ชวนคุยกันก่อน
รีวิว realme Buds Air 3 - สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิว Gadget ใหม่ๆ ที่น่าสนใจกับ พี่หมี TechXcite กันอีกครั้งนะครับ วันนี้เรามีโอกาสได้รีวิวหูฟังบลูทูธรุ่นใหม่คือ realme Buds Air 3 รุ่นอัพเกรดใหม่จาก realme Buds Air 2 รุ่นขายดีของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่คุณภาพเสียงที่ดี มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ในราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับ realme Buds Air 3 รุ่นใหม่นี้ดูเหมือนว่าจะยังคงคุณสมบัติเด่นจากรุ่นก่อนอย่างครบถ้วนครับ และมีการปรับปรุงดีไซน์การออกแบบใหม่ที่ดูแตกต่างขึ้นเล็กน้อย เช่น มีก้านหูฟังที่สั้นลง เป็นต้น แต่ด้านการใช้งานจริง หูฟังรุ่นนี้จะเทียบกับรุ่นปีก่อนได้หรือไม่ รวมไปถึงจะเทียบกับหูฟังคู่แข่งในตลาดตอนนี้ที่มีเยอะมากๆ ได้หรือไม่ เราไปติดตามกันในรีวิวครับ
Unboxing
- หูฟัง realme Buds Air 3
- สายชาร์จ USB-C
- เคสชาร์จ
- ปลายหูฟังซิลิโคน 3 คู่ (L/M/S) ที่ใส่อยู่ในหูฟังมาแล้วคือไซส์ M
- คู่มือ และใบรับประกัน
สเปค realme Buds Air 3
- ขนาดไดร์เวอร์ 10 มม.
- รองรับระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และ Environment Noise Cancellation
- Audio Codecs AAC, SBC
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- กันน้ำกันฝุ่น IPX5 (เฉพาะส่วนของหูฟังเท่านั้น)
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 7 ชั่วโมง
- เคสรองรับการชาร์จหูฟังอย่างรวดเร็ว ชาร์จ 10 นาที ฟังต่อได้ 100 นาที
- ราคา 1,999 บาท
Design การออกแบบ
realme Buds Air 3 ยังคงมาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่คุ้นเคยจากรุ่นก่อนครับ โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ ก้านหูฟังที่มีความสั้นลง ซึ่งช่วยให้ Buds Air 3 มีน้ำหนักเบาลง และได้พอดีมากขึ้น รวมถึงยังมาพร้อมข้อดีคือให้จุกซิลิโคนหลายขนาดสำหรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน
ดีไซน์ของเคส ทางด้านโลโก้ realme ถูกย้ายจากตรงกลางเคสไปที่ด้านบนของฝา และมีพลาสติกใสอยู่ด้านหน้าทำให้ดูสวยงามมีเอกลักษณ์มากขึ้น โดยสีที่เราได้มารีวิวนี้เป็นสี Starry Blue ซึ่งจริงๆ ยังมีสีขาว Galaxy White ให้เลือกด้วยครับ อย่างไรก็ตาม วัสดุส่วนใหญ่ของหูฟังเอียร์บัดจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก (ซึ่งหูฟังส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้นะ) งานสัมผัสเป็นแบบขัดมันผสานแบบด้านในบางส่วน โดยรวมดูแล้วสวยงามน่าใช้ครับ ดีไซน์แน่นหนา ดูทนทาน และที่สำคัญมันกันน้ำได้ที่ IPX5 ด้วยครับ ดังนั้นจะไม่กลัวน้ำกลัวฝน ใส่ออกกำลังกายสบายครับ
ด้านบนดีไซน์สวยหรู ดูดีทีเดียว
ปุ่ม Pairing อยู่บริเวณด้านข้างครับ
พอร์ตชาร์จเป็น USB-C ช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้น
ตัวหูฟังน้ำหนักเบา และมีขนาดกะทัดรัด
Feature คุณสมบัติ
