ภาพรวม OPPO A95
รีวิว OPPO A95 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม" จากทาง OPPO ครั้งนี้มาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ความจอใหญ่ การแสดงผลแจ่ม มาพร้อมแบตเตอรี่ที่อึด อยู่ยาวได้ทั้งวัน แถมยังชาร์จเร็วอีกด้วย!? เดี๋ยวรีวิวนี้มาดูกันครับว่า มันดีอย่างที่เค้าว่าไว้จริงๆ ไหม ...เราไปเริ่มกันเลยครับ!
แต่ก่อนอื่นขอสรุปจุดเด่น จุดสังเกตของเจ้า OPPO A95 กันสักหน่อยครับ
จุดเด่น
- OPPO Glow Design สวยจริงจัง! ยกการออกแบบมาจาก Reno Series
- จอแสดงผล AMOLED FHD+ punch-hole display 6.43 นิ้ว แสดงผลดีงามมาก!
- แบตเตอรี่อึด 5000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 33W Flash Charge
- ประสิทธิภาพเร็วแรง ใช้งานได้ลื่นไหลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 662
- สามารถเพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 13GB ด้วย RAM Expansion
จุดสังเกต
- หน้าจอไม่รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูง
- เป็นลำโพงเดี่ยว (แต่เสียงกระหึ่มมาก)
สำหรับการแกะกล่องพรีวิวนั้นสามารถตามไปอ่านได้ในบทความ แกะกล่องพรีวิว นี้ได้เลยครับ
สเปคของ OPPO A95
- หน้าจอ : 6.43 นิ้ว AMOLED FHD+ punch-Hole Display (ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล)
- มิติตัวเครื่อง : 160.32 มม. x 73.76 มม. x 7.95 มม.
- น้ำหนัก : 175 กรัม
- CPU : Qualcomm Snapdragon 662
- GPU : Qualcomm Adreno GPU 610
- RAM : 8 GB (+ RAM Expansion 5 GB รวม 13GB)
- ROM : 128 GB
- รองรับ micro-SD (Triple-Slot 2SIM + 1microSD)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : รองรับชาร์จไว 33W Flash Charge
- AI 3 กล้องหลัง
- กล้องหลัก 48 MP f/1.7
- กล้องมาโคร 2MP, f/2.4
- กล้อง Depth 2MP, f/2.4
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps
- กล้องหน้า 16MP f/2.4, รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p @30fps
- รองรับสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.0
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 (ColorOS 11.1)
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่
- สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver
- สีดำ Glowing Starry Black (สีที่รีวิว)
- ราคาเปิดตัวในประเทศไทย :
- x,xxx บาท (รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB)
ดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย
OPPO A95 มาพร้อมกับดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะในชื่อ "OPPO Glow Design" ที่มาพร้อมกับความระยิบระยับแวววับ โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล และสีที่นางแบบกำลังถืออยู่นี้เป็นสีดำประกาย Glowing Starry Black นั่นเองครับ
เรียกได้ว่ายกดีไซน์มาจาก Reno Series สวยทัดเทียมกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่เลยก็ว่าได้ครับ! การสัมผัสจับถือเค้ามาพร้อมกับเนื้อทรายละเอียด (แต่ผิวสัมผัสไม่หยาบ) ลูบไปก็จะมีความเนียนของผิวอยู่นั่นเองครับ มาพร้อมกับ Logo OPPO สีทองอร่ามที่อยู่มุมล่างด้านขวานี้เอง ช่วยขับให้สีดำมีมิติมากยิ่งขึ้น มีความหรูหราพรีเมี่ยมมากขึ้นครับ!
และฝาหลังของเค้าเป็นพื้นผิวแบบระยิบระยับ แต่ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือครับ ลองพยายามแกล้งเอานิ้วมือไปปั๊ม ถูๆ ไถๆ อยู่หลายรอบ แต่ไม่เกิดรอยนิ้วมือแต่อย่างใดเลยครับ ส่วนตัวคือชอบมากๆ เลยนะ (แต่ถ้ามือเปื้อนเหงื่อ หรือมีเหงื่อออก ก็อาจจะมีร่องรอยได้นิดหน่อยครับ)
มาพร้อมกับโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบโค้ง มาพร้อมกับ AI 3 กล้องหลัง และมีแฟลชอีกหนึ่งตัวครับ
ซึ่งลักษณะของโมดูลกล้องมีความระยิบระยับเป็นประกายตามสีชื่อของเค้าเลยครับ Glowing Starry Black หรือพูดให้เห็นภาพ เปรียบเสมือนดวงดาวที่ส่องประกายยามค่ำคืน สวยงามระยิบระยับมากๆ เลยล่ะ!
มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ตำแหน่งค่อนข้างดีเลยนะ! ไม่สูงเกินไป ไม่ต่ำเกินไป สแกนได้สบายๆ เลยครับ แถมความเร็วอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในปี 2021 นี้เลยครับ
ส่วนน้ำหนักจับถืออยู่ที่ 175 กรัมครับ ถือว่าน้ำหนักค่อนข้างเบาเลย รวมไปถึงมีความบางเพียงแค่ 7.95 มิลลิเมตรเท่านั้น การถือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานทำได้สบายๆ เลยล่ะ!
และด้านหลังของตัวเครื่องยังมีส่วนโค้งที่รองรับการจับถือให้ถนัดมือ ไม่หลุดมืดง่ายๆ ครับ เป็นอีกจุดนึงที่รู้สึกว่าเค้าใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ครับ
มาดูรอบๆ ตัวเครื่องกันสักหน่อยดีกว่า~ ด้านบนของตัวเครื่องมาเรียบๆ ครับ
ด้านล่างมาพร้อมกับ ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, พอร์ตชาร์จ USB Type-C, รูไมโครโฟน และลำโพงเดี่ยว
ด้านซ้ายมาพร้อมกับช่องใส่ถาดซิม เป็นถาดแบบ 3-Slot ครับ (รองรับ 2 SIM กับอีก 1 microSD)
มีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงอยู่ด้านเดียวกันนี้
ด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ครับ
ภาพรวมของดีไซน์ การออกแบบต่างๆ ถือว่ามาดีมากเลยล่ะครับ! OPPO Glow Design จากทาง OPPO เค้าออกแบบมาดีจริงๆ การจับผัสจับถือทำได้ดีเลยล่ะ
หน้าจอ AMOLED
OPPO A95 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว เป็นจอ AMOLED FHD+ punch-hole display เจาะรูเล็กๆ ที่มุมด้านบนซ้ายสำหรับกล้องหน้า ความละเอียด 16MP ที่มีขนาดเล็กกระปุ๊กกระปิ๊กน่ารักมากๆ เลยครับ!
เป็นจอความละเอียด FHD+ (ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล) สามารถดูคอนเทนต์ได้ตระการตามากๆ เลยครับ! การแสดงผล ความคมชัด เจนจัดตามสไตล์จอ AMOLED เลยครับ
การเสพคอนเทนต์ต่างๆ รวมไปถึงโซเชี่ยลมีเดียทำได้ดีมากจริงๆ ครับสำหรับหน้าจอตัวนี้! เค้ารองรับ DRM L1 ด้วยนะ! นั่นหมายความว่าเราสามารถดูบริการสตรีมมิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Disney+ hotstar, IQIYI และอื่นๆ ได้อย่างเต็มความละเอียดเลยล่ะ!
