Black Shark 5 Pro หนึ่งในสุดยอด Gaming Smartphone ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 และยังมีน้องๆตามมาอีกรุ่นที่ใช้งานชิปประมวลผล Snapdragon 888+ และ Snapdragon 870
Black Shark 5 Pro
จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้วใช้ panel จอแบบ AMOLED รองรับ HDR10+ มีเซ็นเซอร์วัดแสงสว่างอยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่องหนึ่งคู่ดังนั้นมันจึงสามารถปรับแสงสว่างของหน้าจออย่างอัตโนมัติได้ละเอียดมากอัตรารีเฟรชจอจะอยู่ที่ 144 hz พร้อมอัตรา sampling Rate อยู่ที่ 720 hz ชิปประมวลผลแน่นอนมันต้องเป็น Snapdragon 8 Gen 1 ที่มีการปรับแต่งระบบระบายความร้อนเป็นแบบไอน้ำแยกเป็น 2 ห้องแต่ละห้องจะมีขนาด 4,323 มม.² + 997 มม.² จับคู่กับ Ram ขนาด 16 GB แบบ LPDD5 ให้ความเร็วในการเขียนอ่านอยู่ที่ 6,400Mbps
แต่ที่น่าสนใจจริงๆมันคือเรื่องของหน่วยเก็บข้อมูลภายในที่มันจะใช้เป็นแบบ NVMe SSD + UFS 3.1 โดยแต่ละตัวนั้นจะมีความจุอยู่ที่ 256 GB เมื่อนำมาจับรวมกันแล้วจะอยู่ที่ 512 GB Xiaomi ได้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า DM Cache หรือถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คล้ายๆกับการตั้งค่า RAID 0 ที่มันจะทำความเร็วในการเขียนอ่านได้อย่างเร็วมาก
แบตเตอรี่จะมีความจุ 4,650 มิลลิแอมป์รองรับการชาร์จที่ 120 วัตต์สามารถชาร์จ 0-100 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 15 นาทีพร้อมกับระบบควบคุมอุณหภูมิของตัวแบตเตอรี่ถ้าหากว่ามันตรวจพบความร้อนที่สูงเกินไปมันก็จะปรับลดกำลังไฟให้ต่ำลงทำให้ช่วยยืดอายุในการใช้งานแบตเตอรี่ออกไปได้แถมเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยในการควบคุมเวลาที่เราเสียบชาร์จไฟพร้อมกับเล่นเกมแน่นอนครับการกระทำเช่นนี้มันทำให้แบตเตอรี่และตัวเครื่องมีความร้อนสูงเทคโนโลยีนี้ก็จะเข้ามามีบทบาทในการควบคุมความร้อนเช่นกัน
กล้องหลังจะมีกล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเซ็นเซอร์จะมีขนาดใหญ่ถึง 1/1.52 ตามมาด้วยกล้องมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซลให้มุมมองถึง 120 องศาและกล้องตัวสุดท้ายจะเป็นกล้องมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล การวางจำหน่ายน้ำจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 เมษายนนี้พร้อมด้วยราคาเริ่มต้นที่ 4, 200 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 22,000 บาทพร้อมตอนนี้พวกเขาได้เปิดให้รับจองแล้ว ค่าจองจะอยู่ที่ 100 หยวนครับ
Black Shark 5 RS
เห็นชื่อแบบนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Honda Civic 1.5 RS Turbo นะครับ แต่มันเป็นพี่กลางของตระกูลนี้หน้าจอของมันจะมีขนาด 6.6 นิ้วใช้ panel จอ AMOLED ให้ความสว่างสูงถึงหนึ่ง 1,300 nits มีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 144 hz พร้อมอัตรา Sampling Rate 720 hz ชิปประมวลผลจะเลือกใช้เป็น Snapdragon 888+ จับคู่กับ Ram ขนาด12 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256 GB แต่โดยส่วนใหญ่แล้วภายในทั้งหมดถ้าไม่รับชิปประมวลผลทุกอย่างก็แทบจะเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลที่เป็น NVMe SSD+UFS 3.1 นั่นแหละครับ
