Introduction
สวัสดีครับ มาพบกับการรีวิวหูฟังรุ่นใหม่ที่น่าสนใจกับ พี่หมี TechXcite กันอีกครั้งนะครับ วันนี้เรามีหูฟังไร้สายรุ่นใหม่จากค่าย HUAWEI มารีวิวให้ชมกัน คือ HUAWEI FreeBuds SE หูฟังไร้สายแบบ True Wireless ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นหูฟังขนาดพกพา น้ำหนักเบา ดีไซน์สวยโดดเด่น และยังพกพาไดร์เวอร์เสียงแบบ Dynamic ขนาด 10 มม. และไดอะแฟรมโพลีเมอร์ความไวสูง ให้คุณภาพเสียงที่ไพเราะ เหมาะทั้งกับการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่ทันสมัย
ให้ฟีเจอร์มาครบๆ แบบนี้ แถมยังมีราคาสบายกระเป๋า วันนี้พวกเราทีมงาน TechXcite ได้ทดสอบและรีวิวมาแล้ว เรามาดูกันครับว่าหูฟังรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจ และน่าสังเกตกันบ้าง ไปติดตามกันเลย
Unboxing
- หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE
- เคสชาร์จ
- จุกหูฟัง 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ (ที่ใส่อยู่กับหูฟัง 1 ชุดเป็นขนาดกลาง)
- สายชาร์จ USB-C
- คู่มือและใบรับประกัน
Specification
- ประเภทหูฟัง Semi in-ear
- น้ำหนัก 10.2 กรัม (รวม 2 ข้าง) + เคสชาร์จอีก 35.6 กรัม
- ไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. แบบไดนามิก
- ไมโครโฟน มีข้างละ 2 ตัว เพื่อตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์
- รองรับความถี่ 20Hz - 20,000Hz
- ระดับการกันน้ำ IPX4
- ตัวเลือกสี สีขาว และสีฟ้า
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- ความจุแบตเตอรี่ 37mAh และบนเคส 410mAh
- ความเร็วการชาร์จ 5W (ชาร์จ 10 นาที ฟังต่อได้อีก 80 นาที)
- ราคา 1,899 บาท
Design
ด้านดีไซน์การออกแบบ หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่เรียบหรู ดูดีครับ เหมาะสำหรับการสวมใส่ได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ดูแล้วมีการออกแบบที่สมดุล มีน้ำหนักเบามาก ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อสวมใส่ และมีการออกแบบสไตล์ Semi In-Ear ซึ่งจะมีการออกแบบดูคล้ายกับหูฟังประเภท Ear-Buds แต่มีบริเวณปลายหูฟังที่เป็นจุกยางแบบ In-Ear ทำให้เป็นหูฟังที่เน้นดีไซน์สวยงาม ในขณะที่ยังมอบประสบการณ์ด้านเสียงดนตรีที่ไพเราะด้วยการตัดเสียงรบกวนแบบ Passive ซึ่งเป็นจุดเด่นของหูฟังประเภท Ear-Buds ครับ
ภายในเคสจะมีช่องใส่หูฟัง และปุ่มกดสำหรับการเชื่อมต่อ
ด้านหลังมีพอร์ตชาร์จ USB-C ที่ทันสมัย
ส่วนด้านหน้ามีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะ ไม่ว่าจะเป็นขณะชาร์จ หรือการจับคู่ Pairing
ในขณะที่ตัวเคสชาร์จก็มีดีไซน์ที่ดูทันสมัย มีลักษณะเป็นวงรี ขนาดกะทัดรัด โดยสีขาวที่เราได้มารีวิวนี้ดูสวยงาม สะอาดตาครับ และมีน้ำหนักเบาเพียง 5.1 กรัม ทำให้สามารถหยิบจับได้กระชับ ถนัดมือดีไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ และด้วยความมันวาวของภายนอก ยิ่งเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับตัวเคสไปอีกระดับ
