย Xiaomi 12 Pro คือมีหน้าจอ LTPO ขนาด 6.73 นิ้ว อัตราการรีเฟรช Adaptive 120Hz ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล, รองรับ HDR10+, Dolby Vision, HLG และการลดแสง DC 1920Hz และจอแสดงผลยังมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบ ที่ช่วยให้ปรับอุณหภูมิสีได้ตามสภาพแวดล้อมอีกด้วยครับ
การอัปเกรดเพียงอย่างเดียวของรุ่นนี้ คือ ความสว่างสูงสุดครับ โดยจอแสดงผลสามารถส่องสว่างพื้นที่พื้นผิวทั้งหมดได้ที่ 1,200 nits ในขณะที่การเพิ่มความสว่างสูงสุดระหว่างการเล่นวิดีโอ HDR สามารถสูงถึง 1,900 nits เลยทีเดียว
และอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ชิปเซ็ตจะใช้เป็น Snapdragon 8 Gen 2 จับคู่กับหน่วยความจำ RAM LPDDR5X และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 เจเนอเรชันใหม่อีกด้วย
ด้านการถ่ายภาพ Xiaomi 13 Pro มาพร้อมกล้อง 50MP สามตัวอีกครั้งที่ด้านหลัง แต่มีการอัปเกรดที่ยอดเยี่ยมด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้วที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน โดยยกเซ็นเซอร์ 1.6µm จาก Xiaomi 12S Ultra จับคู่กับเลนส์แบรนด์ Leica พร้อมรูรับแสง f/1.9 และรองรับ Hyper OIS
ในขณะที่กล้องเทเลโฟโต้ยังได้รับการอัพเกรด มีเซ็นเซอร์ 50MP รองรับการซูม 3x และใช้เลนส์ Leica Floating Lens element รูรับแสง f/2.0 ที่แคบกว่าเดิมเล็กน้อย และที่น่าสนใจคือมีระยะโฟกัสใกล้เพียง 10 ซม. เท่านั้น
ส่วนเลนส์อัลตราไวด์ยังไม่ได้รับเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่าไหร่ครับ โดยใช้เป็นกล้อง 50MP, f/2.2, ระยะเลนส์ 14 มม. พร้อมการรองรับมาโคร ซึ่งหมายความว่าจะมาพร้อม AF ด้วยครับ
แบตเตอรี่มีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4,820 mAh และจับคู่กับชิป Surge G1 ของ Xiaomi ทำให้สามารถชาร์จแบบมีสายได้อย่างปลอดภัยที่ 120W และการชาร์จแบบไร้สายที่ 50W นอกจากนี้ยังมีการชาร์จแบบไร้สายย้อนกลับ 10W ตามปกติ
คุณสมบัติอื่น ๆ ได้แก่ ลำโพงสเตอริโอที่ปรับแต่ง Dolby Atmos พร้อมคุณสมบัติติดตามศีรษะใหม่ของ Dolby, IR blaster และแน่นอนสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
Xiaomi 13 Pro มี 4 สีให้เลือกครับ โดยแบ่งออกเป็นฝาหลังเซรามิกสีขาว, ดำ, และเขียว ส่วนอีกสีเป็นสีฟ้าอ่อน ซึ่งใช้วัสดุเป็นหนังครับ
Xiaomi 13
Xiaomi 13 มีการปรับขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยมีขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล, อัตราการรีเฟรช 120Hz, Dolby Vision, HDR10+ และรองรับ HLG รวมถึงมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีโดยรอบเหมือนรุ่นโปร และยังเป็นจอ OLED ที่สเปคความสว่างตรงกับความสว่างสูงสุดของ 13 Pro คือ 1,200 และ 1,900 nits ตามลำดับด้วยครับ
กล้องหลังของรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Leica เช่นกันครับ โดยกล้องหลักมีความละเอียด 50MP, f/1.8, 23มม. , 1/1.56", 1.0µm และรองรับ Hyper OIS ในขณะที่กล้องเทเลโฟโต้ มีความละเอียด 10MP รองรับ OIS รูรับแสง f/2.0 และรองรับการซูมแบบเนทีฟ 3 เท่า และกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 แต่ไม่รองรับโฟกัสอัตโนมัติ
ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 67W, ชาร์จไร้สาย 50W และการชาร์จไร้สายย้อนกลับ 10W
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจของ Xiaomi 13 คือมาพร้อมลำโพงสเตอริโอ Dolby Atmos พร้อม Dolby Head Tracking, IR blaster และกันน้ำกันฝุ่น IP68
ด้านงานประกอบ Xiaomi 13 ต่างจากรุ่น Pro ตรงที่ใช้ฝาหลังแบบกระจกมาตรฐาน โดยนอกจากสีชุดเดียวกับรุ่นโปรคือ สีดำ สีเขียวอ่อน สีฟ้าอ่อน (หนัง) สีเทา และสีขาว ยังเพิ่มสีที่ฉูดฉาดเพิ่มเติม คือ แดง, เหลือง, เขียวและน้ำเงินตามภาพอีกด้วยครับ
Xiaomi 13 Series ทั้งสองรุ่นเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในประเทศจีนครับ และจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 14 ธันวาคม โดย Xiaomi 13 รุ่นมาตราฐาน 8/128GB ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,999 หยวนจีน (ประมาณ 20,000 บาท)
ในขณะที่ Xiaomi 13 Pro รุ่น 8/128GB ราคาเริ่มต้นที่ 4,999 หยวน (ประมาณ 25000 บาท)
และไปสำรวจราคา Xiaomi 12 Series รุ่นก่อนหน้ากันครับ อย่าง Xiaomi 12 รุ่นพื้นฐาน ตอนนี้ปรับลงจาก 28990 >> 19280 สามารถแวะไปชมรายละเอียดและราคาล่าสุดที่นี่เลยครับ
source: gsmarena