Intel ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ 12th Gen Core รุ่นใหม่สำหรับเดสก์ท็อป รวมทั้งหมด 6 รุ่นโดยเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้สถาปัตยกรรม Alder Lake ของบริษัทโดยใช้กระบวนการผลิต 10nm
3 จาก 6 รุ่นที่เปิดตัวในวันนี้ ได้แก่ Core i9-12900K, Core i7-12700K และ Core i5-12600K ส่วนที่เหลืออีก 3 รุ่นเป็นตระกูล KF ซึ่งหมายถึงไม่มี GPU ในตัว
นอกเหนือจากสถาปัตยกรรมใหม่แล้ว คุณลักษณะเด่นของ CPU เจเนอเรชันนี้จาก Intel คือการเปลี่ยนไปใช้การออกแบบคอร์แบบไฮบริด แทนที่จะใช้หลายคอร์ที่มีประสิทธิภาพเหมือนกันเป็นหลัก นั่นก็คือ การออกแบบ Alder Lake ใช้การผสมผสานระหว่าง Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores)
ในทางทฤษฎี มันจะทำงานในลักษณะเดียวกับโปรเซสเซอร์ส่วนใหญ่ในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป M-series รุ่นใหม่ของ Apple โดย P-cores จะเน้นการทำงานหนักเมื่อแอปพลิเคชันต้องการประสิทธิภาพสูงสุด แต่สมมติว่าคุณมีเพลงที่เล่นอยู่เบื้องหลังหรืองานระดับต่ำอื่นๆ ตัว E-cores จะเข้ามาดูแลแทน และจะใช้พลังงานน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับคอร์ประสิทธิภาพ
วิธีจัดวางการออกแบบ CPU ในชิปใหม่เหล่านี้ มีเพียงคอร์ประสิทธิภาพเท่านั้นที่สามารถทำงานแบบมัลติเธรดได้ ซึ่งหมายความว่าใน 16-core i9-12900K คุณมี 8 P-cores และ 8 E-cores รวมเป็น 24 เธรด ในทำนองเดียวกัน 10-core i5-12600K มี 6 P-cores และ 4 E-cores รวมเป็น 16 เธรด
และเนื่องจากการออกแบบคอร์ที่แยกกัน ตอนนี้ Intel จึงได้ระบุความเร็วพื้นฐาน ความเร็วบูสต์ และความเร็ว Overclock สูงสุดสำหรับ P-cores และ E-Cores เอาไว ตัวอย่างเช่น ในรุ่น 12900K จะมีความเร็วฐาน 3.2GHz, ความเร็วบูสต์ 5.1GHz และความเร็ว Overclock สูงสุดที่ 5.2GHz สำหรับ P-cores ในขณะเดียวกัน E-cores มีความเร็วพื้นฐาน 2.4GHz และความเร็วบูสต์ 3.9GHz
นอกจากนี้ขนาดแคชก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยรุ่น i9 ได้รับแคช L3 30MB, i7 ได้รับ 25MB และ i5 ได้รับ 20MB และสำหรับรุ่นที่มี GPU ในตัว คุณจะได้รับ Intel UHD Graphics 770 อีกด้วย
ด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่เหล่านี้ Intel จะเปลี่ยนไปใช้ชิปเซ็ตใหม่ Z690 ที่จะใช้ซ็อกเก็ต LGA1700 ใหม่ ซึ่งหมายความว่าทั้งเมนบอร์ดใหม่และ CPU ใหม่ต้องใช้ร่วมกันถึงจะสามารถใช้งานได้ในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้น่าจะเห็นเมนบอร์ดจากผู้ผลิตอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาแน่นอน
ชิปรุ่นที่ 12 ใหม่ ยังเป็นชิปตัวแรกที่สนับสนุนหน่วยความจำ DDR5 พร้อมรองรับ DDR5 4800 MT/s แบบเนทีฟและปลดล็อกความเร็วที่สูงกว่าผ่านโปรไฟล์ XMP 3.0 ใหม่ ชิปยังรองรับหน่วยความจำ DDR4 แต่ไม่รองรับทั้งหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่เวลาซื้อมาเธอร์บอร์ด คุณจะต้องเลือกอันที่รองรับหน่วยความจำ DDR5 หรือ DDR4 และคุณสามารถใช้หน่วยความจำนั้นกับบอร์ดนั้นเท่านั้น
โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 12 ยังเป็นรุ่นแรกที่รองรับ PCIe 5.0 คุณได้รับ 20 PCIe lanes จาก CPU ซึ่ง 16 เป็น PCIe 5.0 และสี่ที่เหลือคือ PCIe 4.0
และด้วยชิปใหม่เหล่านี้ ในที่สุด Intel ก็ละทิ้งการให้คะแนน TDP ที่คลุมเครือออกไป และตอนนี้ได้จัดอันดับพลังงานโดยตรงสำหรับพลังงานพื้นฐานและพลังเทอร์โบสูงสุด ผู้ใช้จึงมีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับพลังงานและคุณลักษณะทางความร้อนของชิปก่อนที่จะเลือกการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น Core i9-12900K มีระดับพลังงาน 125W สำหรับการใช้พลังงานพื้นฐานที่นาฬิกาพื้นฐานและ 241W ที่นาฬิกาเทอร์โบสูงสุด ในขณะที่ i5-12600K คือ 125W และ 150W ตามลำดับ เป็นต้น
ในแง่ของประสิทธิภาพ Intel อ้างว่าโปรเซสเซอร์รุ่นที่ 12 ใหม่เป็นโปรเซสเซอร์สำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเปรียบเทียบกับ Ryzen 9 5950X จากการทดสอบเกมจำนวน 31 เกม รวมถึงบริษัทยังอ้างว่าประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นกว่าชิป Intel รุ่นก่อนอีกด้วยเช่นกัน
โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 เปิดราคาเริ่มต้นที่ 264 ดอลลาร์สำหรับ Core i5-12600KF (ประมาณ 8,800 บาท) และสูงถึง 589 ดอลลาร์สำหรับ Core i9-12900K (ประมาณ 19,600 บาท) โดยตอนนี้เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว และจะวางจำหน่ายในวันที่ 4 พฤศจิกายนพร้อมกับเมนบอร์ด Z690 ใหม่
source: gsmarena