สำหรับท่านที่มีช่องรูหูขนาดใหญ่ หรือเล็ก ในชุดหูฟังยังให้จุกยางมา 3 ขนาด คือขนาดกลางที่ใส่มากับหูฟังอยู่แล้ว ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ช่วยให้การสวมใส่กระชับกับเรามากที่สุด ให้ความพอดี และระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE นี้จะมีตัวเลือกสีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือสีฟ้า ที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้าและก้อนเมฆ ในขณะที่สีขาวที่เราได้มารีวิวนี้ก็จะสวยไปอีกแบบ โดยจะขาวแวววับ คล้ายกับคริสตัลที่หรูหรา น่าหลงใหล ใครชอบแบบไหนก็เลือกกันตามชอบเลยครับ
Performance
ต่อไปมาดูในด้านการใช้งานจริง และประสิทธิภาพในส่วนต่างๆ กันครับ เริ่มกันที่การสวมใส่ก่อนเลย จากที่ผู้รีวิวได้ทดสอบสวมใส่หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE รุ่นนี้ บอกเลยว่าเป็นหูฟังที่ให้ความรู้สึกใส่ได้อย่างสบายครับ เพราะมีน้ำหนักเบา และด้วยดีไซน์ที่เป็นกึ่งอินเอียร์กึ่งเอียร์บัดแบบนี้ ทำให้หูฟังรุ่นนี้มีข้อดีจากทั้งสองแบบครับ คือ เป็นหูฟังที่มีแบตเตอรี่ค่อนข้างอึด เพราะมีก้านหูฟังที่สามารถใส่แบตได้เยอะกว่าหูฟังแบบเอียร์บัดแท้ๆ และมีปลายจุกยาวสไตล์อินเอียร์ ที่ช่วยลดเสียงรบกวนขณะใช้งานได้แบบ Passive ตรงนี้ถือว่าค่อนข้างถูกใจผู้รีวิวมากทีเดียว การสวมใส่ยังให้อารมณ์ความโปร่งสบายเมื่อเลือกจุกหูฟังที่ขนาดพอเหมาะสำหรับตัวเอง และสามารถใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าหูเร็วครับ
ส่วนคุณภาพเสียง ขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การโทร และการฟัง Multimedia ครับ
ทางด้านการโทร จากที่ทดสอบหูฟังรุ่นนี้ถือว่าสามารถเก็บเสียงสนทนาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ ผู้รีวิวมีการทดสอบด้วยการนั่งโทรข้างพัดลมแรงๆ ทางฝั่งปลายสายก็ยังได้ยินเสียงสนทนาของผู้รีวิวอย่างชัดเจน มีเสียงลมเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ทางฝั่งเราก็ได้ยินเสียงปลายสายค่อนข้างคมชัด ซึ่งการตัดเสียงรบกวนขณะโทรนี้ ทาง HUAWEI ใช้เทคโนโลยี Environmental Noise Cancellation ทำงานคู่กับเทคโนโลยีบีมฟอร์มมิ่งแบบไมค์คู่ ช่วยแยกเสียงพูดกับเสียงรบกวนได้เนียนกริ๊บ และจับเสียงได้แม่นยำมาก อันนี้ขอคารวะ
ส่วนทางด้านการฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีย์ รวมไปถึงการเล่นเกม ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ สามารถให้คุณภาพเสียงในระดับสูง มีเสียงเบสที่หนักแน่น และให้เวทีเสียงที่กว้าง ครอบคลุมทั้งเสียงกลาง และแหลมได้อย่างพอดีๆ และลงตัว ถือว่าให้เสียงที่ครบมิติครับ รองรับการฟังเพลงได้ทุกแนว ส่วนทางด้านการรับชมคอนเท้นต์ต่างๆ ตัวเสียงพูดก็ค่อนข้างคมชัด เสียงมีมิติที่ดีครับ ถือว่าตอบโจทย์คนที่มองหาหูฟังไว้สำหรับดูหนังฟังเพลงแน่นอน และสำหรับการเล่นเกม ตัวนี้มาพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 เวอร์ชั่นใหม่ที่ให้ความเสถียร และดีเลย์ต่ำ ทำให้การเชื่อมต่อค่อนข้างนิ่ง และเสียงแทบจะไม่เจอความเพี้ยนเลยครับ จัดว่าครบเครื่องมาก
