ชื่อของสมาร์ทโฟนอย่าง ASUS ROG Phone นั้นได้รับการยอมรับในความเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนมานาน และตอนนี้ก็มาถึงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ASUS ROG Phone 6 Series ที่เปิดตัวออกมาสองรุ่นได้แก่ ASUS ROG Phone 6 Pro และ ASUS ROG Phone 6 โดยทาง TechXcite ได้มีโอกาสรีวิวรุ่นรองอย่าง ASUS ROG Phone 6 เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าสมาร์ทโฟนตัวนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ก่อนจะรีวิว ขอนำเสนอก่อนนิดนึงว่า ASUS ROG Phone 6 Pro และ ASUS ROG Phone 6 นั้น มีความแตกต่างอยู่นิดหน่อยแค่เรื่องของดีไซน์ และหน่วยความจำของตัวเครื่อง นอกนั้นแล้วสเปคต่างๆจะเหมือนกันหมด และสำหรับ ASUS ROG Phone 6 เองนั้น มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 Octa-core CPUs, x 3.0 Hz with 5G 4nm ซึ่งถือเป็นชิปเซ็ตระดับเรือธง และใน ASUS ROG Phone 6 เองก็สามารถโอเวอร์คล็อกเพิ่มความเร็วในการประมวลประมวลผลจาก 3.0 GHz เป็น 3.2 GHZ เมื่อเปิดใช้งาน X Mode+ เรียกได้ว่าใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกมแล้วต้องถูกใจแน่ๆ
มาดูในส่วนของตัวเครื่องกันก่อนเลย ภายในกล่องของ ASUS ROG Phone 6 นั้นประกอบไปด้วยตัวเครื่อง เคส สายและอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมไปถึงคู่มือและใบรับประกัน เรียกได้ว่าให้มาครบๆไม่ต้องหาซื้อเคสหรืออแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟเพิ่ม
ดีไซน์ตัวเครื่องของ ASUS ROG Phone 6 นั้นต้องบอกเลยว่าสวยมากๆ เห็นดีไซน์ที่ฝาหลังแล้วต้องบอกเลยว่ามีความเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดๆ เพราะมีไฟ RGB, EVOLVED ที่สามารถแสดงสีสันได้มากถึง 16.77 ล้านสี นอกจากนี้ยังมีไฟ RGB, EVOLVED ที่ปรับเปลี่ยนสีได้และสามารถแสดงผลสีสันได้มากถึง 16.77 ล้านสี ส่วนที่ตัวฝาหลังก็ไม่ธรรมดาเพราะมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่มีชื่อว่า GameCool 6 โดยวางตำแหน่งให้ CPU อยู่ตรงกลางพร้อมแบตเตอรี่ที่แยกออกเป็นสองส่วนทำให้การกระจายความร้อนมายัง Vapor Chamber เพื่อส่งต่อความร้อนออกไปยังแผ่นแกรไฟต์ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีขึ้น
ส่วนตัวเคสที่ให้มานั้นเมื่อใส่แล้วสามารถมองเห็นไฟด้านหลังได้เหมือนเดิม และตัวเคสเองก็ออกแบบมาได้อย่าสวยงามเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
สำหรับสีของตัวเครื่องที่ได้มารีวิวเป็นสีดำ Phantom Black ซึ่งตัวที่วางจำหน่ายจะมีอีกหนึ่งสีคือสีขาว Storm White ซึ่งเป็นรุ่นที่มีจำหน่ายเฉพาะ 12GB/256GB เท่านั้น ส่วนตัวสีดำที่นำมารีวิวนี้ มีให้เลือกทั้ง 12GB/256GB และ 16GB/512GB
ตรงบริเวณไฟด้านหลังสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย ให้อารมณ์เหมือนคีย์บอร์ดหรือเมาส์สำหรับเล่นเกมที่มีไฟ RGB เปลี่ยนสีได้ อันนี้เอาใจไปเต็มๆ เพราะเวลายกถือเล่นเกมแล้วดูโดดเด่นสุดๆ
ตรงบริเวณกล้องของ ASUS ROG Phone 6 นั้น มีการวางตำแหน่งโมดูลกล้องไว้เป็นแนวเรียงด้วยกันสามตัวพร้อมไฟแฟลช แม้ว่าเรื่องกล้องเองจะไม่ได้เป็นจุดเด่นมากนักแต่ก็ใส่มาให้เต็มพิกัดไม่แพ้ใคร สำหรับเรื่องกล้อง ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ IMX766 ของ Sony ที่ให้ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นถึง 40% และปรับปรุงเรื่องอัลกอริธึมเพื่อทำให้ HDR เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ส่วนกล้อง Ultra-Wide มีความละเอียด 13 ล้านพิกเชล และกล้อง Macro ความละเอียดขนาด 5 ล้านพิกเชล สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K 24fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ตัวกล้องเองมีโหมดการถ่ายภาพมาให้ครบครันทั้งโหมดการถ่ายภาพมาโคร การถ่ายภาพกลางคืนหรือโหมด Manual สำหรับผู้ที่ต้องการปรับตั้งค่าเอง
