หากใครที่กำลังมองหาหูฟังระดับพรีเมียมที่ให้เสียงสดใส สมจริง และโดดเด่นด้วยสเปคพร้อมกับดีไซน์สวยหรู ลองมาชม HUAWEI FreeBuds Pro 2 หูฟังไร้สายสุดพรีเมียมจากทาง Huawei ตัวนี้ดูก่อน เป็นที่ทราบกันดี HUAWEI เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้ง Smartphone, Tablet, Notebook หรือ Wearable ต่าง ๆ ซึ่งก็ล้วนแต่ได้รับคำชื่นชมในด้านของ ประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และฟีเจอร์การใช้งาน
ในส่วนของกล่องบรรจุภัณฑ์ของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ทำออกมาดูดีเลยทีเดียว โดยหูฟังรุ่นนี้มีให้เลือกด้วยกันสามสีคือ Silver Blue,Silver Frost และ Ceramic White โดยตัวที่นำมารีวิวนี้เป็นสี Silver Blue นั่นเอง สำหรับฟีเจอร์การทำงานหลักๆของหูฟังนั้น คือเป็นหูฟังชนิดไร้สายที่รองรับมาตรฐาน HWS (Hi-Res Wireless) มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC 2.0ที่ช่วยลดเสียงรอบข้างได้มากถึง 47 dB เชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์อื่นๆผ่านเทคโนโลยี Bluetooth Codec LDAC ใช้ไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 11 มม. ที่พัฒนาร่วมกับ DEVIALET แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก โดยมีไมโครโฟนสำหรับใช้พูดคุยถึง 4 ตัวด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการกันน้ำมาตรฐาน IP54 สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างไม่มีปัญหา ตามสเปคระบุว่าสามารถเปิดใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง โดยจะฟังเพลงได้ต่อเนื่องนาน 6.5 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ 1 และปิดโหมด ANC และสำหรับตัวกล่องด้านหลังก็จะเห็นว่ามีการบอกคุณสมบัติเด่นๆ รวมถึงมาตรฐานที่ได้รับการรับรองของหูฟังรุ่นนี้
แกะกล่องออกมาก็จะพบกับเคสแคปซูลที่ข้างในบรรจุหูฟังเอาไว้นั่นเอง โดยตัวเคสนั้นมีลักษณะเป็นรูปทรงเหมือนแคปซูลสีฟ้าอ่อนๆ ตามชื่อ Silver Blue และในกล่องก็มาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆดังต่อไปนี้
มีเคสชาร์จและหูฟัง สายชาร์จ USB-Type C จุกยางหูฟังขนาด S และ L โดยขนาด M จะติดอยู่กับตัวหูฟังมาให้เลย รวมถึงมีคู่มืการใช้งานและเอกสารประกอบการรับประกันของหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2
ในส่วนของเคสชาร์จนั้น มีโลโก้ของทาง HUAWEI และ DEVIALET อยู่ด้วย บ่งบอกถึงความหรูหราพรีเมียม โดยตัวเคสนอกจากจะสามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ได้แล้ว ยังสามารถที่จะชาร์จไฟแบบไร้สาย Qi standard ได้อีกด้วย จึงสามารถใช้แท่นชาร์จไร้สายหรือใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตทำ Reverse Wireless Charging ได้
มาดูในส่วนของดีไซน์หูฟังกันบ้าง ต้องบอกเลยว่า หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 ตัวนี้ทำออกมาได้สวยมากๆ ตัวบอดี้หูฟังจะเป็นสีเมทาลิคเงางาม เพิ่มความหรูหรา แต่ข้อเสียคือจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายหน่อย ลักษณะหูฟังเป็นแบบ In-Ear มีจุกยางที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ มีน้หนักเบามากเพียง 6.1 กรัมต่อข้างเท่านั้น มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใส่ พร้อมกับตัวหูฟังที่สามารถควบคุมการทำงานผ่านระบบสัมผัส
ในเรื่องของการควบคุมการทำงานนั้น สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เราต้องการแล้ว จะสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างสะดวกด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง ทั้งการแตะหรือใช้การรูดขึ้นลงที่ตัวหูฟังนั่นเอง
สำหรับการควบคุมการทำงานจะมีดังนี้
- กรณีใช้งานเพื่อโทร
แตะหนึ่งครั้ง - รับสาย/วางสาย
แตะสองครั้ง - ไม่รับสายนั้นๆ
