เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาซัมซุงได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S22 Series อย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยคราวนี้เราจะมาแยกย่อยกันครับว่าแต่ละรุ่นมีรายละเอียดแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยเริ่มต้นกับรุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลางอย่าง Samsung Galaxy S22 และ S22+ ก่อนเลยครับ
Samsung Galaxy S22 และ S22+ สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพคู่นี้มีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะในรุ่น S22 ที่น่าจะจับกลุ่มคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปคระดับท็อป แต่มีตัวเครื่องที่กะทัดรัดมากขึ้น
Galaxy S22 และ S22+ มาพร้อมชิปเซ็ตตัวเดียวกันครับ และแน่นอนว่าบางตลาดอาจแตกต่างกันไป ซึ่งสำหรับประเทศไทยจะได้รับชิปเซ็ต 4nm Snapdragon 8 Gen 1 (บางประเทศอาจเป็น 4nm Exynos 2200) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ octa-core ที่มี Cortex-X2 หนึ่งคอร์ Cortex-A710 สามคอร์ และ Cortex-A510 สี่ตัว และทั้งคู่จะมีตัวเลือกความจำคือ RAM 8/128GB และ 8/256GB
ด้านการถ่ายภาพทั้งคู่มีกล้องที่เหมือนกันครับ คือกล้องตัวหลัก 50MP Samsung GN5 พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.57" พร้อมพิกเซล 1.0µm ที่สามารถ Pixel binning เป็นภาพ 12.5MP ที่มีพิกเซล 2.0µm ได้
นอกจากนี้ยังมีกล้องเสริมเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ระยะเลนส์มุมกว้างพิเศษ 13 มม. ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ 1/2.55" 1.4µm ที่น่าเสียดายที่ไม่รองรับการโฟกัสอัตโนมัติ ส่วนกล้องอีกตัวเป็นกล้องซูม 3x พร้อมเซ็นเซอร์ 10MP และมีกล้องหน้าโฟกัสคงที่ 10MP สำหรับเซลฟี่
ทางด้านหน้าจอ Samsung Galaxy S22 รุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้วที่สว่างและอัตราการรีเฟรชสูงขึ้น สามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้ระหว่าง 10Hz ถึง 120Hz (ในขณะที่ S21 ทำได้ที่ 48Hz-120Hz) และสามารถแสดงความสว่างสูงสุดที่ 1,300 nits
จุดแตกต่างที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ การเลิกใช้ฝาหลังพลาสติกกับซีรีส์ S ในปีนี้ครับ โดยฝาหลังของ S22 Series จะเป็นกระจกทั้งหมด Gorilla Glass Victus+ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังในทุกรุ่น อันนี้แจ่มมาก
ด้านแบตเตอรี่ Galaxy S22 มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่า 3,700mAh เมื่อเทียบกับ 4,000mAh ของ S21 รุ่นก่อน โดยจะชาร์จที่อัตราสูงสุดเท่ากันที่ 25W (รองรับชาร์จไร้สาย 15W)
ส่วนอีกรุ่น Samsung Galaxy S22+ มีจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.6 นิ้ว ที่ใหญ่กว่า มีอัตรารีเฟรชแบบไดนามิกระหว่าง 10Hz ถึง 120Hz และให้ความสว่างที่สูงกว่า 1,750 นิต
แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ 4,500mAh พร้อมการชาร์จแบบมีสายที่เร็วขึ้น 45W (ชาร์จไร้สาย 15W เช่นกัน) และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E ในขณะที่ S22 นั้นรองรับ Wi-Fi 6 เท่านั้น
มือถือกาแล็กซี่ใหม่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ Android 12 และ OneUI 4.1 จากในกล่อง รองรับ 5G ในทุกเวอร์ชัน กันน้ำกันฝุ่น IP68 และสแกนลายนิ้วมืออัลตราโซนิกของ Samsung บนหน้าจอสำหรับการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์
Samsung Galaxy S22 และ S22+ เปิดให้สั่งจองแล้วในประเทศไทยครับ โดยคาดว่าจะมีการจัดส่งจริงในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ส่วนตัวเลือกสีจะประกอบไปด้วย Phantom Black, Phantom White, Green และ Pink Gold สำหรับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ในขณะที่สีพิเศษ Cream, Graphite, Sky Blue และ Violet จะมีให้สำหรับผู้ที่สั่งซื้อผ่าน Samsung.com เท่านั้น โดยแต่ละรุ่นมีราคาดังนี้
Samsung Galaxy S22
- RAM 8+128GB ราคา 29,900 บาท
- RAM 8+256GB ราคา 31,900 บาท
Samsung Galaxy S22+
- RAM 8+128GB ราคา 34,900 บาท
- RAM 8+256GB ราคา 36,900 บาท
source: samsung, gsmarena