ส่วนการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอก็มีมาให้ และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การปรับผิวและปรับแต่งรูปหน้า ซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับสมาร์ทโฟนไปแล้วก็มีมาให้แน่ๆ
มาดูตรงด้านข้างของตัวเครื่องกันบ้าง ทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมรูไมโครโฟนอยู่ใกล้ๆ และที่ไม่เหมือนใครเลยสำหรับ ASUS ROG Phone 6 นั่นคือ บริเวณริมขอบตัวเครื่องด้านบนและด้านท้ายเครื่องจะเป็นตำแหน่งของ AirTrigger หรือปุ่มสัมผัสเทคโนโลยีอัลตร้าโซนิค ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์เด่นที่ช่วยให้การเล่นเกมทำได้ดีขึ้น สามารถตั้งค่าได้ทั้งหมด 9 รูปแบบตามความถนัดเพื่อการควบคุมเกม
และนอกเหนือจากฟีเจอร์ AirTrigger ที่ช่วยในการควบคุมระบบการเล่นเกมแล้ว ยังมีระบบการควบคุมอีกแบบที่เรียกว่า Motion Control ด้วย ซึ่งถ้านึกภาพไม่ออก ก็ลองจินตนาการตอนที่เราเล่นเกมแล้วอินกับเกม พยายามโยกตัว โยกเครื่องหลบกระสุนหรือเร่งความเร็วอะไรประมาณนั้น โดยระบบนี้ออกแบบมาให้สามารถใช้การเคลื่อนที่ของตัวเครื่องเพื่อควบคุมการเล่นเกมได้ถึง 10 แบบ
ตรงบริเวณด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C ที่วางตำแหน่งเยื้องออกมาทางด้านซ้าย เพื่อหลบตำแหน่งการจับถือเครื่องในแนวนอนหากต้องการดูหนังหรือเล่นเกม โดยไม่ติดอุ้งมือเหมือนกับการวางตำแหน่งพอร์ตไว้ตรงกลางเมื่อเสียบสายชาร์จ และยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ใช้งานด้วย เนื่องจากเหล่าเกมเมอร์หลายๆคนนิยมใช้หูฟังสำหรับเล่นเกมซึ่งมักจะมีสายที่มาพร้อมแจ็คหูฟัง 3.5 มม.นั้นเอง จุดนี้เอง ASUS ROG Phone 6 ก็ไม่ได้ตัดทิ้งออกไปเหมือสมาร์ทโฟนหลายๆรุ่น
และทางด้านซ้ายของตัวเครื่องก็มีช่องใส่ซิมการ์ดสองช่อง ซึ่งรองรับเครือข่ายระบบ 5G ทั้งสองช่องเลย รวมถึงยังมีการเพิ่มพอร์ต USB-C มาให้อีกพอร์ต สำหรับการเสียบสายชาร์จ ทำให้การจับถือเครื่องทำได้สะดวกถ้าต้องถือเครื่องแนวนอนสำหรับการเล่นเกม นอกจากนี้ยังออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่าง AeroActive Cooler 6 ที่เป็นชุดพัดลมระบายความร้อนด้วย
ในส่วนของขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.78 นิ้ว มีความละเอียด 2448 x 1080 พิกเซล โดดเด่นด้วยอัตรา Refresh Rate หน้าจอ 165 Hz ตอบสนองต่อการสัมผัสความเร็วสูง Touch Sampling 720 Hz, touch latency 23 ms ซึ่งทำให้หน้าจอของ ASUS ROG Phone 6 เป็นหน้าจอที่เหมาะกับการเล่นเกมมากๆ เพราะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และแสดงผลได้อย่างลื่นไหล ชนิดของหน้าจอเป็น AMOLED ผลิตโดย Samsung ให้สีสันที่สดใส สวยงาน และคมชัด
บริเวณใต้หน้าจอมีระบบสแกนลายนิ้วมือ พร้อมกันนี้สามารถแสดงสีสันได้ถูกต้องตามมาตรฐาน Delta-E < 1 มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี Always-on HDR และมีเทคโนโลยี Eye Care Display ลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาในการใช้งานต่อเนื่อง ครอบทับหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass ที่ทนทานและแข็งแกร่ง
ตัวเครื่องมามีการวางตำแหน่งลำโพงแบบสมมาตรไว้ที่ด้านริมตัวเครื่องทั้งด้านบนและท้ายเครื่อง โดยเป็นลำโพงคู่ที่ใช้แม่เหล็ก 5ตัวต่อข้าง อีกทั้งได้รับการปรับปรุงและปรับจูนด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac Virtuo เพื่อให้ได้เสียงที่สมจริง แถมด้วยเทคโนโลยี AptX Lossless ของ Snapdragon Sound ช่วยในเรื่องการประมวลผลเสียง ทำให้ได้รายละเอียดเสียงเสมือนไฟล์ต้นฉบับ