โหมดถนอมสายตา All-Day Eye Care
OPPO A95 มาพร้อมกับฟีเจอร์ All-Day Eye Care ที่ช่วยถนอมสายตาของเราในการใช้หน้าจอตลอดวันด้วยครับ! โดยที่จะประกอบไปด้วย
- AI Smart Backlight สามารถปรับแสงหน้าจอได้อย่างฉลาด ปรับความสว่างที่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ให้อย่างสบายตาต่อผู้ใช้ได้มากที่สุด
- DC Dimming ช่วยปรับเปลี่ยนความสว่าง ด้วยการปรับพลังงานบนหน้าจอ เพื่อลดการกระพริบของหน้าจอและป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตาในสภาพแสงต่างๆ
ประสิทธิภาพ
พูดถึงประเรื่องสิทธิภาพของ OPPO A95 กันสักหน่อยครับ
- Snapdragon 662
- RAM 8GB + RAM Expansion 5GB (รวม 13GB)
- ROM 128GB
สำหรับ Snapdragon 662 นั้นเรื่องประสิทธิภาพของเค้าอาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของความเร็วแรงในระดับท๊อปเหมือนกับพวกซีรีส์ 700 หรือ 800 ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับ Flagship หรือเรือธงครับ
ประสิทธิภาพของ Snapdragon 662 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโซเชี่ยลมีเดีย รวมไปถึงการดูหนังดูซีรีส์ต่างๆ ถือว่าทำได้ดีมากๆ เลยล่ะ! ไม่เจออาการหน่วงเลยครับ
เรียกได้ว่าการใช้งานดูหนังดูซีรีส์ เล่นโซเชี่ยลต่างๆ เรียกได้ว่าใช้งานได้แบบสบายๆ เลยล่ะ นอกจากจะมีหน้าจอแสดงผลที่ดีแล้ว ประสิทธิภาพก็ใช่ย่อยเลยนะ!
ส่วนการใช้งานที่หนักหน่วงขึ้นมา อย่างเช่นการเล่นเกม ผมก็ได้ไปทำการทดสอบการใช้งานที่ว่านั่นมาให้เพื่อนๆ ผู้อ่านเห็นภาพคร่าวๆ ว่า OPPO A95 นั้นทำอะไรได้ประมาณไหน สำหรับการใช้งานที่รีดประสิทธิภาพของ CPU ขึ้นมานั้น ได้ผลลัพธ์ดังนี้ครับ
RoV
การเล่นเกม MOBA ยอดฮิตของคนไทยอย่างเกม RoV ต้องบอกว่า OPPO A95 สามารถเปิดโหมดเฟรมเรตสูง และตั้งค่าได้อยู่ในระดับสูงเลยครับ แต่เนื่องด้วยเค้าเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง ส่วนตัวแล้วแนะนำให้เปิดการตั้งค่าอยู่ที่ระดับกลางๆ ก็จะสามารถเล่นได้ลื่นๆ ครับ!
Call of Duty Mobile
สำหรับเกม First Person Shooting อย่าง Call of Duty Mobile นั้นสามารถปรับตั้งค่าได้ระดับสูงสุดเลยครับ แต่ว่าจะโดนล็อคเฟรมเรตไว้ที่ระดับกลางนะครับ การเล็งยิงสามารถทำได้ลื่นไหลเลยล่ะ!
LoL WildRift
สำหรับเกม LoL WildRift สามารถปรับการตั้งค่ากลางค่อนสูง เปิด 60fps ได้ครับ ถึงแม้ว่าเค้าจะแจ้งเตือนมาว่า Loss Performance อยู่ในระดับสูง แต่การนำไปเล่นจริงๆ นั้น สามารถทำได้สบายๆ เลยล่ะสำหรับเกมนี้ 60 เฟรมเนียนๆ (แต่ถ้ามีทีมไฟต์ขนาดใหญ่ก็อาจจะมีอาการเฟรมดรอปบ้างเล็กน้อยครับ)
ภาพรวมของเรื่องประสิทธิภาพของ OPPO A95 นั้นต้องบอกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นชิปเซ็ตระดับท็อปๆ แต่ก็สามารถใช้งานในระดับทั่วๆ ไปได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไรครับ! การใช้งานดูหนังดูซีรีส์ เล่นโซเชี่ยลต่างๆ คือทำได้ดีมาก! เนื่องจากชิปเซ็ตระดับนี้เค้าสามารถรองรับการใช้งานระดับนี้ได้สบายๆ เลยล่ะ!
ส่วนการเล่นเกมหรือการใช้งานที่หนักหน่วงขึ้นมา สามารถทำได้ครับ แน่ก็แนะนำว่าให้ปรับตั้งค่าต่ำลงมาหน่อยเพื่อรับประสบการณ์ในการใช้งานที่ลื่นไหลเต็มประสิทธิภาพนั่นเองครับ!
