มีรายงานล่าสุดในกรณีการลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ปี 2565 ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในการประชุมเกี่ยวกับวาระการประชุมของกระทรวงพลังงานที่จะเสนอมติต่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติซึ่งจะเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV ทั้งระบบเช่นรถเก๋งไฟฟ้า, ทั้งระบบเช่นรถเก๋งไฟฟ้ารถ ทั้งระบบเช่นรถเก๋งไฟฟ้ารถกระบะไฟฟ้าและซึ่งทั้งหมดได้มีการอนุมัติตามที่เสนอแล้ว
โดยมาตรการจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงได้แก่ในช่วงปี 2565 ถึงปี 2568 จะส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้แก่
เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์กระบะไฟฟ้าคันละ 70,000 - 150,000 บาทต่อคันและรถจักรยานยนต์มูลค่า 18,000 บาทต่อคัน
ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2 เปอร์เซ็นต์และรถกระบะเป็น 0%
ลดภาษีขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคันแบบ CBU สูงสุดที่ 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566
ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศแบบ ckd จำนวน 9 รายการประกอบไปด้วย
4.1 รถเก๋งไฟฟ้าราคาขายปลีกไม่เกิน 2 ล้านบาทและผลิตในประเทศลดภาษีอากรนำเข้าลง 40% ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8 เปอร์เซ็นต์เหลือ 2 เปอร์เซ็นพร้อมเงินอุดหนุน 70,000 บาทสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 30 kwhกิโลวัตต์เอาและเงินอุดหนุน 10,000 บาทสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่สูงกว่า 30 kwh
4.2 รถเก๋งไฟฟ้าที่มีราคาขายปลีก 2 - 7 ล้านบาทลดภาษีอากรนำเข้า 20 เปอร์เซ็นต์ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8 เปอร์เซ็นต์เหลือ 2% เงื่อนไขการรับสิทธิ์ผู้ประกอบการในประเทศผลิตรถยนต์ชดเชยในปี 2561 เทียบเท่ากับจำนวนที่นำเข้าภายในปี 2565 2566 อัตราส่วนนำเข้า 1 คันผลิตคืน 1.5 คัน
4.3 รถกระบะไฟฟ้าราคาขายปลีกไม่เกิน 2 ล้านบาทลดสรรพสามิต 0% เงินอุดหนุน 10,000 บาทสำหรับรถแบบ BEV ที่มีแบตเตอรี่ไม่เกิน 30 kwh และผลิตในประเทศเท่านั้น
4.4 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาขายปลีกไม่เกิน 150,000 บาทได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุน สูงสุด 18,000 บาทต่อคันทั้งแบบนำเข้าทั้งคันและประกอบในประเทศเงื่อนไขการรับสิทธิ์ผู้ประกอบการในประเทศต้องผลิตรถจักรยานชดเชยภายในปี 2561 เท่ากับจำนวนรถจักรยานยนต์ที่นำเข้าในปี 2565 ถึง 2566 อัตราส่วนนำเข้า 1 คันผลิตคือ 1.5 คัน
โดยสรุปแล้วค่ายรถที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องยอมรับเงื่อนไขได้แก่เรื่องของการผลิตรถชดเชยตามเงื่อนไขซึ่งผู้ผลิตมีสิทธิ์ที่จะผลิตรถแบบไฟฟ้า 100% หรือแบบ BEV รุ่นใดเพื่อชดเชยก็ได้ยกเว้นผู้ผลิตที่นำรถที่มีราคา 2-7 ล้านบาทเข้ามาวางจำหน่ายจะต้องผลิตรถรุ่นเดียวกันที่นำเข้ามาเพื่อชดเชยเท่านั้น
ที่มา : bangkokbiznews