ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบนี้ช่วยให้ฝาหลังที่เป็นกระจกมีพื้นผิวด้านและมีลักษณะเป็นมันเงาไปพร้อมกันอย่างสวยงามลงตัว และยังมีประโยชน์ในการช่วยลดรอยนิ้วมือหรือรอยเปื้อนได้อีกด้วย
โดย OPPO กล่าวว่า “เทคโนโลยี LDI ใหม่นี้ ได้ถูกนำไปใช้บน Reno7 Series เพื่อกัดพื้นผิวที่มีขนาดเล็กถึง 20 ไมครอน บนฝาหลังกระจก AG ที่เคลือบด้วยแสง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบ PCBs ในอุตสาหกรรมการบิน”
ที่ด้านหลังของอุปกรณ์แต่ละชิ้นมีการแกะสลักไมโครทั้งหมด 1.2 ล้านครั้ง สร้างความระยิบระยับคล้ายคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเล่นแสงได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้สมาร์ทโฟนยังมาพร้อมความทนทาน โดยการใช้กรอบอลูมิเนียมน้ำหนักเบาแต่ทนทานพร้อมดีไซน์ขอบแบนบน Reno7 Pro
และจากข้อมูลที่เปิดเผยมาแล้ว จุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งของอุปกรณ์คือ หน้าจอ OLED 2.5D ขนาด 6.55 นิ้ว ที่ล้อมรอบด้วยกรอบจอที่แคบที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของ Reno Series ทำให้ Reno7 Pro มาพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.8% ที่น่าดึงดูด และยังเป็น Reno ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมกับมีน้ำหนักเพียง 180 กรัม
พร้อมกันนี้การออกแบบที่โดดเด่นอีกอย่างคือการออกแบบกล้องสไตล์ Twin Moon Camera ที่ด้านหลัง โดยส่วนบนทำจากโลหะ และส่วนล่างเคลือบด้วยเซรามิกอีกด้วย และยังมีการออกแบบ 3 มิติรอบโมดูลกล้องเป็นครั้งแรก ซึ่ง OPPO กล่าวว่าเป็นเส้นใยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 มม. โค้งโอบล้อมไปที่บริเวณกล้อง และสามารถตั้งโปรแกรมให้ปล่อยแสงที่นุ่มนวลเป็นจังหวะเมื่อมีสายเรียกเข้าหรือการแจ้งเตือนได้อย่างสวยงามอีกด้วย
source: gizmochina