โดยที่เรื่องของการจัดการอุณหภูมินั้นถือว่าทำได้ดีครับ สำหรับการเล่นเกมต่อเนื่องในการปรับตั้งค่า กลางค่อนสูง อุณหภูมิตัวเครื่องไม่เกิน 40 องศาเลย ถือว่าระบายความร้อนได้ดีมากๆ เลยครับ!
Game Space
สมาร์ทโฟนของ OPPO มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหล ด้วย Game Space
เราสามารถเพิ่มเกมที่ชื่นชอบลงใน Game Space เพื่อช่วยประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มความเร็วเครือข่าย เพิ่มการใช้หน่วยความจำในขณะเล่นเกม ทำให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหลมากยิ่งขึ้น สามารถเปลี่ยนโหมดได้ 3 โหมดด้วยกัน
- โหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ (ประหยัดแบตเตอรี่)
- โหมดสมดุล
- โหมดโปรเกมเมอร์ (ประสิทธิภาพสูงสุด)
โดยที่เราสามารถใช้ Game Assistant เพื่อช่วยในการตรวจสอบการเล่นเกม เปิด-ปิด การแจ้งเตือนต่างๆ สำหรับการเล่นเกม จะล็อคความสว่างหน้าจอผ่าน Shortcut ในตัวเกมได้เลย ก็เลือกปรับตามที่ต้องการได้เลยครับ!
RAM Expansion
โดยที่เรายังสามารถเพิ่ม RAM ได้มากขึ้นสูงสุดถึง 5GB ด้วย RAM Expansion ครับ หลักการก็คือจะนำพื้นที่ว่างของ Storage หรือ ROM ที่เหลือนั้น มาแปลงเป็นหน่วยความจำเสมือนได้ ณ ที่นี่คือสูงสุดถึง 13GB เลยครับ! (RAM 8GB + Expansion 5GB) เรียกได้ว่าช่วยให้การประมวลผลนั้นทำได้อย่างไหลลื่นมากยิ่งขึ้นไปอีก (ที่จริง 8GB ก็ลื่นไหลมากแล้วนะ!)
ColorOS 11.1
OPPO A95 มาพร้อมกับ ColorOS 11.1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยและความบันเทิงต่างๆ ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
FlexDrop
ช่วยให้ทำงานหลายอย่างได้พร้อมๆ กันได้อย่างราบรื่น~ สามารถปรับขนาดของแอปได้อย่างง่ายดาย จะปรับแอปเป็นหน้าต่างลอยขนาดเล็กและเปิดหน้าต่าง Full-Screen ก็สามารถทำได้! สามารถโต้ตอบการใช้งานได้อย่างอิสระเลยล่ะ!
Private Safe
สามารถบันทึกรูป วิดีโอ เสียง เอกสาร และไฟล์ส่วนตัวอื่นๆ ใน "Private Safe" เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวถึงขีดสุดได้! สามารถใช้งานออนไลน์บน Cloud (Sync บน HeyTap Cloud)
All-Scenario SOS
สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยปุ่มพาวเวอร์ติดต่อกัน 5 ครั้ง เพื่อเข้าใช้งาน Emergency SOS เพื่อโทรฉุกเฉิน แสดงข้อมูลที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้ครับ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ OPPO A95 มาพร้อมกับความจุขนาด 5,000 mAh ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยนะในสมาร์ทโฟนกลุ่มราคานี้
และยังรองรับการชาร์จไว 33W Flash Charge อีกด้วย ซึ่งความเร็วในการชาร์จนั้นสามารถทำได้ดีประมาณนึงเลยล่ะ เค้าเคลมไว้ว่าสามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ภายในเวลา 75 นาที (ในห้องแลปสำหรับทดสอบ) ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรนั้น ผมสรุปตัวเลขมาให้แบบนี้ครับ
- ชาร์จ 10 นาที ได้แบตเตอรี่ 15%
- ชาร์จ 20 นาที ได้แบตเตอรี่ 30%
- ชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 46%
- ชาร์จ 60 นาที ได้แบตเตอรี่ 83%
- ชาร์จ 1 ชั่วโมง 15 นาที ได้แบตเตอรี่ 97%
- จาก 0-100% ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 19 นาที