ASUS ROG Phone 6 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh โดยแยกตัวแบตเตอรี่ออกเป็นสองก้อนวางแยกตำแหน่งไว้ซ้ายและขวาของตัวเครื่องเมื่อถือเครื่องในแนวนอน เพื่อช่วยในเรื่องของการระบายความร้อน ซึ่งความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะแล้ว ระบบการชาร์จยังเร็วอีกด้วย เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จไว (ROG Hyper Charge) 65 วัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-60% ใน 19 นาที และเต็ม 100% ใน 42 นาที
ในส่วนของระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Android 12 มีระบบที่ช่วยในการเล่นเกมอย่าง Game Genie ซึ่งก็คือเมนูที่เป็นคีย์ลัดของเครื่องที่ใช้ในการเข้าถึงการทำงานของเครื่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าต่างๆเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ อย่างเช่น การบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ รวมถึงสายเรียกเข้าขณะเล่นเกมด้วย เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าในการแข่งขันเกม หากมีอะไรมาขัดจังหวะขณะเล่นเกมอาจทำให้แพ้ได้ง่ายๆเลย นอกจากนี้ยังไว้ดูข้อมูลตัวเครื่องได้ เช่น สถานะของแบตเตอรี่ , การทำงานของ CPU และ GPU , เฟรมเรทของเกมที่กำลังเล่นอยู่ รวมไปถึงอุณหภูมิของตัวเครื่อง
สำหรับสายเกมเมอร์ที่จริงกับการเล่นเกมแล้ว ASUS ROG Phone 6 นับว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะออกแบบเน้นตั้งแต่เรื่องหน้าจอ ระบบเสียง การสัมผัส ไปจนถึงระบบระบายความร้อน และมีหลายๆฟีเจอร์ที่ใส่มาให้เพื่อตอบสนองต่อการเล่นเกมแบบจริงจัง ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องดีไซน์ซึ่งคำนึงถึงการจับถือตัวเครื่องด้วย
เดี๋ยวมาดูการทดสอบด้วย Antutu Benchmark กันบ้าง ผลที่ได้ออกมาคือคะแนนทะลุหลักล้านไปเรียบร้อยแล้ว สมกับที่เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ตตัวแรงรุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังสามารถระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย เพราะจากการทดลองใช้งานจริงต้องยอมรับว่าตัวเครื่องมีอาการร้อนไม่มากนักแม้จะเล่นเกมหนักๆติดต่อกันเป็นเวลานาน
ทาง ASUS เอง ยังระบุด้วยว่า ASUS ROG Phone 6 สามารถทำคะแนนในการทดสอบ Antutu benchmark ประจำเดือน ก.ค. 2565 ได้เป็นอันดับหนึ่ง ครองสถิติความแรงของตัวเครื่องสำหรับเกมมิ่งสมาร์ทโฟน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าแรงจริง ลื่นไหลจริง
มาดูคะแนนทดสอบที่ได้จาก Geekbench กันบ้าง คะแนนที่ได้ก็ออกมาสูงเหลือเกิน ประสิทธิภาพทั้งในส่วนของ Single-Core และ Multi-Core ถือได้ว่าสูงระดับต้นๆของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับ ASUS ROG Phone 6 ก็คือมีแอพพลิเคชั่น Armoury Crate ที่ติดตั้งมาให้เลย โดยแอพพลิเคชั่นนี้สามารถที่จะปรับแต่งการทำงานของตัวเครื่องได้หลายอย่าง เช่น การปรับโหมดให้เครื่องรีดประสิทธิภาพการทำงานออกมาอย่างเต็มที่ด้วย X-Mode เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งค่าต่างๆของตัวเครื่องให้ทราบด้วย นับว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าต่างๆได้ตามความต้องการในการใช้งานแต่ละแบบ
ใครที่ชื่นชอบการเล่นเกมแล้ว รับรองได้เลยว่า ASUS ROG Phone 6 น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทั้งเรื่องความไหลลื่น แรงสุดพลังด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 แถมด้วยหน้าจอที่โดดเด่นด้วยอัตรารีเฟรช 165 Hz และยังแบตเตอรี่สุดอึด 6,000 mAh หมดกังวลเรื่องความร้อนด้วยระบบระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม พร้อมระบบการควบคุมการเล่นเกมที่ตอบสนองทุกๆการเล่นเกมจริงๆ