- กรณีใช้งานฟังเพลง
แตะหนึ่งครั้ง - เล่นเพลง/หยุดเพลงขั่วคราว
แตะสองครั้ง - เลื่อนเล่นเพลงต่อไป
แตะสามครั้ง - เล่นเพลงก่อนหน้านี้
- ในส่วนของการรูดขั้นหรือลง สามารถใช้งานเพื่อควบคุมการเพิ่มหรือลดระดับเสียง และหากแตะที่ตัวหูฟังค้างไว้จะเป็นการเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวน
หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 สามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น HUAWEI AI Life ซึ่งจะแจ้งเตือนสถานะของตัวหูฟัง พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานฟีเจอร์สลับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ มีโหมดปรับการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม รวมถึงการจูน EQ ของหูฟังให้ได้เสียงตามที่ชื่นขอบหรือเหมาะกับสไตล์การฟังเพลงอีกด้วย
และจากการลองใช้งานจริงพบว่า การใส่หูฟังทำได้กระชับดีทีเดียว เมื่อนำไปฟังเพลงตามสถานที่ต่างๆที่มีเสียงรบกวน สามารถตัดเสียงรอบข้างได้ดีเลยทีเดียว ใครที่มองหาหูฟังที่เน้นเรื่องตัดเสียงรบกวนดีๆแนะนำเลย เพราะว่าฟีเจอร์นี้ใน HUAWEI FreeBuds Pro 2 ไม่ได้ทำออกมาแค่เป็นลูกเล่น แต่สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลย โดยหากเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น HUAWEI AI Lifeแล้ว จะสามารถปรับตั้งการตัดเสียงรบกวนแบบอัตโนมัติ (Dynamic) หรือปรับเองได้สามรูปแบบคือ
1. Cozy Mode : เป็นโหมดที่เหมาะกับสถานที่ที่มีเสียงรบกวนต่ำ เช่นในห้องสมุด
2. General Mode : ในโหมดนี้จะเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่เริ่มมีเสียงรบกวนมาก อย่างเช่นในร้านอาหาร หรือในห้างสรรพสินค้า โดยจะช่วยลดเสียงให้เล็ดลอดเข้ามาในหูของเราได้น้อยลงกว่าเดิม
3. Ultra Mode : ใหากมีเสียงรอบข้างที่ดังมาก โหมดนี้จะช่วยตัดเสียงรบกวนด้วยระบบตรวจจับเสียงของหูฟังเอง ช่วยให้เราได้ยินเสียงจากหูฟังชัดขึ้น
ส่วนในเรื่องเสียงที่ได้นั้น จะออกมาในแนวกลางๆสามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว โดยสามารถปรับตั้ง EQ ได้เองผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งจากการลองฟังเพลงต่างๆแล้ว โดยไม่ได้ปรับตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม เสียงเบสจะออกมาค่อนข้างหน้าฟังแล้วทุ้มชัด ในขณะที่เสียงกลางหรือเสียร้องคมชัดดีทีเดียว สามารถแยกแยะในส่วนของเสียงเครื่องดนตรีต่างๆได้ชัดเจน ในขณะที่เสียงย่านโทนสูงแหลมนั้น จะไม่ได้แหลมจี๊ดจนฟังแล้วรู้สึกรำคาญ ถ้าใครชอบหูฟังที่เน้นฟังแบบได้เรื่อยสบายๆ ไม่ได้ต้องเบสกระแทกหรือเสียงตึ๊ดๆแบบ EDM น่าจะชอบและใส่ฟังเพลินๆได้ทั้งวัน
ส่วนการนำไปใช้ทั่วไปอย่างเช่นเล่นเกม ดูหนัง ถือว่าสอบผ่าน เพราะจากการฟังเพลงแล้วถือว่าเป็นหูฟังที่ฟังสบาย การนำไปใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหาอะไร และสามารถเชื่อต่อได้ดีไม่ค่อยมีอาการสะดุดหรือเสียงช้าๆขาดๆหายๆ ส่วนเรื่องการโทรศัพท์ ให้เสียงพูดที่ฟังแล้วชัดเจน ในขณะที่ไมโครโฟนเองก็มีระบบตัดเสียงรบกวนขณะใช้งานด้วยเหมือนกัน ส่วนระยะเวลาการใช้งานนั้น จากการใช้จริงพบว่าอยู่ราวๆ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากให้ประหยัดไฟใช้งานได้นานขึ้นต้องปิดระบบ ANC
สรุปว่า หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์ในการฟังเพลงที่หลากหลาย มีฟีเจอร์ที่โดดเด่น ตัดเสียงรบกวนได้เงียบ และเชื่อมต่อได้ง่าย ไม่มีปัญหาเสียงขาดหาย หรือหาอุปกรณ์ไม่ค่อยเจอ ใช้งานคุยโทรศัพท์ก็ชัดเจน แต่เรื่องแบตเตอรี่อาจจะดูแล้วใช้งานได้น้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ทั้งนี้โดยรวมถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าคุ้มราคาตอบโจทย์ผู้ที่ต้อการหูฟังตัดเสียงรบกวนดีๆสักตัวไว้ใช้งาน