นอกจากนี้การใช้งานแบบ Multi-Tasking ก็ไม่ธรรมดา เพราะว่าหูฟังสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Android OS และ iOS รองรับการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว เพียงแค่จับคู่หูฟังกับอุปกรณ์เอาไว้ ครั้งต่อไปที่ใช้งาน เพียงแค่เปิดฝาเคสเท่านั้น หูฟังก็จะจับคู่กับอุปกรณ์นั้นอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว พร้อมใช้งาน และผู้ใช้สามารถเช็คสถานะแบตเตอรี่ได้จากการแจ้งเตือนบนสมาร์ทดีไวซ์อีกด้วย สะดวกมาก
การควบคุมหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE จะใช้ระบบสัมผัสครับ ทำงานร่วมกับ G-Sensor ที่ช่วยให้การควบคุมด้วยระบบสัมผัสมีความแม่นยำสูง ไม่กดพลาด ส่วนการควบคุมก็ยกตัวอย่างเช่น การแตะสองครั้งเพื่อเล่นหรือหยุดมีเดีย หรือการรับสาย/วางสายก็ใช้การแตะสองครั้งเช่นกัน จากที่ทดลองใช้ก็ถือว่าทำได้อย่างแม่นยำ และเสถียรดีครับ ในขณะที่การตั้งค่าอื่นๆ ของหูฟัง ก็สามารถโหลดแอปพลิเคชันที่ชื่อ AI Life ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่สโตร์ทั้ง HarmonyOS, Android และ iOS เลยครับ
นอกจากนี้หูฟังรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์อินฟราเรดความไวสูง คอยตรวจจับใส่ถอดหรือใส่หูฟังด้วยครับ ซึ่งจะหยุดหรือเล่นเพลงอัตโนมัติได้ ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และป้องกันการลืมหยุดเล่นเพลงด้วย
สุดท้ายเป็นด้านการใช้งานแบตเตอรี่ HUAWEI FreeBuds SE ตัวหูฟังจะมาพร้อมแบตเตอรี่ 37mAh รองรับการเล่นเพลงต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และสามารถโทรต่อเนื่องได้นานสูงสุดประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะครับ และเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ 410mAh ในเคสชาร์จอีก จะทำให้เวลาการฟังเพลงต่อเนื่องรวมได้ถึง 24 ชั่วโมง ถือว่าจัดเต็มมากทีเดียว
ส่วนการชาร์จหูฟังจนเต็มจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง และการชาร์จเคสให้เต็ม (ไม่มีหูฟัง) จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถือว่าไม่นานครับ
Conclusion
โดยสรุปนะครับ หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE ถือว่าเป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ ครับ เพราะค่อนข้างรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ยืดหยุ่น จะฟังเพลงก็ดี เพราะให้คุณภาพเสียงที่ดีสมราคาค่าตัว หรือจะใช้โทรศัพท์ก็เก็บเสียงได้ยอดเยี่ยม ตัดเสียงลมเสียงแวดล้อมรบกวนได้แม่นยำ แถมยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ยาวนาน สามารถสแตนบายได้ยาวนาน และคุยต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่ดูพรีเมี่ยม สวยทันสมัย น้ำหนักเบา ใส่ได้สบายโดยไม่อึดอัด
ทางด้านราคา HUAWEI FreeBuds SE เปิดราคามาที่ 1,899 บาท ซึ่งถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่ได้รับครับ
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://bit.ly/3L8vXAS
และสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/3PiJ4CA
สำหรับวันนี้ทีมงาน TechXcite ก็ต้องขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ :)