Netflix ได้ออกมารายงานรายได้ของไตรมาสที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ และตัวเลขมันที่ออกมาก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบอารมณ์เพราะว่ายอดการสมัครสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมาถึงเป้าแล้วยังจะต้องมาเสียยอดผู้ใช้เดิมถึง 200,000 บัญชี ประเมิณมูลค่าออกมาก็คือขาดทุนไปกว่า 25%
Reed Hasting ซีอีโอของ Netflix ได้กล่าวว่าโดยส่วนตัวของเขานั้นต่อต้าน”ความซับซ้อนของโฆษณา” และชอบ”ความเรียบง่ายของระบบสมาชิก” แต่เขาก็เป็นแฟนตัวยงของตัวเลือกสำหรับผู้บริโภค นั่นหมายความว่า Netflix กำลังพิจารณาแพ็คเกจระดับเริ่มต้นตัวใหม่ที่มีราคาถูกแต่จะมีโฆษณา
ย้อนกลับไปที่ไตรมาแรกของปี 2021 มียอดผู้สมัครใช้บริการถึง 4 ล้านบัญชี แต่ตัดกลับมาที่ไตรมาสแรกของปีนี้กลับมีแค่ 5 แสนบัญชีเท่านั้นเหตุผลแรกคือการที่ Netflix ถอนตัวออกจากรัสเซียที่ส่งผลให้หายไปแน่ๆ แล้ว 7 แสนบัญชีเป็นอย่างน้อย ความท้าทายหลักก็คือกาารแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่มาจากคู่แข่งอย่าง Disney+, HBO Max และ Amazon Prime
จากการคาดการณ์คร่าวๆ ดูเหมือนว่า Netflix จะยังเลือดไหลไม่หยุดเพราะมีแนวโน้มว่าจะมีอีก 2 ล้านบัญชีที่จะหยุดจ่ายเงินในไตรหมาสหน้า แม้ว่าจะมีซีรีย์ระดับชั้นนำอย่าง Stranger Things และ Ozark จ่อจะฉายซีซั่นใหม่ก็ตาม ตัวเลขการประเมินเช่นนี้มันทำให้ราคาหุ้นของ Netflix ร่วงมาถึง 26% ผิดจากคู่แข่งรายอื่นที่ร่วงกันเต็มที่ก็ประมาณ 5-6% เท่านั้น
วิธีการที่ห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกต่อไปก็คือ พวกเขาเล็งว่าตอนนี้มันมีสายแชร์มากจนเกินไปซึ่งมันน่าจะมีถึง 100 ล้านบัญชี จากจำนวนผู้ใช้ประมาณ 222 ล้านบัญชี พวกเขาเลยได้ทำการทดลองจำกัดพื้นที่การแชร์นั่นหมายความใครก็ตามที่แชร์กับเพื่อนอยู่จะไม่สาารถทำได้อีกต่อไป และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้ทดลองเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยการที่ต้องมีบัญชีหลักก่อนและเพิ่มสมาชิกย่อยเข้าไปได้สองคน และสองคนนั้นจะสร้างโฟรไฟล์ของตัวเองได้ แต่มันต้องใช้งานประมาณ 100 บาทต่อสมาชิกย่อยหนึ่งคน ในประเทศ ชิลี, คอสตาริก้าและเปรู
อย่างที่สองก็คือจะมีแพ็คเกจราคาถูกแต่จะมีโฆษณาอยู่ในนั้นเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายราคาเต็ม และรับได้กับการที่มีอะไรมาคั่นระหว่างดูคอนเท้นท์ และ Hasting เองก็บอกว่า Netflix จะไม่มีการติดตามข้อมูลผู้ใช้เพื่อให้มีโฆษณาที่เจาะจงสำหรับผู้ใช้อย่างที่คู่แข่งบางรายทำ และลูกค้ากลุ่มนี้จะมีความ Royalty สูงซะด้วย
ในฐานะผู้ใช้คนนึงตัวผมมองว่าอาจจะแก้ปัญหาไม่ถูกจุดเท่าไหร่เพราะถ้าผมไม่ได้อยากหารหรือแชร์กับใครอยากใช้แค่ 1-2 จอเพราะราคามันดีแต่ก็รับไม่ได้กับความละเอียด 360-480p (ผมจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้) ซึ่งภาพมันละเอียดครับ แตกละเอียดเป็นเม็ดพิกเซล ก็ต้องไปใช้แพคเกจมาตราฐานที่ราคาสูงแต่ไม่สุดเพื่อจะเอา 1080p และยอมมีเพื่อนแชร์ก็เหนื่อยใจกับการตามเก็บตังค์เพื่อน เฮ้อคิดแล้วเหนื่อยจะเลิกใช้ก็ติดซีรีย์อยู่หลายเรื่องซะด้วยสิ
ที่มา : engadget + gsmarena