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับฟีเจอร์เกินราคามากครับ อย่างแรกเลยเป็นระบบตัดเสียงรบกวน ANC แบบ Adaptive รองรับการจับคู่หลายอุปกรณ์ โหมดการเล่นเกมความหน่วงต่ำ Low Latency และโปรไฟล์เสียงที่ปรับแต่งได้ รองรับการจับคู่ผ่าน Bluetooth 5.2 และรองรับตัวแปลงสัญญาณเสียง SBC และ AAC และสามารถรีดพลัง Dolby Atmos ด้วยโปรไฟล์สำหรับการชมภาพยนตร์ ฟังเพลง และเล่นเกม รวมถึงมีโหมดอัจฉริยะที่จะเลือกสภาวะที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของคุณ
บนหูฟังเอียร์บัดแต่ละข้างมีไมโครโฟนคู่ ทำงานร่วมกับระบบป้องกันเสียงรบกวน ANC รอบข้างได้ 42dB ที่สามารถใช้งานได้ดีครับ สามารถป้องกันเสียงรบกวนคงที่ในช่วงความถี่ต่ำลงได้ นอกจากนี้ยังสามารถตัดเสียงลมได้ดี รวมถึงสามารถสลับไปมาระหว่างโหมด transparency mode ซึ่งทำให้เราได้ยินเสียงแวดล้อมมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางครับ
realme Buds Air 3 ยังรองรับการจับคู่แบบหลายอุปกรณ์ สูงสุดสองเครื่อง และตัวหูฟังมีระบบตรวจจับการใส่หูฟังอยู่ด้วย เวลาที่เราถอดหูฟัง เพลงหรือมีเดียที่เราดูอยู่ก็จะหยุดด้วย ก็สะดวกดี
การควบคุมจะเป็นแบบระบบสัมผัส ซึ่งจากที่ใช้งานก็แม่นยำครับ อาจมีดีเลย์บ้างบางครั้ง แต่โดยรวมก็ถือว่าใช้งานได้ดี และผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าการแตะ 2 หรือ 3 ครั้งเพื่อเปิดฟังค์ชั่นลัดได้ และรองรับการทำงานได้ทั้งบนอุปกรณ์ Android และ iOS
นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน realme Link เพื่อไปใช้คุณสมบัติเพิ่มเติมมากมาย เช่น ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่สำหรับทั้งหูฟังและเคส การสลับสำหรับโหมดการตัดเสียงรบกวน โปรไฟล์เสียงที่ปรับแต่งได้ตามการ และโหมดเกม ที่มีเวลาแฝงต่ำถึง 88 มิลลิวินาที เป็นต้น
Sound Quality คุณภาพเสียง
ทางด้านคุณภาพเสียงของ realme Buds Air 3 หูฟังสามารถให้พลังเสียงที่ดัง และหนักแน่น ผ่านไดรเวอร์ไดนามิก 10 มม. ให้เสียงเบสที่ดี ในขณะที่มีเสียงสูงและเสียงกลางที่ชัดเจน โดยรวมถือเป็นหูฟังที่ให้เสียงย่านต่างๆ ในระดับที่สมดุลครับ มีปริมาณเบสที่เหมาะสม ไม่บดบังเสียงย่านอื่น ทำให้เป็นหูฟังที่ฟังสนุก เสียงดีมากรุ่นหนึ่งในราคาระดับ 2 พันบาทนี้เลย
การทดสอบของผู้รีวิว จะใช้การฟังเสียงจาก source ไฟล์หลายรูปแบบครับ เช่นกัน ดูวิดีโอ YouTube เกม และเปิดพอดแคสต์ หูฟังสามารถทำงานได้ดีมากสำหรับในแต่ละสถานการณ์ มีการเชื่อมต่อที่เสถียร เชื่อถือได้ ระบบการตัดเสียงรบกวน ANC ทำงานได้ดีด้วยเช่นกัน
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับโปรไฟล์เสียง 3 แบบ คือ Balanced, Bass Boost+ และ Bright โดยในตัวเลือกหลังนี้ถูกเลือกให้เป็นค่าเริ่มต้น โดยส่วนตัวผู้รีวิวค่อนข้างชอบโหมด Bright นี้เป็นพิเศษครับ เพราะถือว่าเป็นโหมดที่ฟังสบาย ไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งเกินไป แต่ถ้าอยากสัมผัสเบสที่นุ่มลึกยิ่งขึ้น แนะนำไปโหมด Bass Boost+ ก็จะให้พลังเสียงเบสมากกว่านั่นเอง นอกจากนี้ realme ยังให้คุณสามารถปรับแต่งเสียงเองได้ด้วย และบันทึกเก็บไว้ฟังส่วนตัวได้
