Sony A7R V เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับกล้อง Full Frame Mirrorless คุณภาพสูงจากทาง Sony กับราคาเปิดตัวที่ 159,990 บาท โดยกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นกล้องระดับเรือธงที่เน้นเรื่องของขนาดไฟล์ เพราะให้ภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ปรับปรุงเข้ามาอีกมากมาย และ TechXcite เองก็ได้มีโอกาสไปลองสัมผัส จับเล่นๆในงานแถลงข่าวเปิดตัว เลยขอนำเอา Sony A7R V ตัวนี้มาพรีวิวสั้นๆก่อนถึงสัมผัสแรกที่ได้ลองจับ พร้อมกับเหตุผล 8 ข้อที่บอกได้เลยว่าของมันต้องมี

1. จอบิดพับได้ที่ออกแบบมาใหม่

นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ Sony A7R V น่าใช้อย่างยิ่ง เพราะการออกแบบจอบิดพับที่เป็นรูปแบบ 4 แกนนี้ทำให้การใช้งานคล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะกับการที่ต้องต่อสายต่างๆด้านข้างตัวกล้องแล้วไม่ติดกับสายพ่วง แถมยังให้มุมมองที่หลากหลายทั้งมุมก้ม มุมเงย หรือจะบิดพับเป็นกล้อง Selfie ก็ได้ ถ่ายแนวตั้งก็สะดวก ตรงจุดนี้ทาง Sony ได้นำเอาข้อคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงไปปรับแก้ไขออกมาจนเป็นหน้าจอบิดพับแบบนี้ในกล้อง Sony A7R V

2. การใส่เทคโนโลยี AI Recognition มาในตัวกล้อง

ตรงนี้ถือเป็นจุดสำคัญและเป็นหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้กล้อง Sony A7R V กลายเป็นกล้องที่ "ฉลาด" มากขึ้น จากเดิมที่กล้องรุ่นก่อนสามารถตรวจจับวัตถุเพื่อโฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำ ไล่มาตั้งแต่การโฟกัสดวงตามนุษย์ สัตว์ไปจนถึงการโฟกัสดวงตาของนกได้ และล่าสุดพัฒนาไปจนถึงสามารถโฟกัสที่แมลงได้แล้ว โดย Sony A7R V ได้นำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ ดังนั้นกล้องจะเรียนรู้ได้ว่า ลักษณะไหนเป็นรูปร่างคน ใบหน้า หรือดวงตา จึงสามารถโฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำ แม้จะใส่หมวกกันน็อค หรือหันหน้าข้างมากๆจนเห็นดวงตาเพียงนิดเดียว หรือจะให้ถ่ายภาพเมื่อเห็นรอยยิ้มก็ยังได้ รวมไปถึงการโฟกัสยานยนต์และอากาศยานต่างๆได้อีกด้วย เรียกได้ว่าผู้ใช้งานสามารถใช้งานถ่ายภาพได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

3. ระบบกันสั่นพัฒนาขึ้นเป็น 8 สตอป

กล้อง Sony A7R V พัฒนาระบบกันสั่นให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถช่วยลดการสั่นไหวได้สูงสุดถึง 8 สตอปด้วยกัน นั่นทำให้กรใช้งานที่ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสามารถทำงานได้ดีขึ้นแม้อยู่ในสถานกาณ์ที่ต้องถือกล้องด้วยมือโดยไม่มีขาตั้งกล้อง แถมด้วยการที่ตัวเซ็นเซอร์สามารถขยับได้ในลักษณะ 5 แกน ก็เลยมีฟีเจอร์ Pixel Shift Multi Shooting มาให้ใช้งานด้วย โดยสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดถึง 240.8 ล้านพิกเซล และยังมีฟีเจอร์ Focus Stacking ที่สามารถช่วยปรับโฟกัสในจุดต่างๆเพื่อนำมารวมกันให้ได้ภาพที่คมชัดทั้งภาพ

4. มีไฟล์ RAW ให้ใช้หลากหลาย

และนี่คือสิ่งที่ชาว Sony เรียกร้อง เพราะกล้อง Sony A7R V ได้นำมาใส่ให้แล้วกับรูปแบบไฟล์ RAW ที่สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยการมี Medium และ Small Raw มาให้ใช้งาน คือบางงานไม่จำเป็นต้องใช้ไฟล์ RAW 61 ล้านพิกเซล ก็ปรับเป็น 26 หรือ 15 ล้านพิกเซลได้ อันนี้คือเหตุผลที่บอกเลยว่าของมันต้องมี

