Realme ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Realme GT2 Pro อย่างเป็นทางการแล้วครับ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เช่น การใช้วัสดุชีวภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตฝาครอบด้านหลัง และมีเคสที่ทำจาก กระดาษ ถั่วเหลือง และวัสดุอื่นๆ
ประโยชน์ที่ได้จากการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลต่อการออกแบบทำให้มีน้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักเพียง 189 กรัม แม้จะบรรจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh ก็ตาม อุปกรณ์ยังรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว 65W ซึ่งบริษัทเครมว่าสามารถชาร์จได้ 100% ในเวลาเพียง 33 นาทีเท่านั้น
Realme GT2 Pro มาพร้อมหน้าจอ LPTO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้วที่มีความละเอียด 2K ที่ 3216 x 1440 พิกเซล รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,400 nits จอแสดงผลมีรูเจาะที่มุมบนซ้ายสำหรับกล้องเซลฟี่ และใช้กระจกกันรอย Corning Gorilla Glas Victus
นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลยังได้รับคะแนนระดับ A+ จาก DisplayMate นอกจากนี้ หน้าจอยังรองรับเอ็นจิ้นควบคุมการเล่นเกม 1,000Hz, ตอบสนองการโอเวอร์คล็อก O-Sync 2.0 และใช้การสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลรุ่นใหม่ที่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจอีกด้วย
Realme GT2 Pro ยังถูกเรียกว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องแรกของโลกที่บรรจุมอเตอร์แนวราบแกน X ขนาดใหญ่พิเศษเจนใหม่ และใช้ระบบเสาอากาศเมทริกซ์ความเร็วเต็มรูปแบบที่ทันสมัย เช่นเดียวกับระบบเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย Wi-Fi และ NFC รอบทิศทางแบบใหม่
Realme GT2 Pro ได้รับพลังงานจากชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 5G ตัวแรงล่าสุด มีระบบระบายความร้อน Diamond Ice Core Cooling System Plus เพิ่มพื้นที่การกระจายความร้อนได้ถึง 205% พร้อมโครงสร้างการกระจายความร้อนเก้าชั้นครอบคลุมแหล่งความร้อน 100% ทำให้ประสิทธิภาพการนำความร้อนเพิ่มขึ้น 50% และสนับสนุนด้วยการออกแบบที่ลดอุณหภูมิแกนสูงสุด 19°C โทรศัพท์มีพื้นที่ระบายความร้อน 36761 มม.² ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในวงการสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการระบายความร้อนด้วยของเหลว VC แบบเทมเปอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 4129mm² อีกด้วย
สำหรับอินเทอร์เฟซ Realme GT2 Pro มาพร้อม Realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 อัปเกรด UI รวมถึงส่วนประกอบเดสก์ท็อปใหม่ในโหมด GT และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเรนเดอร์ GPU ที่ดีพร้อมกับช่วยลดการใช้พลังงาน
Realme GT2 Pro มีตัวเลือก RAM 8GB และ RAM 12GB โดยในรุ่น RAM 8GB+128GB มีราคาอยู่ที่ ¥3699 (ประมาณ 19,500 บาท) ในขณะที่รุ่น 8+256GB มีราคา ¥3999 (ประมาณ 21,000 บาท) รุ่น 12+256GB ราคา ¥4299 (ประมาณ 22,600 บาท) และรุ่นบนสุด 12+512GB ราคา ¥4799 (ประมาณ 25,200 บาท) ตอนนี้เริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า และจะวางจำหน่ายในวันที่ 7 มกราคมนี้เป็นต้นไป
source: gizmochina