Intro คุยกันก่อน
สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวอุปกรณ์ไอทีที่น่าสนใจกับ พี่หมี TechXcite กันอีกครั้งนะครับ วันนี้เรามีโอกาสได้อุปกรณ์ชุดใหญ่จาก Huawei มารีวิวทั้งหมด 3 อุปกรณ์ ประกอบไปด้วย โน้ตบุ๊ครุ่นอัพเกรดใหม่ล่าสุด Huawei MateBook D 14, แท็บเล็ต Huawei MatePad 11 และลำโพงบลูทูธไร้สาย Huawei Sound Joy มารีวิว ซึ่งทั้ง 3 อุปกรณ์จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า Huawei Super Device โดยทั้ง 3 จะทำงานผสานกันได้อย่างไร เดี๋ยวเราจะมาทดสอบให้รับชมกันครับ ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักและดูข้อมูลสเปคของแต่ละอุปกรณ์กันก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
New Huawei MateBook D 14
New Huawei MateBook D 14 มาพร้อมกับสเปคที่ยอดเยี่ยมครับ โดยเลือกใช้ชิปเซ็ต 11th Gen Intel Core i5-1135G7 ชิปเซ็ตที่พัฒนาด้วยสถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร มาพร้อมเทคโนโลยี SuperFin ยกระดับประสิทธิภาพให้เหนือกว่ารุ่นก่อน รองรับทุกการทำงานที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด โดยจะทำงานร่วมกับการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics ตอบโจทย์คนทำงานที่หลากหลาย และยังมาพร้อมกับหน่วยความจำแบบ dual-channel 8GB และหน่วยความจำภายใน SSD 512GB PCIe
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการรองรับการเปิดโหมด Performance Mode ด้วยการกดปุ่ม Fn+P เพื่อรีดประสิทธิภาพการประมวลให้เต็มสูบ บูสต์พลังเพื่อรองรับงานกราฟฟิกระดับสูงได้เต็มที่มากที่สุดได้ ในขณะที่ด้านการระบายความร้อนก็ยังได้รับการอัพเกรดด้วย Huawei Shark Fin ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 แล้วในรุ่นนี้ ทำให้คุณออนไลน์ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วกว่าที่เคย
ด้านการออกแบบของ Huawei MateBook D 14 รุ่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมหน้าจอ FullView Display ที่มีสัดส่วนกว้างถึง 84% screen-to-body ratio ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล พร้อมการถนอมสายตาขั้นสุดด้วยหน้าจอที่ผ่านการรับรอง TUV Rheinland Certified ลดแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตา ช่วยให้เราทำงานได้สบายตามากขึ้นครับ
งานประกอบของ Huawei MateBook D 14 ยังมาในสไตล์เรียบหรู หนาเพียง 15.9 มม. และมีน้ำหนักเบาแค่ 1.38 กก. ทำให้สามารถพกพาไปทำงานได้สะดวก คล่องตัวมาก ซึ่งในส่วนของบานพับหน้าจอสามารถกางได้กว้างเกือบ 180 องศา เพิ่มความหลากหลายในการใช้งานด้วย และแบตเตอรี่ที่รองรับการชาร์จเร็ว 65W ผ่านพอร์ต USB-C ก็ยิ่งสบายครับ เพราะใช้ที่ชาร์จเร็ว PD จากมือถือหรือแท็บเล็ตมาชาร์จได้เลย ไม่ต้องพาหัวชาร์จหลายอันด้วย ตัวเดียวจบเลย
กล้อง Webcam ที่ซ่อนอยู่บริเวณแป้นพิมพ์ สามารถปิดลงได้ เพื่อความปลอดภัย
ปุ่ม Power ที่ใช้เป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือด้วย
อัดแน่นด้วยขุมพลังที่มีประสิทธิภาพ
Huawei Sound Joy
มาต่อกันที่หนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปกับ Huawei Sound Joy ลำโพงบลูทูธขนาดพกพา ที่พร้อมจะให้คุณพาไปสนุกได้ทุกที่ครับ มาพร้อมดีไซน์สวยกะทัดรัด วัสดุเป็นผ้าหุ้มแบบ 3D ให้ความรู้สึกที่สวยงาม หรูหราเอาเรื่อง และแน่นอนว่าด้านคุณภาพเสียงก็ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะได้ลำโพงจาก Devialet ที่ยอดเยี่ยม
Huawei Sound Joy ได้รับการพัฒนาจาก Huawei และ Devialet แบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์จากฝรั่งเศส โดยมาพร้อมดอกลำโพงฟูลเรนจ์ความถี่เต็ม 1 ตัว และลำโพงทวิตเตอร์อีก 1 ตัว เพื่อให้เสียงที่ไพเราะครบทุกย่านเสียงสำคัญ และส่งพลังเบสกระแทกใจอีก 2 แบบ Passive Radiator รวมแล้วจะให้พลังเสียงสูงสุด 79 dBA ในระยะ 2 เมตร ดังกระหึ่มสะใจทุกปาร์ตี้แน่นอนครับ จากที่ได้ทดสอบต้องบอกเลยว่าถูกใจพี่หมีมาก อยากได้ไว้ใช้เองเลยทีเดียว 55+