5. การปรับปุ่มต่างๆให้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

ใน Sony A7R V มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของปุ่ทแปละแป้นหมุนต่างๆให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เช่นการปรับเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพนิ่งเป็นวีดีโอหรือเป็น Slow Motion ทำได้สะดวกรวดเร็วกว่าเดิมด้วยก้านโยกที่อยู่บริเวณแป้นหมุนเลือกโหมดถ่ายภาพ โดยนำเอาการจัดวางตำแหน่งที่คล้ายกับ Sony A7S III มาใช้ ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวีดีโอมากยิ่งขึ้น

6. อัพเกรดพอร์ตเชื่อมต่อ

Sony A7R V มีพอร์ตเชื่อมต่อให้ใช้งานครบครันอยู่แล้ว แต่รุ่นใหม่นี้ได้ใส่พอร์ต HDMI Full Size มาให้ด้วย ไม่ต้องไปหาหัวแปลงอีกต่อไป และมีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 (10Gbps) ซึ่งช่วยให้สามารถโอนถ่ายไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว

7. ถ่ายวีดีโอความละเอียด 8K 25/24p

กล้อง Sony A7R V รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 8K โดยมีอัตราเฟรมเรท 25/24p โดยจะครอป 1.24x ให้ไฟล์ 10bit XAVC HS ทำให้กล้องรุ่นนี้มีความเอนกประสงค์เป็นกล้องแบบไฮบริดที่นำไปใช้งานได้หลากหลายนั่นเอง

8. รองรับการใช้งานกับการ์ดสองแบบ

มีการอัพเกรดในกล้อง Sony A7R V ตัวนี้ให้รองรับการใช้งานกับการ์ดสองชนิดคือ SD Card และ CF Express Type A ได้ โดยมีช่องใส่การ์ดแบบ Dual Slot คือสองช่อง สามารถเลือกใส่การ์ดชนิดใดก็ได้ ใครมี CF Express Type A อยู่จะใส่ช่องใดช่องหนึ่ง ส่วนไปถ่ายงานให้ลูกค้าแล้วในส่วนของตัวลูกค้ามีการ์ด SD ก็เอามาใส่อีกช่อง หรือจะใส่แบบเดียวกันสองช่องเลยก็ได้ ทำงานได้หมด ความเร็วเท่ากันไม่มีแยกช่องให้ปวดหัวอีกต่อไป

สรุป

พรีวิว Sony A7R V มาให้ดูสั้นๆกันก่อนประมาณนี้ หวังว่าคงช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นสำหรับใครที่เล็งๆว่าจะเป็นเจ้าของ Sony A7R V ดีไหม ในส่วนของตัวกล้องเองก็ต้องบอกว่ามีการปรับปรุงสมรรถนะให้ดีขึ้น แม้จะใช้เซ็นเซอร์รุ่นเดิมจากตัวก่อนจาก Sony A7R IV แต่มีการใส่ชิพประมวลผลแบบ Dual Bionz XR ที่ช่วยทำงานได้เร็วขึ้น และยังมีการนำเอาจุดเด่นบางอย่างจากรุ่นอื่นๆมาใส่ เช่น มีการใส่วิวไฟน์เดอร์อิเล็คทรอนิกส์ความละเอียด 9.44 ล้านจุดจาก Sony A1 มาใช้ เป็นต้น 

ส่วนกลุ่มผู้ที่น่าจะซื้อ Sony A7R V มาใช้งาน ก็เน้นไปในกลุ่มนักถ่ายภาพมืออาชีพที่ต้องการไฟล์ขนาดใหญ่ คุณภาพสูง ช่างภาพสายวิวทิวทัศน์ โฆษณา หรือแม้แต่นักถ่ายภาพทั่วไปที่ต้องการกล้องที่ตอบโจทย์เรื่องไฟล์ภาพที่ดี การใช้งานที่หลากหลาย หรือใครมีอุปกรณ์เสริมของ Sony อยู่แล้วก็เอามาใช้งานได้เลยทั้งแบตเตอรี่หรือกริปที่ใช้รุ่นเดียวกับรุ่นก่อน หรือพวกไมโครโฟน แฟลชก็ใช้งานได้ไม่ต้องเปลี่ยนส่วนเหตุผลที่ควรซื้อ Sony A7R V มาใช้งานก็ตามที่บอกนั่นแหละ :)

ภาพตัวอย่างจากกล้อง Sony A7R V