ก็เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับที่เค้าเคลมมาเลยครับ ตรงปกไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใดครับสำหรับความเร็วในการชาร์จ! :D
โดยที่เค้าเคลมว่า การชาร์จเพียง 5 นาที สามารถ
- ดู Youtube ได้ 1.81 ชั่วโมง
- โทรศัพท์ (Voice Call) ได้ 5.73 ชั่วโมง
- เล่น IG ต่อเนื่องได้ถึง 1.37 ชั่วโมง
ก็เรียกได้ว่า ชาร์จแป๊ปเดียว! ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวๆ เลยครับ~
ส่วนการใช้งานนั้นต้องบอกว่าสามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องเสียบชาร์จเลยล่ะ! หรือถ้าต้องชาร์จจริงๆ ก็เสียบแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น ก็จะได้แบตเตอรี่มาเพียงพอสำหรับใช้งานต่อเนื่องนานๆ แล้วครับ! เค้าจัดการพลังงานค่อนข้างดีเลยล่ะ
AI 3 กล้องหลัง
OPPO A95 มาพร้อมกับ AI 3 กล้องหลัง ซึ่งประกอบไปด้วย
- กล้องหลัง 48MP f/1.7
- กล้องมาโคร 2MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
ซึ่งการใช้งานถ่ายภาพต่างๆ บอกเลยว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยครับสำหรับกล้องของ OPPO A95 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีกล้องอัลตร้าไวด์ แต่ภาพรวมของการถ่ายภาพต่างๆ ถือว่าทำได้ดี และสนุก!
มาดูที่กล้องหลักความละเอียด 48MP กันก่อนเลยครับ ถึงแม้ว่าเค้าจะรองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล แต่ถ้าเราไม่ได้เปิดใช้งาน เค้าก็จะถ่ายที่ความละเอียดปกติที่ 12MP นะครับ ถ้าต้องการใช้งานไฟล์ภาพความละเอียดสูงจริงๆ ก็อย่าลืมไปกดเปิดการถ่าย HD พิเศษ ไว้ล่ะ!
จากการได้นำไปใช้ในการถ่ายต้องบอกว่ากล้องหลักของเค้ามาดีเลยนะ! ภาพสวย คมชัด ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยล่ะ! และยังมีอัลกอริทึ่มในการช่วยประมวลผลภาพที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง OPPO ด้วยแล้ว ทำให้การถ่ายภาพทำได้อย่างสนุกสนาน แถมยังได้รูปที่มีคุณภาพดีแบบจัดเต็มไปเลยล่ะ!
แต่พูดถึงแบรนด์ OPPO จะให้ถ่ายภาพเฉยๆ โดยที่ไม่มีลูกเล่นอะไร มันก็คงจะไม่ใช่สักเท่าไหร่ครับ!? เนื่องจาก OPPO เค้าพิถีพิถันในเรื่องของการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เค้าก็จะมีโหมดและลูกเล่นต่างๆ มาให้เพียบเลยล่ะ!
Portrait Mode ภาพถ่ายบุคคล
OPPO A95 มาพร้อมกับ Depth Sensor 2MP ที่ทำงานร่วมกับกล้องหลัก เพื่อทำให้ความชัดตื้นทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น! ซึ่งจากการนำไปถ่ายโหมดบุคคลนั้น สามารถตัดขอบตัวบุคคลได้ดีเลยล่ะ ถ้าเป็นวัตถุที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไปก็ทำได้เนียนเลยครับ! (แต่ถ้าผมยุ่งๆ ซับซ้อนมากเกินไป ก็อาจจะมีหลุดไปบ้าง เป็นเรื่องปกติของการถ่ายภาพโหมดบุคคลบนสมาร์ทโฟนครับ)
มี Filter ให้เลือกเพียบบ!
มีให้เลือกมากถึง 15 แบบเลย! สำหรับฟิลเตอร์การถ่ายภาพของ OPPO A95 ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุก และมีลูกเล่นเยอะมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกโทนตามใจชอบได้เลยนะ! ชอบแบบไหนก็จัดไปให้สุดฟอร์มได้เล้ยย~
AI Scene Enhancement
OPPO A95 ใช้ AI ตรวจสอบองค์ประกอบรวมของภาพ เพื่อปรับแต่ง สี ความอิ่มตัว ความสว่าง ให้เหมาะสมกับฉากนั้นๆ เช่น ถ่ายอาหาร ถ่ายตึก ถ่ายพืชสีเขียว ก็จะช่วยบูสต์ความสด ความอิ่มของภาพนั้นๆ ให้ออกมาสวยงาม โดยที่เราไม่ต้องไปแต่งเพิ่มเลยล่ะ!