นอกจากจะเสียงดีแล้ว Huawei Sound Joy ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวขนาดใหญ่ถึง 8800mAh รองรับการเล่นเพลงต่อเนื่องได้ข้ามวันที่ 26 ชั่วโมง แถมยังรองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 40W ชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถฟังเพลงต่อได้อีก 1 ชม. เต็มๆ แล้วครับ
ด้านดีไซน์การออกแบบยังมารูปแบบที่ทันสมัย กะทัดรัด พกพาไปไหนได้ทุกที่ไม่กลัวฝนด้วยครับ เพราะกันน้ำกันฝุ่นได้ และด้านบนยังมีวงแหวนไฟ RGB ที่สวยงาม และให้การควบคุมที่ง่าย สามารถกด เพิ่มเสียง/ลดเสียง, เปิดปิด, เล่นเพลงหรือหยุดเพลง, และอื่นๆ ได้จากตัวลำโพงเลยครับ สะดวกมาก
นอกจากนี้หากคุณมีลำโพง Huawei Sound Joy 2 ตัว สามารถนำอุปกรณ์มา Pair กันได้เพื่อรับฟังเพลงแบบ Stereo ด้วยครับ การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่เขย่าลำโพง หรือกดปุ่ม Stereo จากนั้นก็จะเชื่อมต่อ เพื่อส่งเสียงที่มีมิติยิ่งขึ้นไปอีกครับ
รวมถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นก็ทำได้ง่ายมาก เช่นการเชื่อมต่อลำโพงเข้ากับโน้ตบุ๊ค เพียงเปิดลำโพงและนำไปวางใกล้กับโน้ตบุ๊ค ระบบจะแสดงหน้าจอ Pop-up ขึ้นมาให้เราเชื่อมต่อแล้วครับ สะดวกสุดๆ เลยฮะ และหากใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ ก็จะสามารถสั่งการลำโพงด้วยเสียงได้ด้วย ใช้เป็นลำโพงอัจฉริยะเพื่อใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆ เช่น บันทึกช่วยจำ, สอบถามข้อมูล หรือเช็คการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ เป็นต้น
ปาร์ตี้ริมสระสบาย ไม่กลัวน้ำ
Huawei MatePad 11
ส่วนอุปกรณ์สุดท้าย Huawei MatePad 11 ตัวนี้จะเป็นแท็บเล็ตสเปคดีในราคาสุดคุ้มครับ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยหรู ดูสวยลงตัวเข้าคู่กับ Huawei MateBook D 14 เช่นกัน และยังเป็นแท็บเล็ตที่เน้น Productivity สามารถเชื่อมต่อกับเมาส์หรือคีย์บอร์ดไร้สายได้อย่างง่ายดาย โดยจะมี Cursor ขึ้นมา ใช้งานง่ายเหมือนการใช้โน้ตบุ๊คเลยครับ สามารถแบ่งหน้าจอทำงานได้สูงสุดถึง 4 แอปพลิเคชัน และรองรับปากกาสไตลัสได้ด้วย
จุดเด่นอีกอย่างของ Huawei MatePad 11 คือมาพร้อมหน้าจอความถี่สูง 120Hz ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ชมคอนเท้นต์ เล่นโซเชียล หรือจะใช้ทำงาน ประชุมออนไลน์ก็ให้สีสันที่สดใส เต็มอิ่มทุกไลฟ์สไตล์
และแน่นอนว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้ยังรองรับ การรับรอง TÜV Rheinland Dual Certification5 ช่วยถนอมสายตาและลดแสงสีฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดแสดงผลหน้าจอและปรับสี ให้เราใช้งานได้อย่างสบายตา หรือจะให้ลูกหลานใช้ ก็มั่นใจได้ว่าหน้าจอจะไม่ทำร้ายสายตาอย่างแน่นอน
และสำหรับการใช้งานเดี๋ยวเราจะไปเน้นกันในส่วนถัดไปกับ Huawei Super Device นะครับ เพราะจะทำงานร่วมกับ Huawei MateBook D 14 แล้วน่าสนใจอย่างไรบ้าง
Huawei Super Device
ต่อมาเราไปดูกันที่ไฮไลท์สำคัญของการใช้อุปกรณ์ทั้ง 3 ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพด้วยฟีเจอร์ Huawei Super Device กันครับ
Huawei Super Device คือ ฟีเจอร์ที่ให้เราทำงานบนอุปกรณ์ของ Huawei ร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อครับ โดยศูนย์กลางการควบคุมจะอยู่ที่โน้ตบุ๊ค Huawei MateBook D Series ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ของ Huawei ได้ทุกชนิด อาทิเช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ลำโพงอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอทช์ เป็นต้น