สรุปสเปค ASUS ROG Phone 6
- Qualcomm Snapdragon 8+ Gen1, Qcta-core CPUs, x 3.0 Hz with 5G 4nm
- GPU Qualcomm® Adreno™ 730
- ระบบปฏิบัติการ Android 12
- หน้าจอ 6.78", 395 ppi, 20.4:9, 2448x1080 FHD+ AMOLED, 165Hz
- หน่วยความจำ 12GB/256GB , 16GB/512GB
- กล้องหลัก 50MP IMX766 , กล้อง Ultra-wide: 13M , กล้อง Macro(5cm): 5M (8M crop)
- กล้องหน้า 12 MP
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh
- รองรับการชาร์จไว 65W
- มาตรฐานกันน้ำ IPX4
- รองรับสองซิม
และนอกเหนือจากประสิทธิภาพของตัวเครื่องแล้ว มาครั้งนี้ ASUS ROG Phone 6 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอีกสองชิ้นได้แก่ ชุดระบายความร้อน AeroActive Cooler 6 และหูฟังไร้สาย ROG CETRA TRUE WIRESS อีกด้วย
สำหรับชุดระบายความร้อน AeroActive Cooler 6 จะมาพร้อมกับตัวเคสที่ออกแบบมาพิเศษให้อีก 1 ชิ้น โดยอุปกรณ์ที่ว่านี้จะช่วยระบายความร้อนของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่ต้องใช้งานเครื่องเป็นระยะเวลานาน และต้องการลดความร้อนตัวเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่าภายในตัว AeroActive Cooler 6 จะมีพัดลมระบายความร้อนติดตั้งมาให้ และยังมีแผ่นนำความร้อน Peltier Element ที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิผิวสัมผัสด้านหลังของตัวเครื่องได้สูงสุดถึง 25 องศาเซลเซียส โดยตัวเครื่องอาศัยพลังงานผ่าน USB-C พร้อมกับมีปุ่มกดเสริมพิเศษสำหรับการเล่นเกมมากถึงสี่ปุ่ม
เมื่อติดตั้งเข้ากับตัว ASUS ROG Phone 6 แล้วจะมีหน้าตาหล่อมากๆ แถมยังเป็นขาตั้งแบบ Kick stand ได้ เรียกได้ว่าเพิ่มความดุดันและเพิ่มความน่าใช้ดูเหมือนเครื่องเล่นเกมยังไงยังงั้นเลยก็ว่าได้
และเมื่อพอติดตั้งชุดระบายความร้อน AeroActive Cooler 6 เข้าไป ก็จะมีการแจ้งสถานะของอุณหภูมิตัวเครื่องให้รู้ด้วย การติดตั้งก็ไม่ยาก เมื่อเสียบเข้ากับตัวเครื่องแล้วก็สามารถใช้งานได้เลยทันที
และความเท่ที่มาพร้อมกับ AeroActive Cooler 6 ก็คือไฟ RGB ที่สัญลักษณ์ ROG เวลาถือเล่นเกมแล้วได้อารมณ์ของการเล่นเกมสุดๆสมกับเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนที่แรงที่สุดในตอนนี้จริงๆ ขนาดถ่ายรูปออกมายังสวยน่าใช้มากๆ บอกได้เลยว่าตัวจริงสวยกว่านี้อีกเยอะ
และอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมนั่นคือ หูฟัง ROG CETRA TRUE WIRESS ที่ออกแบบมาได้สวยมากๆอีกเช่นกัน และยังคงคอนเซปต์ของความเป็นอุปกรณ์เกมมิ่ง ด้วยโลโก้ ROG สามารถใช้งานได้ง่ายเมื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth โดยตัวหูฟังสามารถแยกแยะรายละเอียดและทิศทางของเสียงได้ดี เวลาเล่นเกมจะสามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครในเกม และยังมีความหน่วงต่ำ
ตัวดีไซน์ของหูฟังสวยงามทั้งในส่วนของเคสและตัวหูฟัง มีไฟ RGB แบบเดียวกับตัวเครื่อง ASUS ROG Phone 6 รองรับระบบ Active Noise Cancelation ตัดเสียงรบกวนได้ดี
ตัวหูฟังสามารถใช้งานสูงสุด 5.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และขยายเวลาใช้งานได้ถึง 21.5 ชั่วโมงเมื่อใช้เคสชาร์จ หรือจะชาร์จเพียง 10 นาที ก็ช่วยให้ใช้งานได้นานถึง 1.5 ชั่วโมง แถมรองรับการชาร์จแบบไร้สายอีกด้วย
สำหรับ ASUS ROG Phone 6 และ 6 Pro พร้อมวางจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ในวันที่ 14 ก.ย. 2565 ตั้งแต่เวลา 21:00 น. และพร้อมวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศและ AIS (พร้อมแพ็คเกจสุดพิเศษ) ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2565 เป็นต้นไป