AI Beautification
ขาดไปไม่ได้ครับ สำหรับเรื่องของความฟรุ๊งฟริ๊ง! เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของกล้องถ่ายภาพของ OPPO เลยก็ว่าได้ครับ เค้าจะทำหน้าที่ช่วยเกลี่ยผิวให้เรียบเนียนสว่างกระจ่างใส สกินโทนที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติมากๆ เลยนะ!
ซึ่งถ้าเราต้องการที่จะปรับแก้ไขบางส่วนของใบหน้า อยากตาโต จมูกโด่ง บีบแก้ม เราสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับที่เราต้องการได้เลยครับในส่วนนี้ จากการใช้งานมาต้องพูดว่า "สาวๆ จะต้องถูกใจกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน" เลยล่ะครับ~
Night Mode
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับราคากลางๆ ที่อาจจะไม่ได้จัดเต็มเรื่องฮาร์ดแวร์ที่ใช้มากมายนัก แต่เค้าสามารถเนรมิตรเรื่องของซอฟต์แวร์ ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนนั้น โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อเลยครับ!
สำหรับการถ่ายภาพตอนกลางคืนนั้น ตัวผมเองตอนที่ลองไปเก็บภาพถ่ายตอนกลางคืนพอเห็นหลังกล้องก่อนถ่าย ก็คิดว่าก็คงทำได้ในระดับทั่วๆ ไปในเรทราคาประมาณนี้แหละ เพราะดูจากพรีวิว ก็จะเห็นว่ามี Noise และความแตกของภาพค่อนข้างเยอะครับ!?
แต่มันเป็นจะเป็นอีกเรื่องนึงเลย! ..พอเรากดถ่ายเท่านั้นแหละ!? ภาพจะถูกทำให้คมขึ้น สีสันจะถูกบูสต์ขึ้นมา ความคมชัดต่างๆ ผมถึงกับร้องอุทานว่า "เฮ้ยย! จริงดิ" เลยนะ กับการถ่ายภาพกลางคืนครั้งแรก คือทำมาได้ดีจริงๆ ครับ!
กล้องมาโคร 2MP
สำหรับกล้องมาโครให้ความละเอียดมาที่ 2MP สามารถเข้าใกล้ได้ที่ระยะ 4 เซ็นติเมตรครับ ถือว่าเข้าใกล้ได้ในระดับนึงครับ คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลยนะ!
กล้องหน้า 16MP
การถ่ายเซลฟี่ของ OPPO A95 นั้นสามารถทำออกมาได้ดีมากๆ ครับ! ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนของ OPPO นั้น เรื่องกล้องหน้าเค้าไม่ยอมทำให้ตัวเองเสียชื่ออยู่แล้ว!?
ตัวอย่างภาพถ่ายก็จะเห็นได้ว่าเราได้พลังของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ช่วยทำงานร่วมกันทำให้เกิดภาพถ่ายกล้องหน้าที่มีมิติ ความคมชัด ต่างๆ ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยครับ!
ไปดูภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าของ OPPO A95 กันสักหน่อยดีกว่าครับ!
แถมเค้ายังสามารถใช้โหมดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเตอร์, AI Beautification และโหมดภาพถ่ายบุคคลจากกล้องหน้าได้เช่นเดียวกัน!
แม้แต่ตอนถ่าย Front Night Mode หรือโหมดกลางคืนจากกล้องหน้านั้น ก็สามารถทำออกมาได้ดีเลยครับ! ผมได้จำลองสถานการณ์โดยไปถ่ายในห้องที่ค่อนข้างมืดตามภาพที่เห็นเลย (ถ่ายภาพให้ใกล้เคียงกับสภาพแสงที่สุด)
แล้วให้นางแบบทำการถ่ายภาพเซลฟี่ ผลที่ได้ออกมานั้นถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดมากเลยล่ะ! มีการบูสต์แสง บูสต์สีขึ้นมา ทำให้ได้ภาพที่ค่อนข้างสว่างกว่าสภาพแสงจริงมากๆ ครับ แถมการจัดการกับ Noise นั้นทำได้อยู่ในระดับที่ดีเลยนะ!
เรียกได้ว่ามาดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังจริงๆ ครับ สำหรับ OPPO A95 ตัวนี้ ซอฟต์แวร์ของเค้าทรงพลังมากๆ เลยล่ะ!
วิดีโอ
OPPO A95 สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 30fps
โดยคุณภาพของวิดีโอที่ได้ออกมานั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยล่ะ! ผมได้ลองถ่ายวิดีจาก OPPO A95 และนำมาตัดต่อใส่เพลงแบบง่ายๆ ลองไปดูวิดีโอตัวอย่างกันได้เลยครับ ส่วนตัวแล้วค่อนข้างพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากสมาร์ทโฟนตัวนี้มากเลยนะ :D
มีลูกเล่นการทำ Slow-Mo ให้ด้วยนะ มีเครื่องเดียวก็ครบเครื่อง! จะถ่ายรูปก็ดี วีดีโอก็ได้ โหมดมีให้เล่นหลากหลายเลยล่ะ!
สรุปภาพรวมการใช้งาน!
จากการได้ใช้งาน OPPO A95 แบบจริงๆ จังๆ มาเป็นระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ ต้องบอกเลยว่าเค้าเป็นสมาร์ทโฟนที่ "สุดฟอร์ม" ตามคอนเซ็ปต์ "สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม" ตามที่เค้าชูมาเลยล่ะครับ!
เรื่องดีไซน์โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล กับการออกแบบ OPPO Glowing Design ที่สวยงามดุจดั่งดวงดาวระยิบระยับยามค่ำคืน (สำหรับสี Glowing Starry Black นะครับ) ที่มีสัมผัสเรียบเนียน แต่พื้นผิวเปรียบเสมือนเม็ดทราย แถมยังติดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ มองว่าเป็นจุดเด่นของเรื่องดีไซน์เค้าเลยล่ะครับ!
ส่วนเรื่องหน้าจอทำมาได้ดีงามมากๆ จริงๆ การแสดงผลคมชัด สีสันสดใส ความอิ่มของสีทำได้ดีมากตามสไตล์ของจอ AMOLED เลยล่ะ! การเสพคอนเทนต์ต่างๆ ดูหนังดูซีรีส์ทำได้ดีมากๆ เลยล่ะ~
เรื่องประสิทธิภาพก็ไม่น้อยหน้าเลยครับ สามารถเพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 13GB ด้วย RAM Expansion ที่จะช่วยให้การประมวลผลต่างๆ ทำได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่า 8GB จริงๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่สามารถเพิ่มได้อีก 5GB ก็จะยิ่งทำให้เร็วไปอีกกก~ นั่นเองครับ!
จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ภาพรวมมาดีมากๆ ครับ สำหรับ OPPO A95 ตัวนี้ ก็เปิดตัวเปิดราคาไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
OPPO A95 มาด้วยกัน 2 สี ได้แก่สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver และ สีดำ Glowing Starry Black ส่วนราคาวางจำหน่ายนั้นอยู่ที่
- รุ่น 8GB + 128GB ราคา 9,499 บาท
เปิดให้จองก่อนใครตั้งแต่วันที่ 19-23 พฤศจิกายนนี้ ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของสมนาคุณดังต่อไปนี้
- E-VIP Card ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และรับประกันหน้าจอ มูลค่า 3,900 บาท
- Mini Suit Case มูลค่า 1,299 บาท
มูลค่ารวมกว่า 5,199 บาท!? #ของมันต้องมีแล้วไหมล่ะ!
พิเศษ! ราคาเริ่มต้นเพียง 3,999 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็คเกจเครือข่ายที่ร่วมรายการ! มาสมาร์ทไปให้สุดฟอร์มได้พร้อมๆ กัน วันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป!
สำหรับรีวิว OPPO A95 ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ! อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