ซึ่งในที่นี้เรามีโน้ตบุ๊ค Huawei MateBook D 14 ที่เชื่อมต่อกับแท็บเล็ต Huawei MatePad 11 เพื่อใช้งานฟังค์ชั่นพิเศษได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
การเชื่อมต่อก็ทำได้ไม่ยากครับ เพียงแค่อุปกรณ์ชิ้นที่จะใช้งาน Huawei Super Device จะต้องอยู่ในวงเครือข่ายเดียวกัน เช่น หากใช้งานที่บ้าน ก็ต้องต่อ Wi-Fi เดียวกัน เป็นต้น เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเน็ตเวิร์คเดียวกันเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเปิด Huawei Share ก็จะเห็นอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน Huawei Super Device แสดงขึ้นมา ให้เราเลือกเชื่อมต่อ เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ
Huawei MatePad 11 จะรองรับการทำงานทั้งหมด 3 โหมด ดังนี้
Mirror Mode
เป็นการสะท้อนหน้าจอจากโน้ตบุ๊คมาแสดงบนหน้าจอแท็บเล็ต หรือเรียกง่ายๆ ว่าหน้าจอทั้ง 2 จะแสดงผลเหมือนกันครับ ในโหมดนี้จะเหมาะมากสำหรับการใช้ MatePad 11 เป็นหน้าจอสำหรับใช้งานสไตลัส เหมาะสำหรับนักออกแบบ หรือกราฟฟิกดีไซน์ เป็นต้น
Extend Mode
ในโหมดนี้จะเป็นการเพิ่มหน้าจอที่สองบนแท็บเล็ตครับ คล้ายกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มี 2 หน้าจอต่อกันนั่นเอง ตรงนี้จะช่วยให้เราเพิ่มหน้าจอสำหรับทำงานนอกสถานที่ได้สะดวกกว่าการพกมอนิเตอร์ที่ 2 ออกไปทำงานนอกบ้านแน่นอน แถมยังเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้เราสามารถพรีเซ็นต์งานได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
Collaborate Mode
ในโหมดนี้จะช่วยให้แต่ละอุปกรณ์สามารถโอนไฟล์จากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่งได้เหมือนเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันเลยครับ ความเร็วในการรับส่งไฟล์ก็ถือว่ารวดเร็วมาก ไฟล์ใหญ่ระดับ GB สามารถโยนหากันได้ในเวลาไม่ถึงนาที จะเป็นภาพนิ่ง คลิปหนัง หรือซีรีย์ที่ชอบ ก็ส่งผ่านกันได้อย่างไร้รอยต่อ
และหากเราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอย่างเช่น Huawei P50 Pro ก็จะสามารถควบคุมโทรศัพท์ได้จากหน้าจอโน้ตบุ๊คเลยครับ รวมถึงการใช้งาน Video Call จากโทรศัพท์ ก็สามารถใช้กล้องจากโน้ตบุ๊คแทนได้ ทำให้แทบไม่ต้องจับโทรศัพท์เลยครับ เพราะทุกอย่างสามารถทำได้จากหน้าจอโน้ตบุ๊คเลย
สำหรับการใช้งาน Huawei Super Device กับลำโพงบลูทูธ Huawei Sound Joy การเชื่อมต่อจะสามารถทำได้อย่างง่ายดายมากครับ แค่เพียงเปิดลำโพงใกล้ๆ กับ Huawei MateBook D 14 จากนั้นจะมีเมนูการเชื่อมต่อด่วน หรือ Pop-Up Pairing แสดงขึ้นมาให้เรากดเชื่อมต่อเลยครับ ง่ายมาก
และไม่ใช่จะง่ายเฉพาะกับลำโพงบลูทูธนะครับ การจับคู่กับหูฟังไร้สาย เมาส์ไร้สาย หรือคีย์บอร์ด ก็ง่ายด้วยเช่นกัน
และไม่ใช่แค่ 1 หากเรามีลำโพง Huawei Sound Joy 2 ตัว สามารถจับคู่ให้เป็น Stereo ได้ครับ โดยใช้วิธีการ Pairing ลำโพงเข้าด้วยกันง่ายๆ ด้วยการเขย่าลำโพงใกล้ๆ กัน เท่านี้ก็จะได้ลำโพงคุณภาพสูงจาก Devialet มาดูหนังมันส์มาก ให้ระบบเสียงที่ดุดัน มีพลัง จะฟังเพลง หรือดูซีรีย์ก็สนุกได้อารมณ์สุดๆ
สำหรับท่านที่สนใจการใช้งาน Huawei Super Device เพื่อไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้สามารถทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล ไร้รอยต่อ สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของ Huawei ได้เลยครับ
- Huawei MateBook D 14 มีราคาอยู่ที่ 24,990 บาท
- Huawei MatePad 11 มีราคาอยู่ที่ 15,990 บาท
- และสำหรับ Huawei Sound Joy จะวางจำหน่ายวันนี้เป็นวันแรก โดยมีราคาอยู่ที่ 4,999 บาท
Huawei Online Store https://bit.ly/3xcEWxn
Shopee https://bit.ly/3xiDWrT
Lazada https://bit.ly/3Jgka2x
JD Central https://bit.ly/3usWHa5