แบตเตอรี่จะมีขนาดที่เล็กลงมากว่ารุ่นพี่เล็กน้อยโดยมันจะมีความจุอยู่ที่ 4,500 มิลลิแอมป์รองรับการชาร์จที่ 120 วัตต์และสามารถชาร์จ 0-100% ได้ในเวลา 15 นาทีเท่ากันกล้องหลังตัวกล้องหลักจะถูกลดความละเอียดให้เหลือเพียง 64 ล้านพิกเซล กล้องมุมกว้างจะมีความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซลมุมมองตามสภาพ 120 องศาและกล้องมาโคร 5ล้านพิกเซลเหมือนกันครับทางด้านราคาจะถูกเปิดตัวออกมาที่ 3300 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 17,000 บาท
Black Shark 5
น้องเล็กของตระกูลที่ตัวนี้จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6. 6 นิ้วเท่ากันใช้ panel จอแบบ AMOLED ที่มีอัตรา Refresh Rate 144 hz และอัตรา sampling Rate 144 Hertz ชิปประมวลผลจะเลือกใช้ไป Snapdragon 870 มีแรมให้เลือก 2 ขนาดคือ 8 GB และ 12 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในจะเป็น UFS 3.1 อย่างเดียวเท่านั้นส่วนความจุก็จะมีให้เลือก 2 ขนาดอีกเช่นการประกอบไปด้วย 128 GB และ 256 GB
กล้องหลังจะมีกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซลกล้องมุมกว้างที่มีองศาการรับภาพอยู่ที่ 120 องศาและกล้องมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเหมือนกันกับพี่กลางแทบจะทุกอย่างจนกล้องเซลฟี่จะมีความดีที่ 16 ล้านพิกเซลแบตเตอรี่จะมีความจุเท่ากับพี่ใหญ่ก็คือ 4,650 มิลลิแอมป์รองรับการชาร์จที่ 120 วัดสามารถชาร์จไฟเต็มได้ภายใน 15 นาทีเท่ากันส่วนราคาจะถูกเปิดตัวออกมาที่ 2700 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 9,000 บาทเรียกว่าราคาน่ารักที่สุดในตระกูลเลยก็ว่าได้นะครับได้ทุกรุ่นย้ำนะครับว่าจะถูกวางขายในวันที่ 2 เมษายนนี้ที่ประเทศจีน
ยังไม่จบเพราะพวกเขาได้เปิดอุปกรณ์เสริมที่เอาไว้ใช้งานร่วมกับมันออกมาด้วยนั่นก็คือหูฟัง Black Shark Wireless ตัวนี้จะใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon Sound มี Driver ขนาด 12 มิลลิเมตรและระบบการตัดเสียงรบกวนแบบ Active หรือ Active noise cancellation ที่ลดเสียงรบกวนได้ถึง 40 DB พร้อมกับ latency เพียง 85 ms มันกันน้ำได้ในระดับ ipx4 แต่อายุการใช้งานของมันจะอยู่ที่ 30 ชั่วโมงเมื่อแบตหมดแล้วเพียงแค่นำกลับไปใส่ใน Case มันก็จะใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นแล้วก็จะใช้งานต่อได้อีกถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ราคาของมันจะถูกเปิดตัวออกมาที่ 450 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2,400 บาทเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมีที่ชาร์จแบบ GaN สามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 120 วัตต์ในราคา 300 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,600 บาทส่วนที่ชาร์จความเร็ว 30 วัตต์ จะมีราคา 70 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 370 บาทและสุดท้ายพัดลมระบายความร้อนที่เอาไว้แปะด้านหลังแบบ snap on จะมีราคาเปิดตัวออกมาที่ 220 หยวนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,500 บาทแต่พวกเขามีโปรโมชั่นถ้าจองเครื่องในตอนนี้ก็แถมฟรีไปเลยกับพัดลมระบายความร้อนแบบ snap on
ที่มา : gsmarena