ตามรายงานของ Business Insider มีเจ้าของ iPhone ชื่อ Theodore A. Kim ได้ทำเรื่องฟ้อง Apple ในราคา $1,383.13 นั่นคือราคาของ iPhone 12 ของ Kim นั่นเอง ที่ฟ้องร้อง Apple ในเรื่องที่บริษัทปฏิเสธที่จะซ่อมอุปกรณ์ของเขาทั้งที่ยังอยู่ภายใต้การรับประกัน โดย Kim ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือของเขาในเวียดนามในเดือนตุลาคม 2020 และการรับประกันจะมีผลจนถึงเดือนตุลาคม 2022 ตามเจ้าของอุปกรณ์ให้ข้อมูล
โดยนาย Kim ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยตอนที่กลับสหรัฐฯ ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ จากนั้น iPhone ของเขามีปัญหาในการอ่านซิมการ์ดของสหรัฐฯ เขาจึงได้โทรหา Apple และบริษัทแนะนำให้เขานำโทรศัพท์ไปเข้าศูนย์บริการที่ Apple Store ซึ่งเขาก็ทำเช่นนั้น
Kim อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปว่า “ผมนำมือถือมาที่ Store และพวกเขาส่งไปที่คลังซ่อม ต่อจากนั้นพวกเขาก็กลับมาและพูดว่า 'เราจะไม่แก้ไขปัญหานี้เพราะมันถูกดัดแปลง' แล้วเจ้าของมือถือก็ถามกลับว่า "ดัดแปลงยังไง?" แต่ Apple ก็ไม่ได้ตอบกลับมา
แต่เมื่อ Kim ได้โทรศัพท์ iPhone 12 กลับคืนมา ก็พบว่าถาดใส่ซิมพังไปแล้ว จากนั้น Kim ยื่นเรื่องร้องเรียนกับหน่วยงาน Better Business Bureau (BBB) โดยอ้างว่าถาดใส่ซิมได้รับความเสียหายเมื่อโทรศัพท์อยู่ในความครอบครองของ Apple ซึ่ง Apple ตอบโต้เชิงปัดความรับผิดชอบว่า หากถาดใส่ซิมพังตอนที่อยู่กับ Apple ทางบริษัทก็จะซ่อมอุปกรณ์ให้อยู่แล้ว และตอนนี้ก็ถือว่าเรื่องนี้ปิดลงแล้ว
และในเมื่อการรับประกันเป็นโมฆะ Kim ยังเสนอให้จ่ายค่าซ่อม iPhone ของเขาเอง แต่ Apple ก็ปฏิเสธการซ่อมเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจส่งอีเมลถึง Tim Cook CEO ของ Apple ในปลายเดือนมิถุนายน แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากผู้บริหารหรือบริษัทเลย ดังนั้นเขาลองค้นหาวิธีจัดการเรื่องนี้ในอินเทอร์เน็ต และพบบล็อกที่เขียนขึ้นในปี 2012 โดยคนที่ฟ้อง Apple ใน Small Claims Court ในซีแอตเทิล (ชื่อของโพสต์ในบล็อกระบุว่า "Suing Apple") Kim จึงตัดสินใจฟ้อง Apple ด้วยเหตุผลดังกล่าวในแบบที่ David เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เคสนี้ดูเหมือนจะเพิ่งเริ่มและยังไม่รู้ตอนจบครับว่าจะเป็นอย่างไร แต่แหล่งข่าวเชื่อว่าเคสของนาย Kim นี้หาก Apple ยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ก็น่าจะจบได้ไม่ยาก อันนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ แต่ถ้ามีข้อมูลเมื่อไหร่เราจะรีบมาอัพเดตให้ทราบครับ
source: phonearena