รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศห้ามใช้อุปกรณ์ของ Huawei และ ZTE ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 5G ของจีนในแถลงการณ์ ระบุถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ โดยกล่าวว่าซัพพลายเออร์อาจถูกบังคับให้ปฏิบัติตามของรัฐบาลจีน ในลักษณะที่อาจจะ “ขัดแย้งกับกฎหมายของแคนาดาหรืออาจเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของแคนาดา”
บริษัท Telcos สั่งให้จัดหาอุปกรณ์ 4G หรือ 5G ใหม่จากบริษัทอื่นภายในเดือนกันยายนปีนี้ และจะต้องนำอุปกรณ์ 5G ที่เป็นแบรนด์ ZTE และ Huawei ทั้งหมดออกจากเครือข่ายภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2024 อุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องถูกลบออกจากเครือข่าย 4G ภายในสิ้นปี 2027 "รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะเพิ่มผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจของ 5G และการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมที่มีขนาดใหญ่ แต่ต้องไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย" รัฐบาลแคนาดาเขียนในแถลงการณ์
หัวใจของความกังวลด้านความปลอดภัยก็คือกฎหมายว่าด้วยข่าวกรองแห่งชาติของจีนการเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้แคนาดาที่เป็นสมาชิกล่าสุดของพันธมิตรด้านข่าวกรอง Five Eyes ที่ได้วางข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ Huawei และ ZTE ในเครือข่ายการสื่อสารของตน ว่าบริษัทโทรคมนาคมในสหรัฐฯ ใช้เงินหลายพันล้านในการถอดและเปลี่ยนอุปกรณ์ในเครือข่าย ขณะที่สหราชอาณาจักรสั่งห้ามการใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในปี 2020 และสั่งให้ถอดอุปกรณ์ดังกล่าวออกภายในปี 2027 นอกจากนี้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังได้จำกัดการใช้อุปกรณ์ของตนในพื้นที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติ
แก่นของข้อกังวลเหล่านี้คือกฎหมายข่าวกรองแห่งชาติของจีน ซึ่งนักวิจารณ์อ้างว่าสามารถใช้เพื่อให้องค์กรและพลเมืองของจีนร่วมมือกับงานข่าวกรองของรัฐ รายงานข่าว CBC บอกว่าความกลัวนี้สามารถใช้เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่าง Huawei และ ZTE ส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากเครือข่ายต่างประเทศให้กับรัฐบาลจีนได้อย่างลับๆ
Huawei โต้แย้งข้อเรียกร้องนี้และกล่าวว่ามีพื้นฐานมาจาก "misreading” of China’s law" จีนจะประเมินเหตุการณ์นี้อย่างครอบคลุมและจริงจัง และใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีน สถานทูตแคนาดาของจีนกล่าวในแถลงการณ์เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งห้ามของแคนาดา ทางด้านรองประธานของ Huawei Canada เรียกนโยบายนี้ว่า "การตัดสินใจทางการเมืองที่โชคร้ายซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์หรือเทคโนโลยีใดๆ ที่เป็นปัญหา"
ที่มา : theverge