สำหรับขนาดของจุกหูฟัง realme Buds Air 3 ที่ผู้รีวิวเลือกใช้จะเป็นขนาดกลาง หรือที่ใส่มาพร้อมกับหูฟังนั่นล่ะครับ เพราะรู้สึกว่าพอดีสำหรับผู้รีวิวมากที่สุด แต่ใครที่อยากได้ขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถไปที่ S หรือ L ได้ตามชอบ บอดี้มีน้ำหนักเบา ทำให้ใช้งานได้หลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกอึดอัด ตัวเคสมีขนาดกะทัดรัดและเบา ใส่ในกระเป๋าเล็กๆ สบาย
คุณภาพการโทรก็ถือว่าดีครับ เสียงดังฟังชัดสำหรับทั้งผู้โทรและปลายสาย โดยรวมก็ถือว่าผ่าน ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไร
Battery การใช้พลังงาน
สำหรับแบตเตอรี่บน realme Buds Air 3 ทั้งในหูฟังและเคสรวมกันแล้วจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 30 ชั่วโมงด้วยการปิด ANC ครับ และประมาณ 22 ชั่วโมงสำหรับการเปิด ANC
และถ้านับระยะเวลาการฟังเฉพาะบนหูฟัง จะได้อยู่ราว 5.5 ชั่วโมงสำหรับการเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวน ANC ซึ่งถือว่าเยอะระดับต้นๆ ของหูฟังประเภท TWS แบบนี้ครับ โดยในหูฟังแต่ละข้างจะมีแบตเตอรี่ขนาด 43mAh ในขณะที่เคสมี 460mAh
นอกจากนี้หากแบตเตอรี่เหลือน้อย หูฟังมีระบบชาร์จเร็วด้วยนครับ โดยการชาร์จ 10 นาที จะทำให้คุณเล่นเพลงต่อได้นานอีก 100 นาที ในขณะที่การชาร์จเต็มจะใช้เวลา 100 นาทีเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ได้ครับ
Conclusion สรุป
โดยสรุปนะครับสำหรับการรีวิวหูฟัง realme Buds Air 3 หากคุณกำลังมองหาหูฟัง TWS ที่มีคุณภาพเสียงที่ดี คุ้มค่าเกินราคาค่าตัว โดยมาพร้อมการตัดเสียงรบกวน ANC ที่มีพลัง และคุณสมบัติฟีเจอร์ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ และใช้งานได้ทั้งบน Android และ iOS แล้วล่ะก็ หูฟัง realme Buds Air 3 ถือเป็นหูฟังที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งของงบประมาณระดับนี้เลยครับ โดยมาพร้อมดีไซน์ที่เพรียวบางและน้ำหนักเบาสบาย ใส่แล้วสบายหู ใส่นานได้ไม่เมื่อยเร็ว และที่สำคัญ แบตเตอรี่ถือว่าถือว่าอึดเอาเรื่องเลยครับ
หูฟังรุ่นนี้ถือว่ามีความน่าสนใจมาก เพราะ realme สามารถก้าวข้าม Buds Air 2 รุ่นก่อนหน้าที่แข็งแกร่งอยู่แล้วได้ โดยนำเสนอระบบ ANC ที่ดีกว่า การออกแบบที่เบากว่า และกะทัดรัดกว่า รวมถึงมีพลังเสียงที่สมดุล และมีฟีเจอร์มากมาย แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากหูฟังที่มีตัวแปลงสัญญาณบิตเรตที่สูงกว่า เช่น aptX หูฟังรุ่นนี้ก็อาจไม่รองรับในจุดนี้ครับ แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ก็ถือว่าหาตัวจับยากแล้วครับในงบระดับนี้
โดย realme Buds Air 3 เปิดตัวที่ราคาเพียง 1,999 บาทเท่านั้น แต่ได้หูฟังมี ANC ระดับนี้ถือว่าคุ้มค่าน่าใช้มากทีเดียว
สำหรับการรีวิววันนี้ก็ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ :D