Introduction

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G - ช่วงนี้ถือว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถือว่าดุเดือดจริงๆ ครับ เพราะช่วงต้นปีแบบนี้ แต่ละค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างปล่อยของดี คัดทีเด็ดของตัวเองที่ถนัด ลงชูจุดขายกันอย่างถ้วนหน้า ใครที่ถนัดเรื่องเกม ก็ยัดชิปเซ็ตกันแบบไม่มีกั๊ก ส่วนค่ายที่ถนัดเรื่องกล้อง ก็พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ และซอทฟ์แวร์กันแบบถ่ายสวยจนผู้ใช้แทบไม่ต้องพกพากล้องใหญ่ DSLR สำหรับการท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว เพราะสามารถใช้สมาร์ทโฟนกดหยุดช่วงเวลาสำคัญๆ ได้อย่างสวยงาม พร้อมแชร์ให้โลกโซเชียลได้กดไลค์กดแชร์อย่างสะดวกมาก

และวันนี้ พี่หมี TechXcite ก็ได้มีโอกาสรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นระดับกลางตัวขายดีของค่ายออปโป้ นั่นก็คือ OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยภายใต้ Reno-Series ที่ขึ้นชื่อด้านการเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่ให้สเปคและฟีเจอร์สุดคุ้ม ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

เกริ่นคร่าวๆ กันก่อนว่า OPPO Reno7 Z 5G ตัวนี้มาพร้อมสโลแกน "The Portrait Expert" ดังนั้นตั้งตารอชมคุณภาพของกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ดีครับ รวมถึงดีไซน์การออกแบบที่สวยสะดุดตา จนแทบจะให้ look and feel ระดับพรีเมี่ยมเรือธงไปแล้ว ส่วนทางด้านสเปคก็ให้มาระดับ premium mid-ranger ดังนั้นเรื่องเกม เรื่องกราฟฟิกก็สบายหายห่วงเช่นกัน ว่าแล้วก็ไม่รอช้า เราไปชมการรีวิวกันได้เลยครับ

สเปค OPPO Reno7 Z 5G

อุปกรณ์ในกล่อง

• สมาร์ทโฟน OPPO Reno7 Z 5G 
• สาย USB cable 
• หัวชาร์จ Charger 
• เข็มจิ้ม SIM 
• Protective case 
• คู่มือใช้งาน และใบรับประกันต่างๆ

ให้หัวชาร์จ SUPERVOOC 33W มาให้ในกล่องเลยครับ ชาร์จเร็วทันใจแน่นอน

ในกล่องยังแถมเคสใสมาให้นะ ใส่แล้วก็จะสวยแบบนี้เลยครับ ดีเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มเอง

ดีไซน์การออกแบบ

OPPO Reno7 Z 5G อย่างที่เรากล่าวไปด้านบนครับ ว่าดีไซน์การออกแบบของรุ่นนี้มาในแนวทันสมัย ดูสวยหรูพรีเมี่ยมตามเทรนด์ตลาด มาพร้อมขอบตัวเครื่องที่แบนเรียบ เป็นเหลี่ยมมุมมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มสัมผัสให้ยกระดับไปอีกขั้นสไตล์ Ultra-Slim Retro Design

ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวนี้จะเป็นสีดำด้าน Cosmic Black ที่ให้ look and feel ดูเรียบหรู สวยงาม แต่ดูคลาสสิค พื้นผิวด้านหลังเป็นแบบด้าน ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย รวมถึงยังมีความพิเศษตรงที่พื้นผิวจะมีการเคลือบทับให้ดูระยิบระยับ เล่นแสงไฟได้ ที่ทางผู้ผลิตเรียกนวัตกรรมนี้ว่า OPPO Glow ที่ยิ่งดูหรูหรามากยิ่งขึ้นครับ

ส่วนการออกแบบบริเวณด้านหน้า ขอบหน้าจอจะมีความโค้งมนมากกว่า ทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้ถึงความลื่นไหลในทุกสัมผัส กล้องหน้าของรุ่นนี้จะเป็นแบบเจาะรู punch-hole วางอยู่บริเวณมุมบนซ้ายของหน้าจอ โดยขอบหน้าจอของรุ่นนี้ก็มีความบางมาก คือมีอัตราส่วนต่อหน้าจออยู่ที่ 90.8% และมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ใต้หน้าจอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำเครื่องหนา เหมือนหลายรุ่นที่ใช้ปุ่ม Power เป็นที่สแกนนิ้วครับ ยิ่งทำให้รุ่นนี้ให้ความรู้สึก Sexy บางเฉียบเข้าไปอีก

ส่วนลำโพงเสียงของรุ่นนี้จะมีจุดเดียว คือบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องครับ ซึ่งวางอยู่ข้างพอร์ต USB-C ไมค์ และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. สำหรับคนรักเสียงเพลง

บริเวณด้านบนก็ไม่มีอะไรพิเศษครับ ยกเว้นไมค์อีกตัว

ที่ด้านซ้ายมีปุ่มควบคุมเสียง ถัดจากช่องใส่ซิมการ์ด

ที่ด้านขวา มีปุ่ม Power เพียงปุ่มเดียวเท่านั้น

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ และทำให้ทีมงานเราชื่นชมอย่างมาก คือบริเวณด้านหลังครับ เพราะเมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับตัวเครื่อง บริเวณวงกลมกล้องวงใหญ่ที่ด้านหลัง จะเปร่งแสงโทนสีฟ้า ซึ่งจะสามารถแสดงได้หลายเฉดสีตามสถานะการณ์ที่แตกต่างกัน เช่น สีน้ำเงิน สีฟ้าอ่อน หรือฟ้าโทนต่างๆ โดยไฟตัวนี้ก็แสดงผลคล้ายกับการแจ้งเตือนครับ เช่น ตอนเปิดเครื่อง ขณะชาร์จ รับสายเรียกเข้า เปิดเกม หรือแจ้งเตือนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน เป็นต้น ซึ่งออปโป้เรียกตรงนี้ว่า Dual Orbit Lights ที่อาจดูเหมือนเป็นไฟเสริมลูกเล่น เล็กๆ น้อยๆ แต่แสดงถึงความเอาใจใส่ของแบรนด์ต่อการออกแบบที่หรูหราครับ ตรงนี้ชอบเลย

และนอกจากบอดี้ที่สวยงามแล้ว สมาร์ทโฟนยังได้รับการการันตีในระดับ IP Rating ที่ IPX4 ซึ่งอยู่ในระดับการกันละอองน้ำ หรือฝนตกเบาๆ ได้ครับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนจะไม่เสียหาย หากเจอเจ้าตัวเล็กที่บ้านซุ่มซ่าม ทำน้ำหกใส่ เครื่องก็ไม่พังอีกด้วย

รวมถึงจุดเด่นของรุ่นนี้ที่ทำให้ OPPO Reno7 Z 5G โดดเด่นกว่ารุ่นระดับกลางตัวอื่น คือมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ให้สีสันสวยสด สมจริงครับ โดยมีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ที่แน่นอนว่าหน้าจอ AMOLED จะสามาระแสดงสีสันที่สดใสมากกว่าจอ LCD แน่นอน รวมถึงการแสดงคอนเท้นต์ระดับ HD ร่วมกับแอปอย่าง YouTube หรือ Netflix ก็เข้ากันได้อย่างพอดี ตรงนี้ใครชอบดูหนัง ฟังเพลงบนมือถือ หรือดูซีรีย์ดัง รับประกันว่ารุ่นนี้ไม่น่าจะทำให้ผิดหวังครับ

Photography กล้องถ่ายภาพ

ต่อไปก็มาสู่เรื่องสำคัญ เรื่องกล้องถ่ายภาพกันครับ ซึ่งจากสโลแกน The Portrait Expert ของ OPPO Reno7 Z 5G แน่นอนว่ากล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะเน้นการถ่ายภาพบุคคล หรือพอร์ตเทรดเป็นหลักแน่นอนครับ โดยกล้องของรุ่นนี้มีสเปคดังนี้

กล้องหลัก จะมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.7 มุมมองกว้าง 79 องศา ใช้เลนส์แบบ 6 ชิ้น รองรับการโฟกัสอัตโนมัติ

ถัดมาเป็นกล้อง Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.4 มุมมองกว้าง 89 องศา ใช้ชิ้นเลนส์ 3 ชิ้น และรองรับการโฟกัสคงที่

และสุดท้าย กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.4 มุมมองกว้าง 89 องศา ใช้ชิ้นเลนส์ 3 ชิ้น และรองรับการโฟกัสคงที่

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ให้มาที่ 16 ล้านพิกเซล f2.4 มุมมองกว้าง 79 องศา และใช้ชิ้นเลนส์ 5 ชิ้น ซึ่งตัวกล้องหน้านี้จะใช้ในการสแกนใบหน้า Face Unlock ด้วยครับ

ซึ่งไฮไลท์หลักของกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนคือฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait ที่ช่วยเบลอพื้นหลังอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงช่วยสร้างไฟโบเก้ให้สวยอัตโนมัติ ตรงนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพบุคคลเพื่อรวมจุดโฟกัสมาที่ตัวแบบอย่างเต็มที่ พร้อมเบลอฉากหลังได้อย่างนุ่มนวล สวยงาม สร้างภาพถ่ายพอร์ตเทรตอย่างมืออาชีพราวกับถ่ายด้วยกล้องโปร DSLR คมชัดแม้กระทั่งเส้นผม ซึ่งสามารถถ่ายได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ สองภาพบนนี้เป็นภาพที่ถ่ายจาก OPPO Reno7 Z 5G โดยภาพบนเป็นภาพที่เปิด Bokeh Flare Portrait และภาพล่างเป็นการถ่ายภาพธรรมดา จะเห็นว่าภาพบนมีการเบลอฉากหลังอย่างสวยงาม แยกตัวแบบออกจากฉากได้อย่างแม่นยำครับ ส่วนภาพล่างก็จะเป็นการถ่ายภาพในโหมด Photo ปกติ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพนางแบบ และเก็บฉากหลังเป็นบรรยากาศด้วย

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Portrait Retouching ที่สร้างเอฟเฟคการปรับสภาพผิวหน้า โทนสีผิว หรือแต่งหน้าสวยให้กับแบบอย่างเป็นธรรมชาติด้วย AI อัลกอริทึมที่ชาญฉลาด และยังมีระบบ Selfie HDR ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยทำได้ง่ายมากขึ้นแม้ในที่แสงน้อย เพิ่มช่วงไดนามิกของภาพ ทำให้เก็บรายละเอียดของใบหน้า และพื้นหลังได้อย่างสวยงาม

ลองชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องได้ด้านล่างนี้เลยครับ

ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม

OPPO Reno7 Z 5G ยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับกลางครับ เพราะให้ชิปประมวลผล Snapdragon 695 5G จาก Qualcomm ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม 6nm ในการผลิต เป็นชิปแบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 619 ที่เร็วและแรงมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังให้ RAM มาจุใจที่ 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB แบบ UFS 2.2 ถ้าแค่นี้ยังไม่เพียงพอ ก็สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกด้วย microSD Card ได้อีกครับ รับประกันว่าจะสามารถเก็บหนัง เก็บเพลงได้เยอะจุใจกันอย่างแน่นอน

ส่วนประสิทธิภาพการประมวลผล สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เพราะมาพร้อมทั้ง AI System Booster, AI Frame Rate Stabilizer, Quick Startup และ Game Focus Mode ที่เป็นซอฟท์แวร์พิเศษของค่าย ช่วยยกระดับการเล่นเกมให้ไหลลื่นมากขึ้น ดึงประสิทธิภาพการประมวลผลถึงขีดสุด และลดการรบกวนที่ไม่จำเป็นต่อการเล่นเกมให้มากที่สุด ทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งในการแข่งขันมากขึ้นด้วยครับ

จากที่เราทดสอบการเล่นเกมยอดนิยมอย่าง RoV และ PUBG Mobile สมาร์ทโฟนสามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล เต็มประสิทธิภาพ เฟรมเรทขณะเล่นเกมถือว่าทำได้นิ่งมากครับ ซึ่งหากเล่นสองเกมนี้ได้สบายแล้วล่ะก็ เชื่อว่าเกมอื่นในตลาดก็ไม่น่าจะมีปัญหาแน่นอน แถมขณะเล่นตัวเครื่องยังไม่ร้อนจนเกินไป แบบนี้ลุยเกมสบาย

ส่วนด้านซอฟท์แวร์ของ OPPO Reno7 Z 5G จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของออปโป้ครับ คือ ColorPS 12 บนพื้นฐานของ Android 11 มียูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่น่าใช้ ดูสวยงามสบายตามากยิ่งขึ้น และให้ฟีเจอร์ที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริง ช่วยให้เราใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบายขึ้นครับ ยกตัวอย่างเช่นฟีเจอร์อย่าง Air Gesture ที่เราสามารถควบคุมสมาร์ทโฟนได้โดยการโบกมือบนหน้าจอ โดยที่ไม่ต้องสัมผัสเลยครับ จุดนี้คนที่ชอบเปิดสูตรทำอาหารบนมือถือ แล้วทำไปพร้อมๆ กันน่าจะชอบ เพราะไม่ต้องแตะหน้าจอขณะที่มือเปื้อน เป็นต้น

นอกจากนี้จุดที่น่าสนใจของ OPPO Reno7 Z 5G คือเป็นสมาร์ทโฟนที่ผ่านการรับรองว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวๆ โดยเครื่องไม่เกิดอาการหน่วง หรือช้าง่ายๆ ซึ่งเรียกว่า TÜV SÜD  ในระดับ A Rating ซึ่งการันตีว่ามือถือจะทำงานได้ลื่นไหลได้นานกว่า 36 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของมาตราฐานแล้วครับ

แบตเตอรี่

OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ที่ถือว่าให้เยอะพอสมควรครับ สำหรับสมาร์ทโฟนดีไซน์บางๆ แบบนี้ โดยหากแบตหมดก็สามารถใช้ที่ชาร์จซึ่งให้มาในกล่องระบบ 33W SUPERVOOC มาชาร์จให้เต็มได้อย่างรวดเร็ว

โดยจากที่ทีมงานทดสอบ สมาร์ทโฟนสามารถชาร์จเต็ม 0-100% ได้ในเวลาประมาณ 63 นาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก และการชาร์จเพียง 15 นาที จะได้แบตเตอรี่ถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 31% เลยทีเดียว

และจากที่เราทดสอบการใช้งานแบบทั่วไป ถือเป็นเครื่องหลักสำหรับใช้ระหว่างวัน โทรออกรับสาย รับการแจ้งเตือน แชตต่างๆ รวมถึงมีหยิบมือถือขึ้นมาผ่อนคลาย ดูหนังบ้าง เล่นเกมบ้างเวลาว่าง และเสียบหูฟังฟังเพลงแทบทั้งวัน แบตเตอรี่สามารถรองรับการใช้งานเช้ายันเย็นได้สบายครับ แต่ถ้าเล่นเกมหนักหน่อย แบตก็หมดเร็วขึ้นเป็นธรรมดา แต่ก็ยังดีที่ออปโป้ให้ที่ชาร์จเร็วมาด้วย เสียบชาร์จไว้ ลงไปกินข้าว ทำธุระแป๊ปเดียวก็เต็มแล้ว

Conclusion สรุป

โดยสรุปนะครับ จากที่เราได้ทดสอบ OPPO Reno7 Z 5G มาระยะหนึ่ง ต้องบอกเลยครับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทำให้พวกเราทีมงานฟินได้ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะด้านการออกแบบที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจใครหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น เพราะตัวเครื่องมีดีไซน์ที่เรียบหรู ดูดี พรีเมี่ยมมาก

รวมถึงคนที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องกำลังเหมาะมือ บางกระชับ และถ่ายรูปสวย รุ่นนี้แนะนำมากครับ การถ่ายภาพโดยเฉพาะกล้องหลัง ทำให้เรื่อง Portrait เป็นเรื่องง่ายจริงๆ เบลอฉากหลังได้เนียนตา พร้อมสร้างโบเก้ที่น่าประทับใจ

ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ก็น่าสนใจครับ เช่นการรองรับการชาร์จเร็ว 33W SuperVooc ที่โดดเด่น ถ้าแบตยังไม่หมดชาร์จไม่ถึง ชม. ก็เต็มแล้ว หรือสำหรับเกมเมอร์ก็มาพร้อมชิปเซ็ตที่ไว้ใจได้ แถมรองรับการเชื่อมต่อ 5G ยืนยันได้ว่าคุณจะเล่นเกมบนเครือข่ายที่เร็วที่สุดอย่างแน่นอน

สำหรับราคาของ OPPO Reno7 Z 5G เปิดตัวในประเทศไทยแล้วที่ราคา 12,990 บาท โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วครับตั้งแต่วันที่ 3-16 มีนาคมนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มีนาคม โดยผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าในช่วงหลังเปิดตัวนี้ จะได้รับของพรีเมี่ยมจาก OPPO รวมถึงประกันจอแตกพิเศษ มูลค่ารวม 7,499 บาท กันไปเลย

สำหรับการรีวิวของพวกเราทีมงาน TechXcite ก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ :D

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/3GLmWLF

 #OPPOReno7Z5G 

 #ThePortraitExpert 

 #เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรต